Thesis
Permanent URI for this collection
Browse
Browsing Thesis by Issue Date
Now showing 1 - 20 of 386
Results Per Page
Sort Options
Item ความคิดเห็นของผู้ปกครองต่อการเรียนวิชาชีพเฉพาะทาง วิทยาลัยนาฏศิลป กรมศิลปากร(สถาบันราชภัฏสวนดุสิต, 2003) กนิษฐา มิสเกตุการวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้ปกครองต่อการเรียนอาชีพเฉพาะทางวิทยาลัยนาฏศิลป์ จําแนกตามภูมิหลังของผู้ปกครอง ดําเนินการวิจัยเชิงสํารวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นปกครองของนักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์ ปีการศึกษา 2545 จํานวน 327 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บนรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.9272 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test, F-test และเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ (Scheffe)Item ความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาครูกับการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญของครูโรงเรียนเอกชน สายสามัญ เขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2005) ลดาวัลย์ คารวะสิริธรรมการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาครูกับการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสําคัญของครูโรงเรียนเอกชนสายสามัญ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสํารวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครู จํานวน 228 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีค่าความเชื่อมั่นการพัฒนาครูเท่ากับ 0.86 และค่าความเชื่อมั่นการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสําคัญเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Coefficient Correlation)Item ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของเทศบาลตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2006) กาญจนา สัจจวทีกุลการวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบ ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของเทศบาลตําบลท่าข้าม อําเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จําแนกตามภูมิหลังของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนที่พักอาศัยอยู่บริเวณเทศบาลตําบลท่าข้าม อําเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จํานวน 350 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 856 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test, F-testItem ทรรศนะของลูกจ้างต่อการคุ้มครองแรงงานที่ทำงานล่วงเวลา ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : ศึกษาในอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า สิ่งทอ พื้นที่เขตบางแค(บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต, 2006) สุนีรัตน์ พรหมมาศการวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทรรศนะของลูกจ้างต่อการคุ้มครองแรงงานที่ทํางานล่วงเวลา ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 : ศึกษาในอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าสิ่งทอ พื้นที่เขตบางแค และเปรียบเทียบทรรศนะของลูกจ้างที่มีต่อการคุ้มครองแรงงานที่ทํางานล่วงเวลา ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ใน 8 ด้าน คือ ด้านการทํางานล่วงเวลาทํางานปกติ ด้านการทํางานล่วงเวลาในวันหยุด ด้านการจ่ายค่าล่วงเวลา ด้านชั่วโมง การทํางานล่วงเวลา ด้านการได้รับความยินยอมให้ทํางานล่วงเวลา ด้านการใช้แรงงานหญิง ด้านการใช้แรงงานเด็ก และด้านความปลอดภัยในการทํางาน โดยใช้การวิจัยเชิงสํารวจจากกลุ่ม ตัวอย่างที่เป็นลูกจ้างจํานวน 395 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 4 สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าที (t-test) ค่าเอฟ (F - test) และที่ระดับนัยสําคัญ 05 ใช้การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยราย ด้วยวิธีเซฟเฟ (Scheffe's Multiple Contrast)Item การประเมินโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในจังหวัดพังงา(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2007) ทัดกมล เที่ยงตันการวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการดําเนินงานของโครงการ หนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในจังหวัดพังงา ตามทัศนะของสมาชิกโครงการที่มีต่อความสําเร็จของโครงการ และเปรียบเทียบผลการประเมินตามประเภทของผลิต ใช้วิธีการวิจัย เชิงสํารวจจากประชากรที่เป็นสมาชิกโครงการหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในจังหวัดพังงา โดยสุ่มตัวอย่างจํานวน 156 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ทําการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา (Descriptive Statistics) การวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA) และการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีเซฟเฟItem กลยุทธ์การตลาดด้านการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ของชุมชนท่าด่านโฮมสเตย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2007) ฤทัยรัตน์ ก่อเกียรติสกุลชัยการศึกษาเรื่องกลยุทธ์การตลาดด้านการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ของชุมชน ท่าด่านโฮมสเตย์ อําเภอเมือง จังหวัดนครนายก เพื่อศึกษาและวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของชุมชนท่าด่านโฮมสเตย์ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยผู้ศึกษาได้ทําการวิเคราะห์ ข้อมูลจากการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) ผู้ประกอบการด้านบ้านพัก ด้านกิจกรรม การท่องเที่ยว และ ด้านสินค้าที่ระลึก ของชุมชนท่าด่านโฮมสเตย์ มีแนวทางการใช้กลยุทธ์การตลาดในด้านผลิตภัณฑ์ (สินค้า/บริการ) ด้านราคา ด้านสถานที่ ด้านการส่งเสริมการตลาด โดยวิเคราะห์ข้อมูล จากเอกสาร (Document Analysis) วิเคราะห์เชิงพรรณนา (Descriptive Analysis)Item ความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อการให้บริการของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ศูนย์ธุรกิจภูเก็ต(บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2007) ธิดารัตน์ รัตนาการวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อการให้บริการของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยศูนย์ธุรกิจ จําแนกตามข้อมูลทั่วไปของลูกค้า ใช้วิธีการวิจัยเชิงสํารวจจากกลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นลูกค้า จํานวน 200 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.05 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบทีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการเปรียบเทียบ ค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีเซฟเฟItem ปัจจัยการตัดสินใจซื้อยาแผนโบราณของผู้บริโภคในเขตเมือง จังหวัดชลบุรี(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2007) จิราพร ภิญญากรณ์การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ปัจจัยการตัดสินใจซื้อยาแผนโบราณของผู้บริโภคในเขตอําเภอเมือง จังหวัดชลบุรี และเปรียบเทียบปัจจัยการตัดสินใจซื้อยาแผนโบราณของผู้บริโภค โดยจําแนกตามคุณลักษณะส่วนบุคคลของผู้บริโภค โดยผู้ศึกษาใช้วิธีการศึกษา คือ การวิจัยเชิงสํารวจ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .8828 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้บริโภคยาแผนโบราณในเขตอําเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จํานวน 400 คน ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามทั้งหมดวิเคราะห์โดยโปรแกรมสําเร็จรูปทางสถิติ โปรแกรมสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีเชฟเฟItem ประสิทธิผลโครงการฝากบ้านกับตำรวจของสถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 1(บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต, 2007) ธนากร สุพลจิตร์การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิผลโครงการ ฝากบ้านกับตํารวจของสถานีตํารวจนครบาลพลับพลาไชย 1 จําแนกตามข้อมูลทั่วไปของประชาชนการวิจัยเชิงสํารวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชน จํานวน 300 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ การวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว และการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีเซฟเฟItem ความสัมพันธ์ระหว่างความจงรักภักดีต่อองค์กรกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายส่งกำลัง โรงเรียนเตรียมทหาร(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2007) คณธัช ทองวิชิตการวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความจงรักภักดีต่อองค์กรของเจ้าหน้าที่สายส่งกําลังศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายส่งกําลัง และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความจงรักภักดีต่อองค์กรกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายส่งกําลัง โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสํารวจกับกลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นข้าราชการและปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่สายส่งกําลังของโรงเรียนเตรียมทหาร จํานวน 107 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ด้านความจงรักภักดีต่อองค์กร เท่ากับ 0.93 โดยมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามด้านผู้บังคับบัญชา เท่ากับ 0.84 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามด้านผู้ใต้บังคับบัญชา เท่ากับ 0.86 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ด้านเพื่อนร่วมงาน เท่ากับ 0.79 และค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ด้านหน่วยงาน เท่ากับ 0.77 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ด้านแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน เท่ากับ 0.93 โดยมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ด้านแรงจูงใจภายใน เท่ากับ 0.91 และค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ด้านแรงจูงใจภายนอก เท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ข้อมูลในการดําเนินการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันItem คุณภาพการให้บริการภายหลังการดำเนินโครงการอำเภอยิ้ม อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) อำนาจ ชมภูนิชการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อคุณภาพการให้บริการภายหลังการดําเนินโครงการอําเภอยิ้มของอํานครชัยศรี จังหวัดนครปฐม จําแนกตามสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสํารวจกับกลุ่มตัวอย่างจํานวน 395 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ (Sheffe Method)Item การดำเนินงานตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) ภาวิณี เสนาการการวิจัยเรื่อง การดําเนินงานตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา และเปรียบเทียบการดําเนินงานตามหลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานของสถานศึกษา สังกัด สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 โดยใช้วิธีการศึกษาเชิงสํารวจ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารสถานศึกษา จํานวน 17 คน ครูผู้สอน จํานวน 193 คน และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จํานวน 139 คน รวมทั้งสิ้น 349 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม ซึ่งมีความเชื่อมั่น 91 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One - Way ANOVA) และการเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ (The Scheffe' s Method)Item ความคาดหวังของประชาชนต่อคุณลักษณะของสมาชิกสภาเทศบาลเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) ณัฐพจน์ สุเสวนานนท์การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา และเปรียบเทียบ ความคาดหวังของประชาชน ต่อคุณลักษณะของสมาชิกสภาเทศบาลเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จําแนกตามภูมิหลังของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตเทศบาล เมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จํานวน 381 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.83 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, t-test, การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และวิธีการเปรียบเทียบ ค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีเชฟเฟ (Scheffe's)Item คุณภาพการให้บริการของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ ภายหลังการใช้ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM)(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) อริสา ก้อนนาคการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้ใช้บริการต่อคุณภาพการให้บริการของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สํานักงานใหญ่ ภายหลังการใช้ระบบบริหารความสัมพันธ์ ลูกค้า (CRM) จําแนกตามภูมิหลังของผู้ใช้บริการ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสํารวจกับกลุ่มตัวอย่าง จํานวน 393 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test, F- test และการเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ (Sheffe Method)Item ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดเห็นต่อระบบการประเมินผล การปฏิบัติงานกับประสิทธิผลการทำงานของข้าราชการ กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) เรวัฒ ธรรมจิรเดชการวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างความคิดเห็นต่อระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานกับประสิทธิผลการทํางานของข้าราชการกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความคิดเห็นต่อระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานกับประสิทธิผลการทํางานของข้าราชการกองร้อยลาดตระเวน ระยะไกลที่ 3 กองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ข้าราชการกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล จํานวน 125 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็น แบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 9516 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ทีเทส (t-test), การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA), การเปรียบเทียบรายคู่ด้วยเชฟเฟ (Scheffe's) และการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson's Coefficient)Item ทรรศนะของผู้ประกอบการร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ที่มีต่อกิจกรรมทางการตลาด(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) กรวิชญ์ อินโพธิ์การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทรรศนะของผู้ประกอบการร้านค้าปลีก แบบดั้งเดิมในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาที่มีต่อกิจกรรมทางการตลาด และเปรียบเทียบทรรศนะจําแนกตามลักษณะทางประชากรศาสตร์ ของผู้ประกอบการและลักษณะทางธุรกิจ ของร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ใช้วิธีการวิจัยเชิงสํารวจจากประชากรที่เป็นผู้ประกอบการร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม โดยสุ่มตัวอย่างจํานวน 337 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .97 วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย ระหว่างกลุ่ม และ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวItem ความพร้อมของบุคลากรองค์การบริหารส่วนตำบลในการรับการถ่ายโอนสถานศึกษาตามความคิดเห็นของบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตำบล(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) ณรงค์ศักดิ์ เพียรเสร็จการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความพร้อมขององค์การบริหารส่วนตําบลในการรับการถ่ายโอนสถานศึกษาตามความคิดเห็นของบุคลากรขององค์การบริหารส่วนตําบล อําเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ จําแนกตามอายุ ระดับการศึกษา ตําแหน่งหน้าที่และประสบการณ์ในการทํางาน โดยวิธีการวิจัยเชิงสํารวจจากความคิดเห็นของประชากรประกอบด้วย ตัวแทนคณะผู้บริหาร พนักงานส่วนตําบลและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบล จํานวน 709 คน กําหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโรยามาเน (Taro Yamane) ที่ค่าความคลาดเคลื่อน ร้อยละ 5 ได้กลุ่มตัวอย่างจํานวน 256 คน และใช้การสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่ายโดยใช้สัดส่วนและการจับฉลาก ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลโดย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One - way ANOVA) และเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วย LSD. (Least Significant Difference)Item ความคาดหวังของครูพลศึกษาต่อบทบาทการบริหารกิจกรรมพลศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) คมสัน พวงแก้วการวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคาดหวังของครูพลศึกษาต่อบทบาทการบริหารกิจกรรมพลศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครจําแนกตามสถานภาพของครูพลศึกษา ใช้วิธีการวิจัยเชิงสํารวจจากตัวอย่างที่เป็นครูพลศึกษา จํานวน 219 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบทีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและใช้การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย รายคู่ด้วยวิธีเชฟเฟItem คุณภาพในการให้บริการด้านการนำเข้าสินค้าของกรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) สมเกียรติ ดุษฎีโสภาพรการวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา และเปรียบเทียบคุณภาพในการให้บริการ ด้านการนําเข้าสินค้าของกรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย จําแนกตามภูมิหลังของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้รับบริการด้านการนําเข้าสินค้าของกรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย จํานวน 283 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 8992 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวItem กลยุทธ์การสื่อสารเพื่อการพัฒนาชุมชนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของผู้นำชุมชน จังหวัดนครศรีธรรมราช(มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, 2008) โศภิตา คงหอมการวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อการพัฒนาชุมชนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของผู้นําชุมชน จังหวัดนครศรีธรรมราช จําแนกตามภูมิหลังของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้วิธีการวิจัยเชิงสํารวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้นําชุมชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช จํานวน 175 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที (t - test) การวิเคราะห์ความแปรปรวน ทางเดียว (One - way ANOVA) ใช้การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีเซฟเฟ (The Scheffe' Method)