SDP-Public Opinion Poll : Public Survey Results

Browse

Recent Submissions

Now showing 1 - 20 of 484
  • Item
    คนไทยกับสงกรานต์ (Soft Power)
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2025-04-13) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศต่อกรณี “คนไทยกับสงกรานต์ (Soft Power)” พบว่า สงกรานต์ปีนี้ ตั้งใจจะเข้าวัด ทำบุญ สรงน้ำพระ ร้อยละ 60.86 จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 67.34 ไม่กังวลกับการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ (ไม่ค่อยกังวล ร้อยละ 34.44 และไม่กังวล ร้อยละ 32.90) หากสงกรานต์ไทยจะเป็น Soft Power ระดับโลก คิดว่าหัวใจของสงกรานต์ไทย คือ วิธีเล่นน้ำที่สุภาพ สนุก และปลอดภัย ร้อยละ 63.56
  • Item
    คนไทยกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2025-04-06) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศต่อกรณี “คนไทยกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,239 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-4 เมษายน 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างติดตามข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหวจากสื่อโซเชียลมีเดีย (เฟซบุ๊ก เอ๊กซ์ ติ๊กต็อก ยูทูป ไลน์) มากที่สุด ร้อยละ 89.11 และมีความกังวลต่อภัยพิบัตินี้ ร้อยละ 84.91 จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้ประชาชนค่อนข้างกังวลต่อความปลอดภัยและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ร้อยละ 48.83 ส่งผลให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการติดตามข่าวสารต่างๆมากขึ้น ร้อยละ 79.43 ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างต้องการให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีระบบติดตาม แจ้งเตือนภัยพิบัติที่รวดเร็ว แม่นยำ ร้อยละ 72.18 รองลงมาคือ ยกระดับเรื่องภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ ร้อยละ 45.10
  • Item
    ความเชื่อมั่น “ครูไทย” ปี 2559 ที่ผ่านมา
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2017-01-15) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    ในช่วงวันครูแห่งชาติ “สวนดุสิตโพล” ได้จัดทำดัชนี “ความเชื่อมั่นครูไทย” ประจำปี 2559 เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์และความรู้สึกของประชาชนต่อบทบาทของครูไทยในสังคม โดยทำการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศจำนวน 8,124 คน ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2559 – 13 มกราคม 2560 ผลสำรวจพบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นครูไทยภาพรวมอยู่ที่ 7.71 เต็ม 10 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ด้านที่ประชาชนให้คะแนนสูงสุด ได้แก่ บุคลิกภาพและการแต่งกายที่เหมาะสมกับอาชีพ (8.11 คะแนน) ความขยันขันแข็งอดทน และมนุษยสัมพันธ์ดี ขณะที่ด้านที่ได้คะแนนต่ำสุด ได้แก่ การไม่เป็นหนี้สิน การควบคุมอารมณ์ และการใช้วาจากับนักเรียน จุดเด่นของครูไทยในปี 2559 คือ ความเสียสละ อดทน และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ส่วนจุดด้อยคือการควบคุมอารมณ์ ภาระหนี้สิน และภาระงานที่ส่งผลต่อคุณภาพการสอน การสำรวจนี้สะท้อนถึงความคาดหวังของสังคมต่อบทบาทครู และความจำเป็นในการสนับสนุนพัฒนาวิชาชีพครูอย่างยั่งยืน
  • Item
    ประชาชนคิดอย่างไร? กับ นโยบายรัฐบาลประยุทธ์ 4
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2017-01-14) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    ภายหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรีเป็น “ครม.ประยุทธ์ 4” เพื่อเตรียมเดินหน้าตามโรดแมปและแก้ปัญหาประเทศในช่วงเวลาที่เหลือเพียง 1 ปี “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,331 คน ระหว่างวันที่ 9–13 มกราคม 2560 เพื่อประเมินความรู้สึกและความคาดหวังของประชาชนต่อการปรับ ครม.ครั้งนี้ ผลสำรวจพบว่า “5 กระทรวง” ที่มีนโยบายถูกใจประชาชนมากที่สุด ได้แก่ กระทรวงคมนาคม (67.34%) ศึกษาธิการ (63.29%) พาณิชย์ (60.13%) เกษตรฯ (59.04%) และการต่างประเทศ (56.66%) โดยประชาชนกว่า 58.90% เชื่อว่าการปรับ ครม. ครั้งนี้จะช่วยให้บ้านเมืองดีขึ้น สิ่งที่ประชาชนต้องการฝากถึงรัฐบาล ได้แก่ การเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และราคาสินค้า (74.15%) การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน การช่วยเหลือเกษตรกร การปราบทุจริต และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งสะท้อนความคาดหวังที่สูงต่อการบริหารงานของรัฐบาลในช่วงสุดท้ายของวาระ
  • Item
    ประชาชนคิดอย่างไร? ต่อการปฏิรูปประเทศและการเลือกตั้ง
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2017-01-08) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    ในช่วงเปลี่ยนผ่านของการเมืองไทยตามโรดแมปของรัฐบาล “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,192 คน ระหว่างวันที่ 2–7 มกราคม 2560 เพื่อสะท้อนมุมมองต่อความก้าวหน้าในการปฏิรูปประเทศและทิศทางของการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ (35.63%) เห็นว่าการปฏิรูปประเทศ “ค่อนข้างก้าวหน้า” โดยเฉพาะด้านนโยบายและโครงสร้างการดำเนินงานที่เริ่มเห็นเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ยังมีสัดส่วนประชาชนจำนวนมากที่มองว่ายังไม่ค่อยก้าวหน้า (29.81%) หรือยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน ประชาชน 71.08% เชื่อว่าการปฏิรูปประเทศเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการซื้อเสียง ในด้านลำดับความสำคัญ 41.19% ต้องการให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ขณะที่ 38.06% เห็นว่าควรเลือกตั้งก่อนเพื่อให้ประเทศเดินหน้า ประเด็นที่แบ่งความคิดเห็นชัดเจนคือเรื่อง “ความพร้อม” ในการจัดเลือกตั้ง ซึ่ง 51.23% มองว่ายังไม่พร้อม และกรณีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปเป็นปี 2561 ก็มีทั้งผู้เห็นด้วย (36.99%) และไม่เห็นด้วย (32.21%)
  • Item
    “การเมืองไทยปี 2560 ในสายตาประชาชน”
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2017-01-07) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    ปี 2560 ถือเป็นปีที่สำคัญยิ่งสำหรับการเมืองไทย ซึ่งรัฐบาลมีเวลาตามโรดแมปเหลือเพียง 1 ปี ก่อนการเปลี่ยนผ่านสู่การเลือกตั้ง “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,266 คน ระหว่างวันที่ 1–6 มกราคม 2560 เพื่อสะท้อนมุมมองต่อการเมืองไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ประชาชนมองในแง่ดีว่า การเมืองไทยในปี 2560 น่าจะ “ดีขึ้น” โดยเฉพาะด้านการบริหารบ้านเมืองที่เข้มแข็ง (68.95%) และความสงบสุขของประเทศ (66.28%) อีกทั้งยังมีความหวังว่าการร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกจะสมบูรณ์และส่งเสริมประชาธิปไตย (57.06%) อย่างไรก็ตาม ประชาชนก็มีความกังวลว่าการเมืองอาจ “แย่ลง” ในด้านการปราบปรามทุจริต (70.85%) ความขัดแย้งทางการเมือง (69.67%) และการไม่สามารถเดินหน้าโรดแมปตามแผนได้ (54.50%) โดยบุคคลที่ประชาชนฝากความหวังไว้มากที่สุด คือ นายกรัฐมนตรี (73.02%) รองลงมาคือประชาชนทุกฝ่าย และรัฐบาล
  • Item
    ความคาดหวังของคนไทย ปี 2560
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2017-01-01) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    เมื่อปีเก่าผ่านไปและปีใหม่เริ่มต้นขึ้น ประชาชนไทยต่างมีความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิตและสังคม “สวนดุสิตโพล” ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,086 คน ระหว่างวันที่ 25–31 ธันวาคม 2559 เพื่อสะท้อน “ความคาดหวังของคนไทยในปี 2560” ที่สะท้อนถึงความต้องการพื้นฐานของสังคมไทยในหลายมิติ ผลการสำรวจพบว่า ความคาดหวังอันดับหนึ่งคือ “ชีวิตส่วนตัวและครอบครัวมีความสุข” (83.52%) ตามด้วย “เศรษฐกิจดีขึ้น” (80.39%) และ “บ้านเมืองสงบสุข ปลอดภัย” (73.57%) ประชาชนยังต้องการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เป็นหนี้ (69.34%) และประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาและการทำงาน นอกจากนี้ ยังมีความหวังว่า “รัฐบาลจะบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ” (68.14%) และมีการจัดการเลือกตั้งที่โปร่งใส เป็นประชาธิปไตย (62.34%) พร้อมทั้งต้องการเห็นการศึกษาดีขึ้น เด็กไทยมีคุณภาพ และประเทศปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ
  • Item
    ที่สุดแห่งปี 2561
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-12-30) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 8,347 คน ระหว่างวันที่ 10–28 ธันวาคม 2561 เพื่อรวบรวม “ที่สุดแห่งปี 2561” ครอบคลุมทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บุคคล และเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เหตุการณ์ที่ประชาชนรู้สึก “มีความสุข” มากที่สุดคือ การช่วยเหลือ 13 หมูป่าออกจากถ้ำหลวง (66.71%) ขณะที่เหตุการณ์ที่ “เศร้า” ที่สุดคือ การเสียชีวิตของ “จ่าแซม” ฮีโร่แห่งถ้ำหลวง (42.13%) ด้านบุคคลในวงการบันเทิง เป๊ก ผลิตโชค และแก้ม เดอะสตาร์ ได้รับความนิยมสูงสุดในหมวดนักร้องเพลงไทยสากล ขณะที่ ก้อง ห้วยไร่ และต่าย อรทัย ครองตำแหน่งขวัญใจในหมวดลูกทุ่ง ในด้านการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับคะแนนนิยมสูงสุดในกลุ่มนักการเมืองชาย (47.17%) ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นอันดับหนึ่งในหมู่นักการเมืองหญิง ด้านความหวังของประชาชนต่อปี 2562 คือเศรษฐกิจดีขึ้นและประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี (70.17%) ตามด้วยความปรองดองและการเลือกตั้งที่โปร่งใส
  • Item
    เรื่องที่ประชาชนอยากรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-12-23) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    ผลสำรวจความคิดเห็นจาก "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เกี่ยวกับประเด็นที่ประชาชนต้องการทราบเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 โดยสำรวจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศจำนวน 1,149 คน ระหว่างวันที่ 18-22 ธันวาคม 2561 ผลสำรวจแสดง 10 อันดับเรื่องที่ประชาชนสนใจมากที่สุด โดยประเด็นที่ได้รับความสนใจสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ นโยบายของแต่ละพรรคและแนวทางปฏิบัติที่ทำได้จริง (52.74%) ความโปร่งใสในการจัดการเลือกตั้งและการป้องกันการทุจริต (33.68%) ความสงสัยว่าการเลือกตั้งจะช่วยปรับปรุงสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ (32.55%) การแบ่งเขตเลือกตั้งและจำนวนที่นั่ง ส.ส. (31.59%) และข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัคร ส.ส. (26.89%) ทั้งนี้เป็นช่วงที่ กกต. ได้ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งและ คสช. ได้ปลดล็อคพรรคการเมืองให้เริ่มดำเนินกิจกรรมได้
  • Item
    บัตรเลือกตั้งแบบไหน? ที่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งต้องการ
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-12-16) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    จากกระแสข่าวเกี่ยวกับข้อเสนอให้ตัดโลโก้และชื่อพรรคการเมืองออกจากบัตรเลือกตั้ง ส.ส. “สวนดุสิตโพล” ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,139 คน ระหว่างวันที่ 12–15 ธันวาคม 2561 เพื่อสะท้อนทัศนะของผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อรูปแบบบัตรเลือกตั้งที่เหมาะสม ผลการสำรวจพบว่า ปัญหาหลักที่ประชาชนพบจากการเลือกตั้งครั้งก่อนคือขั้นตอนที่ซับซ้อน หน่วยเลือกตั้งไกล และการจำรายชื่อหรือเบอร์ผู้สมัครไม่ได้ (32.55%) ส่วนปัญหาเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง ได้แก่ ตัวหนังสือแน่น ลายตา และโลโก้พรรคไม่ชัดเจน (38.79%) ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับบัตรเลือกตั้งที่มีเพียงหมายเลขเท่านั้น โดยมองว่าสร้างความสับสนและอาจเอื้อต่อการโกงเลือกตั้ง (40.55%) ข้อเสนอที่ชัดเจนคือบัตรเลือกตั้งควรมี “ชื่อผู้สมัคร โลโก้ และชื่อพรรคครบถ้วน ชัดเจน” (48.13%) พร้อมออกแบบให้เข้าใจง่าย อ่านสะดวก และเป็นมาตรฐานสากลเพื่อให้ประชาชนใช้สิทธิได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ
  • Item
    ประชาชนคิดอย่างไร? กับ “รัฐธรรมนูญไทย”
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-12-09) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    เนื่องในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,168 คน ระหว่างวันที่ 4–8 ธันวาคม 2561 เพื่อสะท้อนทัศนะต่อรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้วถึง 20 ฉบับ ผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ “ค่อนข้างให้ความสำคัญ” กับรัฐธรรมนูญ (37.67%) โดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ส่งผลต่อทุกด้านของประเทศ ขณะเดียวกันยังมีจำนวนไม่น้อยที่มองว่าเป็นเรื่องเข้าใจยากและถูกใช้เพื่อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ความรู้ความเข้าใจของประชาชนต่อรัฐธรรมนูญยังอยู่ในระดับ “พอรู้และเข้าใจบ้าง” (59.80%) รัฐธรรมนูญในอุดมคติที่ประชาชนต้องการควรเน้นการมีส่วนร่วม ฟังเสียงประชาชน และมีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง (43.20%) พร้อมทั้งควรมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย ประชาชนยังสะท้อนความกังวลว่าการแก้รัฐธรรมนูญบ่อยครั้งทำให้กฎหมายขาดความน่าเชื่อถือและเป็นช่องให้ฝ่ายการเมืองแสวงหาผลประโยชน์
  • Item
    “สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” ในสายตาประชาชน
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-12-03) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) มีบทบาทสำคัญในการดูแลการเดินทางเข้า-ออกประเทศและรักษาความมั่นคงของชาติ “สวนดุสิตโพล” ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 462 คน ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2561 เพื่อประเมินความพึงพอใจและข้อเสนอแนะที่มีต่อการทำงานของ สตม. ผลสำรวจพบว่า ความคิดเห็นเชิงบวกของประชาชน ได้แก่ การให้บริการด้านการเดินทางที่สะดวก (50.00%) และการปรับปรุงบริการที่มีระบบมากขึ้น ขณะที่ความเห็นเชิงลบส่วนใหญ่มุ่งที่ความล่าช้าในการให้บริการ (47.15%) และกรณีการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ (27.14%) ด้านความประทับใจ ประชาชนชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการด้วยความสุภาพและตั้งใจ ส่วนข้อเสนอเพื่อการพัฒนา ได้แก่ การเร่งความเร็วในการให้บริการ (41.88%) การแก้ภาพลักษณ์เกี่ยวกับคอร์รัปชัน และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดขั้นตอน เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้บริการ
  • Item
    ประชาชนคิดอย่างไร? กับ “การย้ายพรรค”
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-12-02) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เป็นวันสุดท้ายที่อดีต ส.ส. ต้องตัดสินใจย้ายพรรคเพื่อให้มีคุณสมบัติครบ 90 วันก่อนการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,180 คน ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2561 เพื่อสะท้อนมุมมองต่อการย้ายพรรคของอดีต ส.ส. ผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ (38.42%) มองว่าการย้ายพรรคเป็นสิทธิส่วนบุคคลตามระบอบประชาธิปไตย ขณะที่อีก 29.33% เชื่อว่ามีเบื้องหลังเรื่องผลประโยชน์และอำนาจ การย้ายพรรคยังถูกมองว่าอาจมีเหตุจากปัญหาภายในพรรคหรือความเห็นไม่ตรงกัน ในด้านผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ประชาชนกว่า 51.04% เห็นว่ามีผล เพราะกระทบความเชื่อมั่นและนโยบายของพรรค แต่ก็มี 48.96% ที่มองว่าไม่มีผล เพราะพิจารณาจากตัวบุคคลเป็นหลัก เมื่อถามว่าจะยังเลือกผู้สมัครเดิมที่ย้ายพรรคหรือไม่ ร้อยละ 54.06 ตอบว่ายังเลือก หากเขามีผลงานดีและทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
  • Item
    คนไทยอยากรู้เรื่องอะไรบ้าง? ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-11-25) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    จากกระแสความสนใจของประชาชนต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในต้นปี 2562 “สวนดุสิตโพล” ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,070 คน ระหว่างวันที่ 21–24 พฤศจิกายน 2561 เพื่อสะท้อนข้อสงสัย ความต้องการ และความคาดหวังที่ประชาชนมีต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้ ประเด็นที่ประชาชนสับสนและอยากรู้มากที่สุดคือ “วันเลือกตั้งที่แน่นอน” (63.96%) เนื่องจากยังไม่มีการประกาศอย่างชัดเจน และมีข่าวลือเกี่ยวกับการเลื่อนเลือกตั้ง รองลงมาคือเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง และข้อมูลผู้สมัคร/พรรคการเมือง โดยเฉพาะในบริบทที่มีพรรคใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก สิ่งที่ประชาชนอยากบอกกับผู้สมัคร ส.ส. คือการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง (66.74%) และรักษาสัญญาไม่ให้ผิดหวัง ส่วนพรรคการเมืองควรมีนโยบายเพื่อส่วนรวม และไม่สร้างความขัดแย้ง ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ตรวจสอบอย่างเข้มงวด และประชาสัมพันธ์ข้อมูลอย่างทั่วถึง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเป็นธรรม
  • Item
    ประชาชนคิดอย่างไร? กับ ข่าวการเมือง ณ วันนี้
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-11-18) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    ในช่วงที่กระแสข่าวการเมืองเข้มข้น โดยเฉพาะข่าวการเลื่อนเลือกตั้งและการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้งต้นปี 2562 “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,117 คน ระหว่างวันที่ 14–17 พฤศจิกายน 2561 เพื่อสะท้อนทัศนคติต่อสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น ผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลหรือ กกต. ออกมาประกาศวันเลือกตั้งอย่างชัดเจน (51.28%) และมองว่าหากมีการเลื่อน อาจส่งผลลบต่อรัฐบาลและเศรษฐกิจ ความเห็นเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ในการเมืองสะท้อนถึงความหวังในการเปลี่ยนแปลง (56.32%) ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันของพรรคการเมืองยังคงเต็มไปด้วยการหาเสียงอย่างเข้มข้น และบางส่วนก็ยังคงโจมตีกัน (34.46%) เรื่องการย้ายพรรคของอดีต ส.ส. ถูกมองว่าเป็นสิทธิของแต่ละคน (48.17%) แต่อีกมุมหนึ่งก็ถูกวิจารณ์ว่าเกิดจากการแสวงหาผลประโยชน์ สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก ส.ส. ได้แก่ นโยบายและวิสัยทัศน์ของพรรคและผู้สมัครเป็นอันดับแรก (47.40%)
  • Item
    พรรคการเมืองควรทำอย่างไร? จึงจะโดนใจประชาชน
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-11-11) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    จากบรรยากาศการเมืองไทยก่อนการเลือกตั้งต้นปี 2562 “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,176 คน ระหว่างวันที่ 7–10 พฤศจิกายน 2561 เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองหลักและความคาดหวังของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองต่าง ๆ ทั้งเก่าและใหม่ ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าแต่ละพรรคมีจุดเด่นและจุดด้อยที่ประชาชนจับตามอง เช่น พรรคพลังประชารัฐถูกมองว่าใกล้ชิดกับรัฐบาล (46.67%) ขณะที่พรรคเพื่อไทยเผชิญปัญหาภายใน (50.34%) พรรคอนาคตใหม่มีภาพลักษณ์ทันสมัยแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวาง (35.67%) และพรรครวมพลังประชาชาติไทยมีกระแสตอบรับเชิงลบจากบทบาทของนายสุเทพ (50.95%) สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นจากพรรคการเมืองคือ การไม่โจมตีกัน (38.76%) ทำเพื่อส่วนรวมจริงจัง และมีนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นรูปธรรม แม้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่งยังยืนยันจะเลือกพรรคเดิม (45.15%) แต่มีอีกไม่น้อยที่ยังไม่ตัดสินใจ หรือพร้อมเปิดโอกาสให้พรรคใหม่ที่แสดงศักยภาพ
  • Item
    ประชาชนคิดอย่างไร? กรณี ข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมือง ณ วันนี้
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-11-04) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    จากกระแสข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลากหลายช่วงปลายปี 2561 เช่น กิจกรรม “เดินคารวะแผ่นดิน” ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ, การแต่งตั้งหัวหน้าพรรคใหม่, การเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงบทเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” “สวนดุสิตโพล” ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชน 1,117 คน ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2561 ผลสำรวจพบว่า ประชาชนมองกิจกรรมทางการเมืองต่าง ๆ ว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ตามสิทธิทางการเมือง (42.83%) และมีเป้าหมายในการตรวจสอบกระแสและเรียกคะแนนเสียง ประเด็นอื่นที่ได้รับความสนใจคือการแต่งตั้ง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับตามมติพรรค (44.34%) และการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ถือว่าเปิดกว้างและยุติธรรม (47.23%) สำหรับเพลง “ประเทศกูมี” มีทั้งผู้มองว่าเป็นการโจมตีทางการเมือง (60.45%) และผู้ที่เห็นว่าเป็นการสะท้อนปัญหาสังคม ข้อเสนอสำคัญที่ประชาชนอยากฝากถึงพรรคการเมืองคือให้เน้นประโยชน์ของส่วนรวมและแข่งขันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
  • Item
    คนไทยคิดอย่างไร? กับกรณียุบพรรคการเมือง
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-10-28) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมสอบสวนกรณีอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร เข้าข่ายครอบงำพรรคเพื่อไทย ส่งผลให้เกิดกระแสข่าวการยุบพรรค ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,182 คน ระหว่างวันที่ 24–27 ตุลาคม 2561 เพื่อสะท้อนมุมมองต่อกรณีดังกล่าว ประชาชนส่วนใหญ่ (69.70%) เห็นว่าการยุบพรรคเป็นเรื่องถูกต้อง หากมีความผิดจริง และควรดำเนินการตามกฎหมาย โดยประชาชนระบุว่าความผิดที่สมควรให้มีการยุบพรรคมากที่สุด ได้แก่ การทุจริตเลือกตั้ง (43.48%) และการฝ่าฝืนกฎหมายรัฐธรรมนูญ ส่วนข้อดีของการยุบพรรคคือสามารถเป็นกรณีตัวอย่างและควบคุมพฤติกรรมพรรคการเมือง (45.64%) ขณะที่ข้อเสียคือทำให้พรรคขาดเสถียรภาพและบรรยากาศทางการเมืองแย่ลง ในกรณีพรรคเพื่อไทยอาจจัดตั้งพรรคสำรอง ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นสิทธิที่ทำได้ตามกฎหมาย เพื่อความต่อเนื่องในการทำงานทางการเมือง และการเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนทางการเมือง
  • Item
    ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ “โครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ”
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-10-22) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    เพื่อรับมือกับปัญหาหนี้นอกระบบที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รัฐบาลได้ดำเนิน “โครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ” ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเน้นการประสานเจรจาระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ เพื่อไกล่เกลี่ยและคืนทรัพย์สินให้กับประชาชน “สวนดุสิตโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 582 คน ระหว่างวันที่ 17–21 ตุลาคม 2561 ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่รู้จักโครงการนี้จากโทรทัศน์ (36.10%) และเพื่อนหรือคนรู้จัก (29.55%) โดย 89% ทราบว่าผู้นำโครงการคือ พล.อ.ประวิตร ขณะที่ความพึงพอใจต่อโครงการอยู่ในระดับสูงมาก โดย 94.34% พึงพอใจอย่างมาก และให้คะแนนเฉลี่ย 9.80 เต็ม 10 โดยให้เหตุผลว่าโครงการช่วยให้พวกเขาได้โฉนดคืน ลดภาระหนี้ และบรรเทาความเดือดร้อนในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นรูปธรรม
  • Item
    ประชาชนคิดอย่างไร? กับ “เพจ นายกรัฐมนตรี” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    (สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2018-10-21) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
    จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดตัวแฟนเพจผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารกับประชาชนก่อนการเลือกตั้งต้นปี 2562 “สวนดุสิตโพล” ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,165 คน ระหว่างวันที่ 17–20 ตุลาคม 2561 เพื่อสะท้อนมุมมองต่อการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในบริบททางการเมือง ผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ (42.75%) มองว่าการเปิดเพจดังกล่าวเป็นการหยั่งเสียงและวัดความนิยมที่อาจหวังผลทางการเมือง และ 42.92% เห็นว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการหาเสียง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แม้จะมีประชาชนบางส่วนเห็นว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลในยุคดิจิทัล ด้านประโยชน์ของเพจ ประชาชนเชื่อว่าสามารถเป็นช่องทางติดต่อร้องทุกข์และเสนอความคิดเห็นได้อย่างรวดเร็ว (51.60%) ขณะที่อีกส่วนหนึ่งต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ วางตัวเป็นกลางและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมในช่วงก่อนเลือกตั้ง