SDP-Public Opinion Poll : Public Survey Results
Permanent URI for this collection
Browse
Browsing SDP-Public Opinion Poll : Public Survey Results by Issue Date
Now showing 1 - 20 of 526
Results Per Page
Sort Options
Item ประชาชนคิดอย่างไร? กรณี ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อไทย-กัมพูชา(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2011-03-20) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตสวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน 3,185 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 11-19 กุมภาพันธ์ 2554 ต่อเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พบว่า 40.72% ของประชาชนวิตกกังวล เพราะไม่รู้ว่าความขัดแย้งจะจบลงอย่างไร ขณะที่ 29.98% กลัวการเกิดสงครามและความวุ่นวายในประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่ติดตามข่าวสารเป็นระยะ (56.17%) แต่มีถึง 41.29% ที่ไม่เข้าใจเหตุการณ์อย่างแท้จริง สาเหตุที่ปัญหายืดเยื้อเกิดจากการเจรจาที่ยังไม่ชัดเจน (44.52%) และขาดความจริงใจจากทั้งสองฝ่าย (31.81%) ประชาชนเสนอแนวทางแก้ไข เช่น หยุดยิงโดยถาวร (32.06%) และเจรจาด้วยความจริงใจ (31.30%) ผู้ที่ประชาชนคาดหวังว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้คือ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์และคณะรัฐมนตรี (34.10%) ร่วมกับพันธมิตรทางการเมือง การสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลและความต้องการของประชาชนต่อแนวทางที่ยั่งยืนในการคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมเรียกร้องความร่วมมือของทุกฝ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงและรักษาเสถียรภาพของประเทศItem ความคาดหวังของคนไทยในปี 2558(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-04) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตสวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,642 คนระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2557 ถึง 3 มกราคม 2558 เกี่ยวกับความคาดหวังในปี 2558 เปรียบเทียบกับปี 2557 ผลสำรวจแบ่งเป็นสามด้าน ได้แก่ ด้านประชาชน ด้านชุมชน และด้านประเทศไทย ในแต่ละด้านมีการระบุสิ่งที่คาดว่าจะดีขึ้นและแย่ลง ด้านประชาชน คาดหวังว่าจะมีงานมั่นคง การเรียนสำเร็จ และเงินเดือนขึ้น แต่กังวลเรื่องสุขภาพ เวลาพักผ่อน และค่าครองชีพ ด้านชุมชน คาดหวังการพัฒนาสาธารณูปโภค ความสะอาด และความสามัคคี ขณะที่กังวลปัญหายาเสพติด สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม และปัญหาวัยรุ่น ส่วนด้านประเทศไทย คาดหวังความสงบสุข เศรษฐกิจดีขึ้น และเทคโนโลยีทันสมัย แต่กังวลความเสื่อมถอยของวัฒนธรรม ปัญหาศีลธรรม และระบบการศึกษาItem วันเด็ก ปี 2558(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-09) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตการสำรวจนี้จัดทำโดยสวนดุสิตโพลเกี่ยวกับความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนไทยต่อวันเด็กแห่งชาติ ปี 2558 โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,275 คน ระหว่างวันที่ 5-9 มกราคม 2558 ผลการสำรวจพบว่า เด็กๆ ต้องการของขวัญประเภทเทคโนโลยีมากที่สุด (93.25%) รองลงมาคือของเล่น (90.12%) และจักรยาน (88.39%) เด็กส่วนใหญ่รู้จักนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน (96.55%) และสิ่งที่อยากขอจากนายกรัฐมนตรีคือการสนับสนุนด้านการศึกษาและกีฬา (91.84%) ส่วนสิ่งที่อยากขอจากพ่อแม่คือความรักความเข้าใจ (94.04%) และอุปกรณ์เทคโนโลยี (92.94%) เมื่อโตขึ้นเด็กๆ ตั้งใจจะประกอบอาชีพที่ใฝ่ฝัน (95.45%) และเป็นคนดีของสังคม (82.50%) สำหรับความคิดเห็นต่อการเมืองไทย เด็กๆ มองว่าการเมืองไทยเริ่มดีขึ้น (91.22%) แต่ยังมีความวุ่นวาย (89.02%) และไม่อยากให้ผู้ใหญ่ทะเลาะกัน (84.94%) การสำรวจนี้สะท้อนมุมมองและความต้องการของเด็กไทยในช่วงวันเด็กแห่งชาติปี 2558Item ประชาชนคิดอย่างไร? กับการให้ “กระทรวงมหาดไทย”และ “กระทรวงศึกษาธิการ” จัดการเลือกตั้ง(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-11) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตกรณีที่มีการเสนอให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้จัดการเลือกตั้งแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,247 คน ระหว่างวันที่ 3-10 มกราคม 2558 พบว่า ปัญหาหลักในการเลือกตั้งที่ผ่านมาคือ การจัดการที่ไม่โปร่งใส ไม่เป็นกลาง และมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง รองลงมาคือ ความเบื่อหน่ายการเมือง และความขัดแย้งทางการเมือง สำหรับข้อเสนอให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการจัดการเลือกตั้งแทน กกต. ประชาชนส่วนใหญ่ (62.25%) ไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า กกต. เป็นหน่วยงานอิสระและมีหน้าที่โดยตรงในการดูแลเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่เห็นด้วย (37.75%) มองว่าเป็นการสร้างความร่วมมือและอาจทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น เมื่อถามว่าใครควรเป็นเจ้าภาพในการจัดการเลือกตั้ง ประชาชนส่วนใหญ่เลือก กกต. (66.67%) รองลงมาคือความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการ ข้อดีที่ประชาชนเห็น ได้แก่ ความเป็นระบบระเบียบ เจ้าหน้าที่เพียงพอ และการป้องกันการทุจริต ขณะที่ข้อเสียคือ ขาดความเป็นอิสระ ถูกแทรกแซง และขาดประสบการณ์Item ยักยอกเงินกว่าพันล้าน สจล.(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-11) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตการศึกษานี้นำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยสวนดุสิตโพลเกี่ยวกับกรณีการยักยอกเงินกว่า 1,000 ล้านบาทในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,214 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-10 มกราคม 2558 ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ขาดคุณธรรมและจิตสำนึก โดยระบุว่าสาเหตุหลักเกิดจากความโลภ ความอยากได้อยากมี (67.39%) ประชาชนร้อยละ 70.11 เห็นว่าควรดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งจับกุม ยึดทรัพย์ และจำคุกผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้อยละ 53.31 ที่มั่นใจว่าจะสามารถสืบสาวและเอาผิดผู้กระทำได้ ในขณะที่ร้อยละ 73.41 เชื่อว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการศึกษาในภาพรวม ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าบทเรียนสำคัญจากกรณีนี้คือสถาบันการศึกษาควรเพิ่มความตระหนักและความรอบคอบในการบริหารจัดการการเงินItem โครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (ครูตู้)(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-15) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตโครงการ “ครูตู้ ครูพระราชทานสัญญาณจากฟ้า” หรือ “โครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV)” เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมให้กับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนครูทั่วประเทศ โดยใช้การถ่ายทอดสดการเรียนการสอนจากโรงเรียนวังไกลกังวลไปยังโรงเรียนเครือข่ายทั่วประเทศ ในปี 2558 สวนดุสิตโพลได้จัดทำการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชน ผู้ปกครอง นักเรียน และครู รวมทั้งสิ้น 1,097 คน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 81.95 เห็นว่าโครงการมีประโยชน์มาก เพราะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง และช่วยแก้ไขปัญหาครูไม่เพียงพอ ความพึงพอใจต่อโครงการอยู่ในระดับสูง โดยร้อยละ 78.85 พึงพอใจมาก ทั้งนี้ยังมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการสื่อสารบางส่วน เช่น สัญญาณขาดหาย และการสอนที่อาจเร็วเกินไป โครงการนี้นับเป็นกลไกสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาและส่งเสริมพัฒนาการของเยาวชนในระยะยาวItem ความในใจของครูไทย ปี 2558(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-15) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตงานสำรวจความคิดเห็นหัวข้อ "ความในใจของครูไทย ปี 2558" จัดทำโดยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนมุมมอง ความต้องการ และข้อเสนอแนะของครูทั่วประเทศในการพัฒนาการศึกษาไทย โดยสำรวจครูจำนวน 1,266 คน ระหว่างวันที่ 7–15 มกราคม 2558 ผลการสำรวจพบว่า สิ่งที่ครูอยากสื่อสารกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมากที่สุด คือ การลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวกับการสอน เพื่อให้มีเวลาสอนมากขึ้น และต้องการให้มีการปฏิรูปหลักสูตรอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ ขณะที่ข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี คือ การดูแลความเป็นอยู่ของครู เพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการ รวมถึงการพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ ส่วนสิ่งที่ครูอยากบอกคนไทย คือ อยากให้เกิดความรัก ความสามัคคี และให้เกียรติครู พร้อมส่งเสริมบทบาทของครอบครัวในการอบรมสั่งสอนเด็ก สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของครูในฐานะผู้สร้างคน และความคาดหวังต่อทุกภาคส่วนในการพัฒนาการศึกษาไทยItem คนไทยคิดอย่างไร? กับการทำงานของคสช. และรัฐบาล(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-18) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,537 คน ระหว่างวันที่ 12-17 มกราคม พ.ศ. 2558 เพื่อสะท้อนมุมมองของประชาชนต่อการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล หลังจากบริหารประเทศมาเป็นเวลาเกือบ 8 เดือนและ 4 เดือนตามลำดับ ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนชื่นชมการปราบปรามทุจริต การช่วยเหลือเกษตรกร และนโยบายด้านค่าครองชีพ อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงเป็นห่วงในเรื่องเศรษฐกิจ การจำกัดสิทธิเสรีภาพ และปัญหาความไม่ต่อเนื่องในการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ค่าครองชีพ และราคาสินค้า ทั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนต้องการให้รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนการบริหารประเทศที่เน้นผลสัมฤทธิ์ทางเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ และความโปร่งใสในนโยบาย เพื่อสร้างความมั่นคงและไว้วางใจจากประชาชนในระยะยาวItem ประชาชนคิดอย่างไร? กับ “ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558”(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-18) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจากการที่รัฐบาลได้ประกาศให้ปี 2558 เป็น “ปีท่องเที่ยววิถีไทย” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้จัดทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,392 คน ระหว่างวันที่ 14–17 มกราคม 2558 ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว โดยร้อยละ 79.31 มองว่าเป็นนโยบายที่ดี สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้ ขณะที่ร้อยละ 97.84 เห็นด้วยกับแนวคิด “ขายรอยยิ้ม” เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยว และสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ประชาชนเป็นกังวลมากที่สุด ได้แก่ ความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และปัญหาทางการเมือง นอกจากนี้ ประชาชนเสนอให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ตลอดจนสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืนItem ประเมินผลงาน 8 เดือน คสช.(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-24) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,840 คน ระหว่างวันที่ 20-23 มกราคม 2558 เพื่อประเมินผลงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังเข้ามาบริหารประเทศเป็นเวลา 8 เดือน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าคสช.สามารถทำให้สถานการณ์บ้านเมืองสงบเรียบร้อย และการบริหารงานมีความเป็นระบบ จุดเด่นที่ประชาชนกล่าวถึงคือการมีนโยบาย "คืนความสุข" และความเด็ดขาดในการบริหาร ขณะที่ปัญหาหลักคือภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ความต้องการของประชาชนที่มีต่อ คสช. คือการพัฒนาประเทศให้พร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยภาพรวมประชาชน "ค่อนข้างพึงพอใจ" ต่อผลงานของ คสช. คิดเป็นร้อยละ 58.90 และยังมีคะแนนประเมินเฉลี่ยที่อยู่ในระดับสูงตลอดช่วง 8 เดือนแรก ซึ่งแสดงถึงการยอมรับในระดับหนึ่งของสาธารณชนต่อบทบาทของ คสช. ในช่วงเวลาดังกล่าวItem “หลังรัฐประหาร” (22 พ.ค. 57) อะไรที่ดีขึ้น? อะไรที่แย่ลง?(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-25) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,317 คน ระหว่างวันที่ 20-24 มกราคม 2558 เพื่อสะท้อนมุมมองต่อสิ่งที่ดีขึ้นและแย่ลงหลังรัฐประหาร ผลสำรวจระบุว่าสิ่งที่ประชาชนเห็นว่าดีขึ้นคือ ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ราคาน้ำมันที่ลดลง และการปราบปรามคอร์รัปชัน ขณะที่สิ่งที่แย่ลงได้แก่ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น การจำกัดสิทธิเสรีภาพ และภาพลักษณ์ประเทศในสายตานานาชาติ ทั้งนี้ ประชาชนมองว่าการรัฐประหารส่งผลให้รู้สึกปลอดภัยขึ้น และรัฐบาลให้ความใส่ใจต่อประชาชนมากขึ้น ส่วนประเทศไทยได้รับความสงบเรียบร้อย การปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง และการฟื้นฟูด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างเป็นระบบมากขึ้น ข้อมูลนี้สะท้อนทั้งแง่บวกและลบของรัฐประหารจากมุมมองของประชาชนในช่วงปีแรกของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองItem “กฏอัยการศึก” ในทัศนะของประชาชน(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-01-29) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจากกรณีที่นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา แสดงความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎอัยการศึกในประเทศไทย “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,219 คน ระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม พ.ศ. 2558 เพื่อสะท้อนมุมมองของประชาชนต่อประเด็นดังกล่าว ผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าการแสดงความเห็นของต่างชาติอาจไม่เข้าใจสถานการณ์ภายในประเทศ แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นห่วงด้านเศรษฐกิจและประชาธิปไตย สำหรับข้อดีของกฎอัยการศึกที่ประชาชนเห็น คือ ช่วยให้บ้านเมืองสงบ เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย และลดการกระทำผิดกฎหมาย ส่วนข้อเสียที่สำคัญ ได้แก่ การจำกัดสิทธิเสรีภาพ ความไม่เป็นประชาธิปไตย และผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ ขณะที่ความเห็นต่อการยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น ประชาชนร้อยละ 46.02 เห็นว่ายังไม่ถึงเวลา เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่แน่นอนและต้องคำนึงถึงความสงบเรียบร้อยเป็นสำคัญItem มาช่วยกันแก้ปัญหา “สินค้าแพง”(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-02-01) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ยังซบเซา ส่งผลให้ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพสูง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,264 คน ระหว่างวันที่ 26–31 มกราคม 2558 ในประเด็น “มาช่วยกันแก้ปัญหาสินค้าแพง” พบว่า สินค้าที่ประชาชนมองว่ามีราคาสูงผิดปกติ คือ ข้าว อาหารตามสั่ง เนื้อหมู ไข่ไก่ และผักสด โดยมีสาเหตุหลักจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เงินเฟ้อ และต้นทุนที่สูงขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าการแก้ไขปัญหาควรเริ่มจากภาครัฐ โดยเฉพาะการควบคุมราคาสินค้า และจัดมหกรรมสินค้าราคาถูก รวมถึงการลงโทษพ่อค้าแม่ค้าที่เอารัดเอาเปรียบอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ประชาชนคาดหวังให้รัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คสช. และกระทรวงพาณิชย์ มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้Item ประชาชนคิดอย่างไร? กับ เหตุการณ์ระเบิดหน้าสยามพารากอน(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-02-05) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจากเหตุการณ์ระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้า "สยามพารากอน" เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนจำนวนมาก สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,209 คน ระหว่างวันที่ 2–5 กุมภาพันธ์ 2558 ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกหวาดกลัวและไม่มั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัย (77.21%) มองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเมือง (73.58%) และมีความรู้สึกตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใจกลางเมือง (69.23%) นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 48.81 เชื่อว่าเหตุการณ์นี้มีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่ 80.46% เห็นว่ารัฐบาลควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญ และ 78.97% เห็นว่าควรเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว บทสรุปนี้สะท้อนถึงความกังวลและข้อเรียกร้องของประชาชนต่อภาครัฐในการรักษาความปลอดภัยและการสื่อสารอย่างโปร่งใสในสถานการณ์วิกฤตItem ความในใจของข้าราชการ ยุค “คสช.” และ “รัฐบาลชุดปัจจุบัน”(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-02-08) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตการสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการ ทหาร และตำรวจทั่วประเทศจำนวน 1,014 คน โดยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ระหว่างวันที่ 2–7 กุมภาพันธ์ 2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนมุมมองของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการบริหารประเทศในยุคของ “คสช.” และ “รัฐบาลชุดปัจจุบัน” ผลการสำรวจพบว่า จุดเด่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด คือ การแก้ไขปัญหาที่สะสมมายาวนาน เช่น การช่วยเหลือชาวนาและปรับเงินเดือนข้าราชการ ขณะที่จุดอ่อนหลักคือ การแต่งตั้งบุคคลที่ขาดประสบการณ์ และการบริหารงานแบบรวบอำนาจโดยไม่รับฟังความคิดเห็น ข้าราชการส่วนใหญ่แสดง “ความในใจ” โดยต้องการให้รัฐบาลบริหารงานด้วยความยุติธรรม มุ่งพัฒนาประเทศ และดูแลปัญหาค่าครองชีพ รวมถึงการปฏิรูประบบราชการให้โปร่งใส สำหรับความคิดเห็นต่อคำว่า “ข้าราชการเกียรว่าง” ส่วนใหญ่เห็นว่าข้าราชการมีทั้งคนดีและไม่ดี ควรพิจารณาเป็นรายบุคคล และระบบอุปถัมภ์เป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ข้าราชการยังเชื่อมั่นในเกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณธรรมในการปฏิบัติงานItem วาเลนไทน์ “วันแห่งความรัก”(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-02-13) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,008 คน ระหว่างวันที่ 23-28 มกราคม 2558 เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวันแห่งความรัก วิธีการบอกรักนิยมทำผ่านการพบปะด้วยตนเอง การส่ง SMS หรือโซเชียลมีเดีย ผลสำรวจยังพบแนวทาง "รักอย่างสร้างสรรค์" โดยเน้นการทำสิ่งดีร่วมกัน มีขอบเขต และใช้เหตุผล ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การแสดงความรักในที่สาธารณะ หรือการถูกล่วงละเมิด คนส่วนใหญ่มองว่าพ่อแม่คือต้นแบบคู่รัก และให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ในระดับปานกลาง โดยมีวิธีป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงด้วยการยับยั้งชั่งใจ หลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยง และไม่ดื่มแอลกอฮอล์Item “ความเป็นห่วง”/“วิตกกังวล” ของคนไทย ณ วันนี้(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-02-15) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยสวนดุสิตโพล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 กับกลุ่มตัวอย่าง 1,254 คน เปิดเผยความกังวลของคนไทยใน 3 มิติหลัก ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ด้านการเมือง ประชาชนวิตกกังวลสูงสุดเรื่องการบริหารประเทศและเสถียรภาพทางการเมือง ตามมาด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง ในมิติเศรษฐกิจ ความกังวลหลักคือราคาสินค้าแพงขึ้น การจ้างงาน และค่าสาธารณูปโภค สำหรับด้านสังคม ประชาชนกังวลเรื่องภัยอาชญากรรม พฤติกรรมเยาวชน และความฟุ้งเฟ้อวัตถุนิยมผู้ถูกคาดหวังให้แก้ปัญหามากที่สุดคือนายกรัฐมนตรีและ คสช. โดยประชาชนเองเลือกวิธีจัดการกับความกังวลด้วยการทำใจ ประหยัด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมItem มาช่วยกันสร้าง “ความปรองดอง” ดีกว่า(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-02-22) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตงานวิจัยนี้จัดทำโดย “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศต่อประเด็นการสร้างความปรองดองในสังคมไทย จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,441 คน ระหว่างวันที่ 16–21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ผลการสำรวจพบว่า ความยากลำบากในการสร้างความปรองดองเกิดจากความคิดที่แตกต่างกัน ทิฐิ การแบ่งฝ่าย และการไม่รับฟังกัน ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุด (86.26%) รองลงมาคือ ความเห็นแก่ตัวและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน (80.92%) ส่วนแนวทางการสร้างความปรองดองที่ประชาชนเห็นด้วยมากที่สุด ได้แก่ การเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกันโดยปราศจากอคติ (79.39%) และการปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ (70.99%) โดยประชาชนคาดหวังว่าทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนไทยทุกคน และนายกรัฐมนตรี จะมีบทบาทในการสร้างความปรองดอง ข้อเสนอแนะสำคัญ คือ การให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ส่วนรวม และการปลูกฝังค่านิยมที่ดีตั้งแต่ครอบครัวถึงเยาวชน เพื่อสร้างสังคมไทยที่เข้มแข็ง มีความสามัคคี และสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้Item สถานการณ์ด้านพลังงานของประเทศ(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-02-26) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,737 คน ระหว่างวันที่ 21–23 กุมภาพันธ์ 2558 เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านพลังงานของประเทศไทย ผลการสำรวจพบว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้สึก “ค่อนข้างน่าเป็นห่วง” ต่อสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน โดยประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ว่าประเทศไทยพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ และต้องนำเข้าปิโตรเลียมจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ประชาชนยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับระบบสัมปทานพลังงาน และศักยภาพแหล่งพลังงานของประเทศ เมื่อถามถึงผลกระทบหากเกิดการขาดแคลนพลังงาน ประชาชนเห็นว่าจะต้องหาพลังงานทดแทนหรือรับภาระราคาที่สูงขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่เสนอให้ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน พัฒนาแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ และปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้ได้มาตรฐาน โดยฝากความหวังให้กระทรวงพลังงานลดราคาค่าพลังงาน พัฒนาแหล่งพลังงานทดแทน และบริหารจัดการด้วยความโปร่งใส เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติItem ประเมินผลงาน 9 เดือน คสช.(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2015-02-27) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,812 คน โดยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ระหว่างวันที่ 20–26 กุมภาพันธ์ 2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการดำเนินงาน 9 เดือนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผลสำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า คสช. มีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง แม้จะยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างชัดเจน จุดเด่นของการบริหารงาน ได้แก่ การจัดระเบียบสังคม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเด็ดขาด และการสื่อสารกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ความไม่ปรองดองในสังคม และการแก้ปัญหาที่ยังไม่เด็ดขาดในบางประเด็น ประชาชนเรียกร้องให้ คสช. เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปฏิรูปประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิต ขณะที่ความพึงพอใจโดยรวมต่อการบริหารประเทศของ คสช. อยู่ในระดับ “ค่อนข้างพึงพอใจ” โดยมีแนวโน้มคะแนนลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากเดือนแรกจนถึงเดือนที่เก้า สะท้อนถึงความคาดหวังของประชาชนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น