SDP-Public Opinion Poll : Public Survey Results
Permanent URI for this collection
Browse
Browsing SDP-Public Opinion Poll : Public Survey Results by Author "พรพรรณ บัวทอง"
Now showing 1 - 3 of 3
Results Per Page
Sort Options
Item ดัชนีการเมืองไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2568(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2025-03-02) พรพรรณ บัวทอง; งามประวัณ เอื้องสมนึกสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,179 คน ระหว่างวันที่ 24–28 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า “ดัชนีการเมืองไทย” โดยรวมได้คะแนนเฉลี่ย 5.02 จากเต็ม 10 ลดลงจากเดือนมกราคมที่ได้ 5.06 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุดคือ “ผลงานของฝ่ายค้าน” เฉลี่ย 5.42 คะแนน ส่วนตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ “การแก้ปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล” เฉลี่ย 4.59 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นที่สุดคือ แพทองธาร ชินวัตร (46.08%) ขณะที่ฝ่ายค้านคือ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (48.24%) ผลงานของรัฐบาลที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (43.64%) ส่วนฝ่ายค้านคือ การผลักดันให้ตัดไฟข้ามแดน (45.23%) การลดลงของคะแนนรัฐบาลสะท้อนถึงความไม่พอใจของประชาชนต่อการบริหารงาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและความโปร่งใส ขณะที่ฝ่ายค้านมีบทบาทในการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ผลสำรวจเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ชี้ให้เห็นว่าประชาชนให้คะแนนฝ่ายค้านสูงขึ้น เนื่องจากมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คะแนนของรัฐบาลลดลงในหลายตัวชี้วัด เช่น ผลงานของนายกรัฐมนตรี ผลงานรวมของรัฐบาล และการดำเนินนโยบายต่าง ๆ แม้จะมีมาตรการที่ประชาชนชื่นชอบอย่างการตัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์และแจกเงิน 10,000 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะพยุงคะแนนภาพรวมให้สูงขึ้น เธอเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งสร้างผลงาน พร้อมกับสื่อสารให้มากขึ้นทั้งในและนอกสภา เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนในการบริหารประเทศ นางสาวพรพรรณ บัวทอง – ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต คะแนนดัชนีที่ลดลงสะท้อนความกังวลของประชาชนต่อประสิทธิภาพการบริหารงานของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ความโปร่งใส ค่าครองชีพ ราคาสินค้า การว่างงาน และปัญหาคอร์รัปชันที่ยังไม่ตอบโจทย์ประชาชน ในขณะที่นโยบายแจกเงิน 10,000 บาทแม้จะได้รับความสนใจ แต่ยังถูกจับตามองในแง่ประสิทธิผลและความยั่งยืน ตรงกันข้ามกับฝ่ายค้านที่คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นจากบทบาทในการตรวจสอบ เช่น การตัดไฟข้ามแดนและการตรวจสอบงบประกันสังคม โดยสรุป เขาเห็นว่าฝ่ายค้านเริ่มได้รับความไว้วางใจมากขึ้นจากประชาชนในฐานะผู้คานอำนาจรัฐบาล อาจารย์ ดร.งามประวัณ เอื้องสมนึก – อาจารย์ประจำหลักสูตรนิติศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิตItem ปัญหาเร่งด่วนของคนไทย ณ วันนี้(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2025-03-16) พรพรรณ บัวทอง; ศิริมา บุญมาเลิศสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,264 คน ระหว่างวันที่ 11–14 มีนาคม 2568 พบว่า ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขมากที่สุดคือ ค่าครองชีพและราคาสินค้า (72.55%) รองลงมาคือ รายได้/หนี้สิน, การเมือง, กระบวนการยุติธรรม และภาคการเกษตร อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ (เช่น 74.33% ในเรื่องรายได้/หนี้สิน) ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้สำเร็จ เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ประชาชนมองว่าปัญหายังคงเหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตและการเมือง ส่วนมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทในกลุ่มวัยรุ่น ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าอาจช่วยได้ในระยะสั้น แต่ไม่ตอบโจทย์ปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ นางสาวพรพรรณ บัวทอง - ประธานสวนดุสิตโพล แม้รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลง แต่ปัญหาหลักของประชาชน เช่น ค่าครองชีพ การเมือง และคอร์รัปชัน กลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ประชาชนจึงรู้สึกว่า “รัฐบาลใหม่ แต่ไม่ต่างจากเดิม” มาตรการแจกเงิน 10,000 บาท ยิ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพ เพราะยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นหรือเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในระดับที่จับต้องได้ เธอเสนอว่ารัฐบาลต้องเร่งพิสูจน์ผลงานที่แตกต่าง เพื่อลดความรู้สึกซ้ำซากในสายตาประชาชน และฟื้นฟูความไว้วางใจในการบริหาร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิริมา บุญมาเลิศ - อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง แม้รัฐบาลจะใช้นโยบายแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ประชาชนกลับมองว่านโยบายนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาหลัก เช่น ค่าครองชีพและหนี้สิน ได้อย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลนำเสนอว่าดีขึ้นกลับสวนทางกับความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ประชาชนไม่เชื่อมั่น และยังมองว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ได้มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารัฐบาลชุดก่อน อีกทั้งปัญหาทุจริตยังรุนแรงขึ้น กลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาวItem เกมการเมืองไทย ณ วันนี้(สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2025-03-09) พรพรรณ บัวทอง; เขมภัทท์ เย็นเปี่ยมสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,227 คน ระหว่างวันที่ 4–7 มีนาคม 2568 พบว่า ประชาชนมองว่า "เกมการเมือง" มีลักษณะเด่นคือ การแบ่งตำแหน่งทางการเมือง การเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน และการโยกย้ายข้าราชการเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ในรัฐบาลแพทองธาร ประชาชนชี้ว่าการโจมตี ปล่อยข่าวปลอม และการซื้อเสียง คือรูปแบบของเกมการเมืองที่เห็นได้ชัดเจน ประชาชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80.77) เห็นว่าเกมการเมืองเป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย เพราะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในทุกยุคสมัย และร้อยละ 42.95 เชื่อว่าเกมการเมืองเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งยังมีผู้เห็นด้วยร้อยละ 79.63 ว่าเกมการเมืองทำให้ประเทศล้าหลัง นางสาวพรพรรณ บัวทอง - ประธานสวนดุสิตโพล คนไทยส่วนใหญ่รับรู้และคุ้นชินกับ “เกมการเมือง” ที่วนเวียนอยู่กับการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างทางการเมืองที่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ประชาชนคาดหวังให้การเลือกตั้งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แต่กลับต้องเผชิญกับพฤติกรรมซ้ำซากในรูปแบบใหม่ที่กลายเป็น “ปกติใหม่” ซึ่งไม่ควรถือเป็นเรื่องปกติ เธอเสนอว่าการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนจำเป็นต้องลดเกมการเมืองลง และเพิ่มการทำงานที่จับต้องได้ เพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจในการเมืองไทยและการบริหารประเทศอย่างแท้จริง รองศาสตราจารย์ ดร.เขมภัทท์ เย็นเปี่ยม - อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง เกมการเมืองในประเทศไทยคือการแย่งชิงอำนาจเพื่อจัดสรรผลประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง มากกว่าที่จะกระจายผลประโยชน์ให้ประชาชน เขาชี้ว่า ประชาชนต้องการเห็นการแข่งขันกันด้วยนโยบายที่ชัดเจนและสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ไม่ใช่เพียงการแก้เกมเพื่อรักษาอำนาจ การเมืองที่เน้นการหักหลังและต่อต้านฝ่ายตรงข้ามอย่างเป็นระบบ ทำให้ประเทศล้าหลังทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาการเมืองอย่างยั่งยืน สิ่งที่ควรเกิดขึ้นคือการเมืองที่มีเป้าหมายเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่ออำนาจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง