การศึกษาอายุการเก็บในสภาวะเร่งของ whitening cream ที่มีส่วนผสมของสารสกัดมะหาด และชะเอมเทศ

dc.contributor.authorปิยวรรณ อยู่ดี
dc.contributor.authorทัศนีย์ พาณิชย์กุล
dc.contributor.authorณัฐพร บู๊ฮวด
dc.date.accessioned2025-05-29T13:37:31Z
dc.date.accessioned2025-09-03T03:46:47Z
dc.date.available2025-05-29T13:37:31Z
dc.date.available2025-09-03T03:46:47Z
dc.description.abstractงานวิจัยนี้ได้ทำการกักเก็บสารสกัดมะหาดและชะเอมเทศในรูปแบบไลโปโซม โดยการเตรียมไลโปโซมจากเลซิตินถั่วเหลือง จากนั้นนำไลโปโซมที่บรรจุสารสกัดไปทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง แล้วตั้งตำรับครีมเพื่อผิวกระจ่างใส โดยการใส่ไลโปโซมของสารสกัดมะหาดและไลโปโซมของสารสกัดชะเอมเทศแยกกัน และทำการทดสอบความคงตัวในสภาวะเร่ง โดยไม่พบการเปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรด-ด่าง ความหนืด การแยกชั้น และการเปลี่ยนแปลงสีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ จากนั้นศึกษาผลของชนิดบรรจุภัณฑ์และสภาวะการเก็บรักษา โดยนำครีมเพื่อผิวกระจ่างใสมาบรรจุในกระปุกพลาสติกขนาด 200 กรัม ในกระปุก PP และ PET และทำการทดสอบความคงตัวทั้งในระยะสั้นและยาวที่ 4 อุณหภูมิ ได้แก่ 4 30 (อุณหภูมิห้อง) 45 50 องศาเซลเซียส ตามลำดับ ผลการทดสอบความคงตัวระยะสั้น ชี้ให้เห็นว่าสภาวะที่ใช้ในการทดสอบความคงตัวระยะสั้นไม่ส่งผลต่อ ลักษณะทางกายภาพของครีมเพื่อผิวกระจ่างใสที่มีส่วนผสมของไมโครแคปซูลสารสกัดมะหาดและ ชะเอมเทศ ได้แก่ ลักษณะปรากฏ สี ความเข้มของกลิ่น การเปลี่ยนแปลงกลิ่น การแยกชั้นโดยเมื่อสิ้นสุดการทดสอบ ไม่พบการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพของครีมเพื่อผิวกระจ่างใสในทั้ง 2 บรรจุภัณฑ์ พบว่าเมื่อเก็บครีมเพื่อผิวกระจ่างใสในบรรจุภัณฑ์ทั้งสองนี้ไว้ในอุณหภูมิตู้เย็น (4 องศาเซลเซียส) ไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ แต่เมื่อทำการเก็บรักษาที่อุณหภูมิสูงขึ้น พบว่าที่อุณหภูมิห้องพบว่า ครีมเพื่อผิวกระจ่างใสในทั้งสองบรรจุภัณฑ์ มีสีคล้ำขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ 12 ค่าพีเอชของครีมปรับสีผิวในทั้งสองบรรจุภัณฑ์ลดลงส่วนความหนืดในทั้งสองบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นในระหว่างการเก็บรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ที่อุณหภูมิสูง (45 และ 50 องศาเซลเซียส) พบว่า ครีมเพื่อผิวกระจ่างใสในทั้งสองบรรจุภัณฑ์เริ่มมีสีที่คล้ำขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ 2 และมีสีที่คล้ำขึ้น อย่างชัดเจนในการเก็บรักษาในสัปดาห์ที่ 8 ส่วนการเปลี่ยนแปลงด้านกลิ่น และความเข้มของกลิ่นนั้น ครีมปรับสีผิวในบรรจุภัณฑ์ PP จะมีความเข้มกลิ่นอ่อนลงอย่างชัดเจน (ระดับ 3) ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 8 ของการเก็บรักษารวมทั้งมีกลิ่นที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน สำหรับในบรรจุภัณฑ์ PET นั้น พบว่ากลิ่นจะอ่อนลงปานกลาง (ระดับ 2) เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษา และไม่มีการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจน สังเกตได้ส่วนค่าพีเอชในครีมปรับสีผิวทั้งสองบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มลดลงจนถึงสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษา ส่วนค่าความหนืดนั้น เมื่อเก็บรักษาที่อุณหภูมิสูง ทำให้ค่าความหนืดของครีมเพื่อผิวกระจ่างใสในทั้งสองบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงแรกของระยะเวลาการเก็บรักษา แต่เมื่อเก็บรักษาไปเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ความหนืดของครีมปรับสีผิวในทั้งสองบรรจุภัณฑ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นครีมเพื่อผิวกระจ่างใสที่มีส่วนผสมของไลโปโซมสารสกัดมะหาดและชะเอมเทศสามารถเก็บรักษาที่อุณหภูมิแช่เย็นและอุณหภูมิห้องได้นานกว่า 3 เดือน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพอย่างมีนัยสำคัญในทั้งสองบรรจุภัณฑ์ และมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการเก็บรักษาของครีม เพื่อผิวกระจ่างใสที่มีส่วนผสมของไมโครแคปซูลสารสกัดมะหาดและชะเอมเทศเป็นไปตามสมการ อันดับหนึ่ง
dc.identifier.urihttps://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12250
dc.publisherมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
dc.subjectชะเอมเทศ
dc.subjectมะหาด
dc.subjectสารสกัดจากสมุนไพร
dc.subjectไลโปโซม
dc.subjectอิมัลชั่น
dc.titleการศึกษาอายุการเก็บในสภาวะเร่งของ whitening cream ที่มีส่วนผสมของสารสกัดมะหาด และชะเอมเทศ
mods.location.urlhttps://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=3343
Files
Collections