ศิลปะการใช้ภาษาในงานประพันธ์เพลงของยืนยง โอภากุล (ศึกษาเฉพาะกรณีเพลงที่กล่าวถึงนามบุคคล)
| dc.contributor.author | วรัตต์ อินทสระ | |
| dc.date.accessioned | 2025-09-03T03:45:55Z | |
| dc.date.available | 2025-09-03T03:45:55Z | |
| dc.description.abstract | งานวิจัย เรื่อง ศิลปะการใช้ภาษาในงานประพันธ์เพลงของยืนยง โอภากุล (ศึกษาเฉพาะกรณีเพลงในที่กล่าวถึงนามบุคคล) มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ภาษาด้านการใช้คำและโวหารภาพพจน์ในงานประพันธ์ของยืนยง โอภากุล โดยศึกษาจากแนวความคิด ทัศนะส่วนตัว จินตนาการและอารมณ์ ของผู้ประพันธ์ ที่สื่อสารผ่านบทเพลง ที่กล่าวถึง นามบุคคล ผู้วิจัยใช้วิธีค้นคว้าข้อมูลเบื้องต้นจากเอกสาร สิ่งพิมพ์ ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สัมภาษณ์ผู้ประพันธ์เพลง โดยมีเพลง ที่กล่าวถึงนามบุคคล จำนวน 20 เพลง เป็นเครื่องมือในการวิจัย ผู้วิจัยได้ข้อสรุปจากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด นำมาวิเคราะห์และสังเคราะห์เพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่สมบูรณ์ตามวิธีการข้างต้น ได้ผลดังนี้ ผู้ประพันธ์ (ยืนยง โอภากุล) เลือกใช้โวหารต่าง ๆ ในการประพันธ์ จำนวน 11 โวหาร คือ ๑. โวหารเลียนแบบ ผู้ประพันธ์ใช้เพื่ออ้างถึงบุคคลหรือเหตุการณ์หรือพฤติกรรมหรือข้อความมาเปรียบเทียบกับหรือพฤติกรรมของบุคคลที่ผู้ประพันธ์กล่าวถึง พบจำนวน 22 ครั้ง ๒. โวหารถามชวนคิด ผู้ประพันธ์ใช้การตั้งประโยคคำถาม แต่ไม่ต้องการคำตอบ เพื่อเรียกร้องความสนใจหรือกระตุ้นให้ผู้ฟังเพลงคิดตาม นำไปสู่การค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างรอบด้าน พบจำนวน 11 ครั้ง ๓. อุทธาหรณ์ ผู้ประพันธ์ใช้เพื่อการเปรียบเรื่องราว เหตุการณ์ โดยการยกข้อความที่ง่ายต่อการเข้าใจเทียบกับสิ่งที่ผู้ประพันธ์ต้องการเสนอ โดยเลือกใช้สุภาษิต คำพังเพย พบจำนวน 11 ครั้ง ๔. บุคลาธิษฐาน ผู้ประพันธ์ใช้เป็นโวหาร เพื่อนำสรรพสิ่งต่าง ๆ ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตให้มีความรู้สึกนึกคิดและแสดงกิริยาอาการต่าง ๆ ให้ได้เหมือนคน เป็นการประพันธ์ที่มุ่งให้กระทบอารมณ์และเกิดความสะเทือนใจ พบจำนวน 11 ครั้ง ๕. คำซ้ำ ผู้ประพันธ์ใช้เพื่อย้ำคำหรือข้อความ ที่เป็นสาระสำคัญของการเล่าเรื่อง พบจำนวน 10 ครั้ง ๖. อุปมา ผู้ประพันธ์ใช้เพื่อเปรียบของสองสิ่งว่าคล้ายกัน คำที่ผู้ประพันธ์ใช้ ได้แก่ ปาน ราว ดัง เหมือน ดุจ พบจำนวน 10 ครั้ง ๗. โวหารเปรียบเทียบ ผู้ประพันธ์ใช้เปรียบเทียบของสองสิ่งว่าเป็นสิ่งเดียวกันหรือเท่ากันทุกประการ พบจำนวน 9 ครั้ง ๘. โวหารกล่าวเกินจริง ผู้ประพันธ์ใช้เพื่อเน้นความรู้สึกในการประพันธ์ เป็นกลวิธีของผู้ใช้ภาษาที่จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงจินตนาการ หรืออารมณ์ของผู้ประพันธ์ พบจำนวน 7 ครั้ง ๙. นามนัย ผู้ประพันธ์ใช้เพื่อการกล่าวถึงเรื่องหนึ่งแต่ต้องการให้เข้าใจความหมายเป็นอย่างอื่น พบจำนวน 5 ครั้ง ๑๐. สมพจนัย ผู้ประพันธ์กล่าวถึงเรื่องราวเพียงส่วนหนึ่งแต่มีความหมายครอบคลุมหมดทุกส่วน พบจำนวน 4 ครั้ง ๑๑. อาวัตพากย์ ผู้ประพันธ์เรียกผลของสัมผัสที่ผิดไปจากธรรมดา พบจำนวน 2 ครั้ง ข้อสรุปเรื่องแนวความคิด ทัศนะส่วนตัว จินตนาการและอารมณ์ของ ผู้ประพันธ์ที่สื่อสารผ่านบทเพลงที่กล่าวถึงบุคคล พบว่า ผู้ประพันธ์เลือกบุคคลที่จะนำมากล่าวถึงในบทเพลงโดยเกิดจากแรงบันดาลใจ 3 ส่วน คือ 1. จากการอ่านหนังสือ 2. จากประสบการณ์ที่ได้พบ ได้พูดคุย หรือรับรู้เรื่องราวของบุคคลทั้งโดยตรงและผ่านการบอกเล่าจากบุคคลอื่น 3. ผู้ประพันธ์ศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมของบุคคลนั้น เพื่อนำมาแสดงทัศนะส่วนตัวในการประพันธ์เพลง ผู้ประพันธ์สอดแทรกอารมณ์และทัศนะส่วนตัว 2 ประการ คือ ชื่นชมและตำหนิตัวบุคคล ที่กล่าวถึงในการประพันธ์ นอกเหนือจากนี้ ผู้วิจัยยังพบว่า ผู้ประพันธ์มีจุดมุ่งหมายในการใช้ ดนตรีเป็นเครื่องมือในการจุดประกายและปลดปล่อยภาระบางประการของสังคมไทย ผ่านตัวบุคคลที่ผู้ประพันธ์กล่าวถึงด้วยคนต้นแบบที่มีความหลากหลาย แต่มีความโดดเด่น มีพฤติกรรมที่สามารถนำเป็นแบบอย่างให้กับบุคคลรุ่นต่อไป บุคคลส่วนใหญ่ผู้ประพันธ์กล่าวถึงด้วยทัศนคติเชิงบวก ผู้ประพันธ์เพลงใช้ การเล่าเรื่องคล้ายคลึงกับการเขียนสารคดีชีวประวัติ ซึ่งเนื้อหาจะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ผสมผสานกับความงดงามทางภาษาแบบร้อยกรอง สร้างรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้คนฟังเพลงแล้วรู้สึกกระจ่างในทันที เมื่อนำมาใส่จังหวะดนตรี เพื่อเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบในการ ขับเคลื่อน บอกเล่าเนื้อหาผู้ประพันธ์ใช้จังหวะของดนตรีแยกได้ 8 จังหวะ โดยมีจังหวะ Rock ใช้มากที่สุด จำนวน 7 เพลง | |
| dc.identifier.uri | https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/11772 | |
| dc.publisher | มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต | |
| dc.subject | งานประพันธ์ -- เพลง | |
| dc.title | ศิลปะการใช้ภาษาในงานประพันธ์เพลงของยืนยง โอภากุล (ศึกษาเฉพาะกรณีเพลงที่กล่าวถึงนามบุคคล) | |
| mods.location.url | https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1291 |