การพัฒนาความสามารถในการแต่งเพลงเด็กด้วยแอปพลิเคชันการาจแบนด์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ของนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Views
Views1
Usage analytics
Journal Title
การพัฒนาความสามารถในการแต่งเพลงเด็กด้วยแอปพลิเคชันการาจแบนด์ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ของนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์
Authors
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแต่งเพลงเด็กด้วยแอปพลิเคชันการาจแบนด์ก่อนและหลังการใช้เทคนิคการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐานของนักศึกษาสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักศึกษาสาขาปฐมวัย ชั้นปีที่ 2 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 1 ห้อง 30 คน ในรายวิชา 1071317 ดนตรีสำหรับครูปฐมวัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้งนครนายก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แบบประเมินความสามารถในการแต่งเพลงด้วยแอปพลิเคชันการาจแบนด์ 2. แผนการเรียนการสอนแบบสร้างสรรค์ สถิติที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ 1.การหาค่าสถิติพื้นฐานของคะแนนจากแบบประเมินการแต่งเพลงเด็กด้วยแอปพลิเคชันการาจแบนด์ ก่อนและหลังการทดลองของกลุ่มทดลอง ซึ่งได้แก่ คะแนนค่าเฉลี่ย (Mean) และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 2. สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนจากแบบประเมินการแต่งเพลงด้วยแอปพลิเครชันการาจแบนด์ภายในกลุ่มทดลอง โดยใช้การศึกษาคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ (relative gain score) ผลการวิจัยมีดังนี้ นักศึกษามีคะแนนความสามารถในการแต่งเพลงเด็กด้วยแอปพลิเคชันการาจแบนด์ก่อนการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 21.45 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.84 และ คะแนนความสามารถในการแต่งเพลงเด็กด้วยแอปพลิเคชันการาจแบนด์ หลังการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 42.62 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 4.04 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังการทดลอง พบว่า คะแนนหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ . 05 เมื่อพิจารณาคะแนนสัมพัทธ์แล้ว ทำให้รู้ว่าผู้เรียนแต่ละคนมีคะแนนพัฒนาการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย ร้อยละ 49.35 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์พัฒนาการระดับปานกลาง จากผลการแปลงคะแนน