LP-Specific Areas
Permanent URI for this collection
Browse
Browsing LP-Specific Areas by Author "ศูนย์การศึกษา ลำปาง"
Now showing 1 - 6 of 6
Results Per Page
Sort Options
Item 5 ภูมิวัฒนธรรม ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง(มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษา ลำปาง, 2024-12-01) ศูนย์การศึกษา ลำปางเที่ยวบ้านป่าเหมี้ยงทั้งที ก็ต้องเที่ยวกันแบบมีภูมิ เริ่มกันที่ภูมิหลัง ว่ากันว่า บ้านป่าเหมี้ยงแห่งนี้มีเรื่องราวเล่าขานจากคนในชุมชน เกี่ยวกับประวัติที่มาของหมู่บ้าน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 200 – 300 ปีมาแล้ว ว่า มีฤๅษี 2 ตน มาปฏิบัติธรรม บนเขา ขณะนั่งปฏิบัติธรรม แต่มีตนหนึ่งรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน จึงถามฤาษีอีกตนหนึ่งที่สามารถนั่งปฏิบัติธรรมได้อย่างปกติ ว่า “ท่านไปฉันอะไรมา จึงไม่ง่วงนอน” ฤๅษีอีกตนจึงได้ตอบไปว่า “ฉันใบไม้” นั่นก็คือ “ใบเหมี้ยง” อันเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ นั่นเอง จากภูมิหลัง มาต่อกันด้วย ภูมิวงศ์ หรือต้นตระกูลของบุคคลสาคัญที่มีบทบาทต่อชุมชน นั่นคือ “ตระกูลข้อมือเหล็ก” โดยในยุคเริ่มแรกของการปกครองบ้านป่าเหมี้ยงใต้การนาของ “พ่อหลวงหวัน ข้อมือเหล็ก” ผู้นาคนแรกของชุมชน และมี “หลวงธิกับหลวงเครื่อง” ซึ่งเป็นคนกลุ่มแรกที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานสร้างบ้านเรือน กระทั่งมีการสืบทอดเชื้อสายผ่านระบบเครือญาติมาอย่างยาวนานกระทั่งปัจจุบัน โดยสายตระกูลสาคัญ อาทิ ตระกูลจันทร์งาม (มีมากที่สุด) รองลงมา ตระกูลข้อมือเหล็ก ตระกูลมักได้ และตระกูลเทพสิงห์ ตามลำดับ การตั้งบ้านเรือนในยุคนั้นเริ่มต้นมีประมาณ 25 หลังคาเรือน กลุ่มคนที่ทยอยอพยพเข้ามา มีจาก หลากหลายพื้นที่ ทั้งคนเมือง ซึ่งเป็นคนพื้นถิ่นลำปางดั้งเดิม คนขมุ (จากฝั่งลาว) คนม่าน หรือชาวเงี้ยว เป็นต้นต่อกันด้วยภูมิเมือง ว่าด้วยเรื่องการประกอบอาชีพ หรือ การทำมาหากินของคนบ้านป่าเหมี้ยงซึ่งจากชื่อและที่มาของชุมชน ก็อาจเดาได้ไม่ยากว่า อาชีพหลักของคนในชุมชนแห่งนี้ คือ การทำเหมี้ยง ตั้งแต่การปลูก เก็บ หมัก รวมถึงการทำชาจากใบเหมี้ยง การแปรรูปหมอนใบชา และการปลูกกาแฟแซมสวนเหมี้ยง จึงทำให้หมู่บ้านป่าเหมี้ยงนี้ มีความโดดเด่นมาก ในการเป็นแหล่งชาและกาแฟที่สำคัญของจังหวัดลำปางและภาคเหนือของประเทศไทย เมื่อ การทำเหมี้ยง คือ อาชีพหลักของคนในชุมชน เพราะฉะนั้นหนึ่งใน ภูมิปัญญา ที่สำคัญของก็คงหนีไม่พ้นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเหมี้ยง ตั้งแต่การปลูก เก็บ หมัก และวัฒนธรรมการกินเหมี้ยง กระทั่งสื่อผ่านออกมาเพื่อถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ให้แก่คนรุ่นหลัง ในรูปแบบของศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่เรียกว่า ฟ้อนเก็บเหมี้ยง ปิดท้ายกันด้วย ภูมิธรรม กลไกแห่งศรัทธาที่ช่วยยึดโยงคนในชุมชนให้สามารถสร้างพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้ ภายใต้หลักการจัดการชุมชนแบบ “บวร” หรือ บ้าน วัด โรงเรียน กับพื้นที่ศูนย์กลางความเชื่อ อย่าง ศาลเจ้านาย หรือ ศาลเจ้าพ่อข้อมือเหล็ก อันเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนในชุมชนให้ความเคารพนับถือ และ วัดป่าเหมี้ยง หรือ วัดศรีบุญชุม วัดประจาหมู่บ้าน สถานที่ประกอบพิธีกรรม กิจกรรมประเพณีทางศาสนาที่สำคัญต่างๆ ของชุมชนItem คู่มือสำรับอาหารชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง(มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษา ลำปาง, 2024-12-01) ศูนย์การศึกษา ลำปางสำรับอาหาร สำหรับใครที่มาท่องเที่ยวชุมชน "บ้านป้าเหมี่ยง" นอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่น่าสนใจของชุมชนแล้ว ยังได้สัมผัสกับสำรับอาหารที่พัฒนาอย่างสร้างสรรค์ด้วยวัตถุดิบเอกลักษณ์ของพื้นที่ คือ เหมี้ยง กาแฟ และพืชผัก สมุนไพรปลอดสารพิษของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเมนูไก่หลงป่า ทอดมันหัวปลีใบเหมี้ยง ข้าวยำน้ำเหมี้ยง และขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นอย่างโมจิกาแฟ และ โมจิชาเขียว ราดด้วยน้ำผึ้งผึ้งป่า ทานคู่กับเจลลี่ชาอัสสัม(ชาป่า) ยิ่งได้ลิ้มรสยิ่งสดชื่น ชวนให้กลับมาท่องเที่ยว มาเยือนยังชุมชนที่น่าหลงไหลแห่งนี้อีกครั้งItem คู่มือสำรับอาหารตามหลักโภชนาการปลอดภัย สมวัยอิ่มสุข สำหรับเด็ก 1 - 3 ปี(มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษา ลำปาง, 2024-12-01) ศูนย์การศึกษา ลำปางการพัฒนาเด็กปฐมวัย (อายุ 0-6 ปี) นับเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางรากฐาน ด้านสุขภาพ กาย จิต และสมอง โดยเฉพาะด้านโภชนาการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการทุกด้าน โภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทั้งด้านร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และด้านสมองที่มีการเรียนรู้และจดจำที่ดี ในทางกลับกัน โภชนาการที่ขาดสมดุลอาจนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหาร โรคอ้วน และปัญหาด้านสุขภาพเรื้อรังต่าง ๆ โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับเด็กในช่วงปฐมวัยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทางสติปัญญาและอารมณ์ การได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมกับวัยจะช่วยเสริมสร้างระบบประสาทและสมองให้แข็งแรง ทำให้เด็กมีสมรรถภาพในการเรียนรู้และพัฒนาการคิดวิเคราะห์ที่ดี การบริโภคอาหาร ที่หลากหลายทั้งในด้านชนิดและปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง ทั้งนี้ อาหารที่เหมาะสมจะประกอบด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างการเจริญเติบโต จากการศึกษาวิจัยพบว่า เด็กที่ได้รับการดูแลเรื่องโภชนาการอย่างถูกต้องมีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพ ที่แข็งแรง และมีพัฒนาการทางสมองที่ดีกว่าเด็กที่ขาดสารอาหาร (UNICEF, 2021; WHO, 2020) นอกจากนี้ การส่งเสริมพฤติกรรมการกินอาหารที่ดีตั้งแต่เด็กยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน การสร้างพื้นฐานการบริโภคที่ดีในวัยเด็กจึงเป็นการลงทุนที่สำคัญ ในการส่งเสริมสุขภาพระยะยาว คู่มือสำรับอาหารตามหลักโภชนาการปลอดภัย สมวัยอิ่มสุข (สำหรับเด็กอายุ 3 - 6 ปี) ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยสามารถนำความรู้ด้านโภชนาการมาใช้ในการดูแลเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากคุณศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย และคุณสงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย มีเนื้อหาครอบคลุม บทที่ 1 โภชนาการกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย ความสำคัญของโภชนาการต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย โภชนาการกับการพัฒนาทางสมองและการเรียนรู้ บทที่ 2 ความรู้พื้นฐานด้านโภชนาการสำหรับเด็กปฐมวัย ประกอบด้วยความสำคัญของโภชนาการในวัยเด็ก อาหารหลัก 5 หมู่ และสารอาหาร สารอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กวัยเรียน (ธงโภชนาการ) และปัจจัยที่มีผลต่อภาวะโภชนาการของเด็ก บทที่ 3 แนวทางการออกแบบสำรับอาหารตามมาตรฐานสำหรับเด็กปฐมวัยอายุอายุ 3 - 6 ปีประกอบด้วย มาตรฐานการจัดอาหารกลางวันและอาหารเสริมระหว่างมื้อสำหรับเด็ก ปริมาณสารอาหารตามความต้องการประจำวันของเด็กแต่ละช่วงอายุ การกำหนดมาตรฐานปริมาณวัตถุดิบอาหาร ตัวอย่างสำรับอาหารสำหรับเด็กปฐมวัย และการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารและโภชนาการ บทที่ 4 พฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย การประเมินภาวะโภชนาการเด็กปฐมวัย หลักการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย บทบาทของครูผู้ดูแลเด็กในการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย บทบาทของผู้ปกครองในการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย และเทคนิคการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย คณะผู้จัดทำหวังว่าคู่มือฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประสิทธิภาพของการสร้างโภชนาการทางด้านอาหารที่มีคุณภาพแก่เด็กปฐมวัย เพื่อประโยชน์ต่อเนื่องในการเสริมเติมศักยภาพทางร่างกายและจิตใจของเด็กปฐมวัยอย่างเต็มที่ เป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าในการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดีและ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง สนับสนุนการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมวัยของเด็ก ช่วยให้ผู้ปกครองและผู้ดูแลมีแนวทางในการจัดเมนูอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ช่วยให้เด็กได้รับพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย ลดความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหารและโรคอ้วน โดยรายละเอียดของคู่มือได้ให้ข้อมูลเพื่อแนะนำปริมาณอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อและประเภทอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ให้แนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการกินที่ดี เช่น การเลือกอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ การกินอาหารหลากหลาย ซึ่งช่วยให้เด็กซึมซับพฤติกรรมที่ดีและมีทัศนคติที่ดีต่อการกินอาหาร ให้ความรู้และแนวทางในการเลือกอาหารปลอดภัย ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกวัตถุดิบที่สะอาด ปลอดภัย และวิธีการปรุงอาหารที่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงของการได้รับสารพิษหรือสารตกค้างในอาหารเสริมสร้างความเข้าใจและทักษะในการจัดเตรียมอาหาร อันจะช่วยให้ผู้ปกครองและผู้ดูแลมีทักษะในการวางแผนและจัดเตรียมอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก ส่งผลให้เด็กได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัย ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวผ่านการรับประทานอาหารร่วมกัน สนับสนุนการสร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัว ทำให้เกิดการสื่อสารที่ดี เพราะโภชนการที่ดีเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของสถานศึกษาและครอบครัวItem คู่มือสำรับอาหารตามหลักโภชนาการปลอดภัย สมวัยอิ่มสุข สำหรับเด็ก 3 - 6 ปี(มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษา ลำปาง, 2024-12-01) ศูนย์การศึกษา ลำปางการพัฒนาเด็กปฐมวัย (อายุ 0-6 ปี) นับเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางรากฐาน ด้านสุขภาพ กาย จิต และสมอง โดยเฉพาะด้านโภชนาการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการทุกด้าน โภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทั้งด้านร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และด้านสมองที่มีการเรียนรู้และจดจำที่ดี ในทางกลับกัน โภชนาการที่ขาดสมดุลอาจนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหาร โรคอ้วน และปัญหาด้านสุขภาพเรื้อรังต่าง ๆ โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับเด็กในช่วงปฐมวัยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทางสติปัญญาและอารมณ์ การได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมกับวัยจะช่วยเสริมสร้างระบบประสาทและสมองให้แข็งแรง ทำให้เด็กมีสมรรถภาพในการเรียนรู้และพัฒนาการคิดวิเคราะห์ที่ดี การบริโภคอาหาร ที่หลากหลายทั้งในด้านชนิดและปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง ทั้งนี้ อาหารที่เหมาะสมจะประกอบด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างการเจริญเติบโต จากการศึกษาวิจัยพบว่า เด็กที่ได้รับการดูแลเรื่องโภชนาการอย่างถูกต้องมีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพ ที่แข็งแรง และมีพัฒนาการทางสมองที่ดีกว่าเด็กที่ขาดสารอาหาร (UNICEF, 2021; WHO, 2020) นอกจากนี้ การส่งเสริมพฤติกรรมการกินอาหารที่ดีตั้งแต่เด็กยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน การสร้างพื้นฐานการบริโภคที่ดีในวัยเด็กจึงเป็นการลงทุนที่สำคัญ ในการส่งเสริมสุขภาพระยะยาว คู่มือสำรับอาหารตามหลักโภชนาการปลอดภัย สมวัยอิ่มสุข (สำหรับเด็กอายุ 3 - 6 ปี) ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยสามารถนำความรู้ด้านโภชนาการมาใช้ในการดูแลเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากคุณศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย และคุณสงวนศรี สุทธิพงษ์ชัย มีเนื้อหาครอบคลุม บทที่ 1 โภชนาการกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย ความสำคัญของโภชนาการต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย โภชนาการกับการพัฒนาทางสมองและการเรียนรู้ บทที่ 2 ความรู้พื้นฐานด้านโภชนาการสำหรับเด็กปฐมวัย ประกอบด้วยความสำคัญของโภชนาการในวัยเด็ก อาหารหลัก 5 หมู่ และสารอาหาร สารอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กวัยเรียน (ธงโภชนาการ) และปัจจัยที่มีผลต่อภาวะโภชนาการของเด็ก บทที่ 3 แนวทางการออกแบบสำรับอาหารตามมาตรฐานสำหรับเด็กปฐมวัยอายุอายุ 3 - 6 ปีประกอบด้วย มาตรฐานการจัดอาหารกลางวันและอาหารเสริมระหว่างมื้อสำหรับเด็ก ปริมาณสารอาหารตามความต้องการประจำวันของเด็กแต่ละช่วงอายุ การกำหนดมาตรฐานปริมาณวัตถุดิบอาหาร ตัวอย่างสำรับอาหารสำหรับเด็กปฐมวัย และการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารและโภชนาการ บทที่ 4 พฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย การประเมินภาวะโภชนาการเด็กปฐมวัย หลักการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย บทบาทของครูผู้ดูแลเด็กในการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย บทบาทของผู้ปกครองในการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย และเทคนิคการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กปฐมวัย คณะผู้จัดทำหวังว่าคู่มือฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประสิทธิภาพของการสร้างโภชนาการทางด้านอาหารที่มีคุณภาพแก่เด็กปฐมวัย เพื่อประโยชน์ต่อเนื่องในการเสริมเติมศักยภาพทางร่างกายและจิตใจของเด็กปฐมวัยอย่างเต็มที่ เป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าในการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดีและ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่แข็งแรง สนับสนุนการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมวัยของเด็ก ช่วยให้ผู้ปกครองและผู้ดูแลมีแนวทางในการจัดเมนูอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ช่วยให้เด็กได้รับพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย ลดความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหารและโรคอ้วน โดยรายละเอียดของคู่มือได้ให้ข้อมูลเพื่อแนะนำปริมาณอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อและประเภทอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ให้แนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการกินที่ดี เช่น การเลือกอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ การกินอาหารหลากหลาย ซึ่งช่วยให้เด็กซึมซับพฤติกรรมที่ดีและมีทัศนคติที่ดีต่อการกินอาหาร ให้ความรู้และแนวทางในการเลือกอาหารปลอดภัย ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกวัตถุดิบที่สะอาด ปลอดภัย และวิธีการปรุงอาหารที่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงของการได้รับสารพิษหรือสารตกค้างในอาหารเสริมสร้างความเข้าใจและทักษะในการจัดเตรียมอาหาร อันจะช่วยให้ผู้ปกครองและผู้ดูแลมีทักษะในการวางแผนและจัดเตรียมอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก ส่งผลให้เด็กได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัย ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวผ่านการรับประทานอาหารร่วมกัน สนับสนุนการสร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัว ทำให้เกิดการสื่อสารที่ดี เพราะโภชนการที่ดีเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของสถานศึกษาและครอบครัวItem ท่องเที่ยวชุมชน(มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษา ลำปาง, 2024-12-01) ศูนย์การศึกษา ลำปางท่องเที่ยวชุมชน ภายใต้โครงการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยว 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยภายในเล่มมี QR Code สำหรับชมวิดีทัศน์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว และมีแผนที่ท่องเที่ยวภายในชุมชนItem สำรับอาหารรองรับการท่องเที่ยวชุมชนบ้านผาด่าน(มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษา ลำปาง, 2024-12-01) ศูนย์การศึกษา ลำปางชุมชนบ้านผาด่าน ตั้งอยู่ที่ตำบลทากาศ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน มีลักษณะทางกายภาพของชุมชนตั้งอยู่ในพื้นราบหุบเขา เป็นภูเขาแบบสลับซับซ้อน พื้นที่โดยรอบหมู่บ้านมีภูเขาและลำธารล้อมรอบ ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นชนเผ่าปกาเกอะญอที่มีความเชื่อเกี่ยวกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ความเชื่อถูกนำมาพูกพันกับวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการหาของป่าเพื่อนำมาประกอบอาหาร เช่น ผักหวาน เห็ด หน่อไม้ สัตว์ป่า สนุนไพรและยารักษาโรค เช่น ว่าน ไพร รากไม้ เชื้อเพลิง ที่อยู่อาศัย เป็นต้น จะเห็นได้ว่าวิถีชีวิตของชนเผ่าปกาเกอะญอใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ผูกพันและพึ่งพิงธรรมชาติโดยตลอด ดังนั้นยังคงเลือกใช้วัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติในผืนป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ เพื่อนำมาปรุงประกอบอาหารด้วยวิธีการที่เรียบง่ายจากการเรียบรู้ผ่านการ ถ่ายทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น ตามแบบวิถีการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่า