การพัฒนาครูต้นแบบด้านการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารระดับปฐมวัย สำหรับครู ผู้ดูแลเด็กภาคใต้ตอนล่าง : กรณีศึกษานักศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Views
Views2
Usage analytics
Journal Title
การพัฒนาครูต้นแบบด้านการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารระดับปฐมวัย สำหรับครู ผู้ดูแลเด็กภาคใต้ตอนล่าง : กรณีศึกษานักศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาครูต้นแบบด้านการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารระดับปฐมวัยโดยกาอบรมสัมมนา 2) ปฏิบัติการสอนจริงและติดตามผลโดยมุ่งเน้นประเมินทักษะของผู้เข้าอบรม 3 ด้านคือ ก) ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของครูต้นแบบก่อนและหลังจากการอบรม ได้แก่ องค์ความรู้ทางภาษาอังกฤษ การจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล ข) ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) ได้แก่ ทักษะการสอน เทคนิค วิธีการสอน ของผู้เข้าอบรมในขณะสำธิตการสอนตามโรงเรียนของตนเอง ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี และตรัง ค) ด้านเจตคติ (Affective Domain) ที่มีต่อการอบรม 6 ด้าน ได้แก่ ด้านเนื้อหาสาระ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านการวัดและประเมินผล ด้านพฤติกรรมของผู้สอน ด้านประโยชน์และการนำไปประยุกต์ใช้ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้ดูแลเด็กที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์การศึกษาภาคใต้ตอนล่าง จำนวน 200 คน สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสำรวจความคิดเห็น แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการอบรม แบบประเมินการสอน แบบประเมินเจตคติต่อการอบรม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การคำนวณค่าทางสถิติ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของครูผู้ดูแลเด็ก ทั้ง 200 คน พบว่า มีค่าระดับคะแนนเพิ่มขึ้นหลังจากการเข้ารับการอบรมในภาพรวม ค่าเฉลี่ย 41.83 แยกตามจังหวัดได้ดังนี้ คือ จังหวัดสงขลาเพิ่มขึ้น 46.88 จังหวัดปัตตานีเพิ่มขึ้น 36.96 และ ตรัง เพิ่มขึ้น 41.66
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการสอน หรือทักษะพิสัย พบว่า ครูผู้ดูแลเด็ก จังหวัดสงขลามีทักษะการสอนอยู่ในระดับดีค่าเฉลี่ย 20.87 จังหวัดปัตตานีอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย 20.15 และจังหวัดตรังอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย 20.53
3. เจตคติต่อการอบรม พบว่า 1) ด้านวิทยากรอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.69 รองลงมาได้แก่ ด้านกิจกรรมการจัดการเรียนการสอน ค่าเฉลี่ย 4.56 ด้านเนื้อหาสาระ 4.48 และ ด้านการวัดและประเมินผลเป็นอันดับสุดท้าย ค่าเฉลี่ย 4.38
4. ผลการทดสอบสมมติฐาน ปรากฏผลดังนี้
4.1 คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของครูต้นแบบหลังจากการเข้ารับการอบรมนั้น มีคะแนนสูงขึ้น ซึ่งได้ค่าเฉลี่ยความก้าวหน้าร้อยละ 41.83 จึงสอดคล้องกับสมมติฐานที่ได้ตั้งไว้
4.2 คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางด้านทักษะการสอนของครูต้นแบบหลังจากการทดลองสอนแล้ว มีคะแนนสูงขึ้น ซึ่งได้ค่าเฉลี่ย 20.51 อยู่ในระดับดี จึงสอดคล้องกับสมมติฐานที่ได้ตั้งไว้
4.3 คะแนนความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ได้ตั้งไว้เช่นกัน