แนวทางการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุข เชิงพุทธบูรณาการ

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Views
Views3
Usage analytics
Journal Title
แนวทางการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุข เชิงพุทธบูรณาการ
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ คือ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์แนวคิด และแนวปฏิบัติเพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุข 2) เพื่อสำรวจสภาพปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุข 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุขเชิงพุทธบูรณาการ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 21 กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย การสังเกต การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่มใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยมีดังนี้ 1. การสังเคราะห์แนวคิดการพัฒนาชุมชนตามแนวหมู่บ้านสรรโวทัย หมู่บ้านแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง หมู่บ้านศีล 5 หมู่บ้านประชารัฐ และหมู่บ้านช่อสะอาด สรุปได้ว่าแนวคิดการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุข สามารถสรุปลงในหลักภาวนา 4 คือ เริ่มต้นจากการพัฒนากาย กล่าวคือ การพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาสิ่งอื่น ๆ ต่อด้วยการพัฒนาร่างกายให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืนโดยการพัฒนาอาชีพให้สามารถดำรงตนอยู่ได้อย่างมั่งมีศรีสุข และการพัฒนา สุขภาพให้แข็งแรงเพื่อที่จะต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ต่อเนื่องด้วยการพัฒนาพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับสังคมระเบียบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ การพัฒนาจิตใจให้เข้มแข็งมีสุขภาพจิตดี สมรรถภาพดี และคุณภาพดี รวมไปถึงการพัฒนาปัญญาให้เข้มแข็งสามารถเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามสภาพที่เป็นจริง อันจะส่งผลต่อการมองและการกำหนดท่าทีให้สามารถเข้าใจและหาแนวทางบริหารจัดการให้ชีวิต และสังคมอยู่บนฐานของสัมมาทิฏฐิ คือ ความเห็นที่ถูกต้องส่วนแนวทางในการปฏิบัตินั้นจะต้องนำ แนวคิด PDCA มาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนโดยบูรณาการกับหลักอิทธิบาท 4 จึงจะทำให้การพัฒนาชุมชนสำเร็จได้ 2. ผลการวิเคราะห์สภาพปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุขของชุมชนบ้านขะยูง ตำบลห้วยตามอญ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านโนนงาม ตำบลโนนสว่าง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ และบ้านท่าคอยนาง ตำบลสวาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า บ้านขะยูงจุดแข็ง คือ มีแนวคิดการพัฒนาโดยใช้การมีส่วนร่วมและหลักภาวนา 4 มีพระสงฆ์ที่เป็นผู้นำที่เข้มแข็งสามารถนำชุมชนและประสานเครือข่ายภายนอกให้มาร่วมพัฒนาชุมชนได้ มีการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อเป็นแหล่งทุนสนับสนุนกิจกรรมและโครงการ มีการร่วมกับเครือข่ายในชุมชนทำกลุ่มจิตอาสาดูแลผู้สูงอายุ จัดทำสวนธรรมโพลวพลือเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นแหล่งอาหารทั้งของวัดและของหมู่บ้านชุมชนมีความศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างดียิ่ง แต่มีจุดอ่อน คือ ขาดกลไกการทำงานที่สามารถเชื่อมประสานทุกฝ่ายได้ ทีมจิตอาสาเพื่อขับเคลื่อนงานยังมีน้อยชุมชนยังขาดความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาโดยชุมชนเพื่อชุมชน ชุมชนบ้านโนนงามมีจุดเด่น คือ มีการใช้ความเชื่อเกี่ยวกับการทำบุญแจกข้าวและความศรัทธาที่เป็นทุนเดิมเป็นหลักมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชน มีพระสงฆ์ที่เป็นผู้นำที่เข้มแข็งสามารถนำชุมชนและประสานเครือข่ายภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นปัญญาชนให้มาร่วมพัฒนาชุมชนมีจุดอ่อน คือ ขาดกลไกการทำงานที่สามารถเชื่อมประสานทุกฝ่ายได้ พระสงฆ์ที่เป็นแกนนำที่เป็นเจ้าอาวาสถึงแม้จะเป็นลูกหลานคนในพื้นที่แต่ไม่ได้อยู่ต่อเนื่องเพราะมีภารกิจมากต้องไปศึกษาเล่าเรียนบางครั้งทำให้การพัฒนาขาดความต่อเนื่อง และขาดทีมงานจิตอาสาที่จะขับเคลื่อนชุมชน ชุมชนบ้านท่าคอยนางมีจุดแข็ง คือ มีศาลปู่ ตา เป็นศูนย์รวมจิตใจแต่จุดอ่อน คือ ขาดกลไกการทำงานที่สามารถเชื่อมประสานทุกฝ่ายได้ ขาดแกนนำพระสงฆ์ในพื้นที่ที่มีความรู้ความสามารถ และขาดคณะทำงานที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง 3. แนวทางการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุขเชิงพุทธบูรณาการตามแนวไตรรัตน์ ประกอบด้วย 1) พระพุทธ หมายถึง การพัฒนาศักยภาพชุมชน ต้องมีพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อมโยงเข้ากับตำนานก่อให้เกิดศรัทธาเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งในระดับชาวบ้านอาจเริ่มจากภูมิปัญญาหรือความเชื่อของชุมชนควรอนุรักษ์หรือรักษา หรือต่อยอดความเชื่อให้เป็นจุดร่วม หรือจุดเริ่มต้นของการหลอมรวมศรัทธา จากนั้นจึงค่อยพัฒนาจากความเชื่อความศรัทธาแบบขาดปัญญา ไปสู่ระดับความเชื่อที่มีปัญญาหรือมีเหตุผลมารองรับ 2) พระธรรม หมายถึง การพัฒนาศักยภาพ ชุมชนต้องมีหลักการ วิธีการกุสโลบายการพัฒนา หรือหลักธรรมคำสอนตลอดจนกิจกรรม หรือประเพณี ในข้อนี้ต้องมีวิชาการ หรือมีหลักการ หรือมีความรู้มาช่วยสนับสนุนการพัฒนา เช่น การพัฒนาแบบใช้งานวิจัยเป็นฐาน เป็นต้น ทั้งนี้หลักวิชาการจะต้องสามารถบูรณาการกับกุสโลบายเดิมของชุมชน คือ ประเพณี หรือพิธีกรรมต่าง ๆ เพราะการให้หลักวิชาการจะมีรูปแบบที่เข้าใจได้ยาก แต่พิธีกรรมหรือกิจกรรมจะเป็นการหล่อองค์ความรู้สู่ภาคของการปฏิบัติได้อย่างไร้รอยต่อ 3) พระสงฆ์ หมายถึง การพัฒนาศักยภาพชุมชน ต้องมีผู้นำ มีต้นแบบที่ยืนยันความสำเร็จ หรือคอยนำทางหรือชี้ทางอาจหมายถึงทั้งพระและคฤหัสถ์ก็ได้ที่มีบารมีรวมไปถึงกลไกการปกครองในเชิงโครงสร้างด้วยโดยมีเป้าหมายในการพัฒนา คือ ยึดหลักภาวนา 4 คือ กายภาพ พฤติภาพ จิตภาพ และปัญญาภาพ 1. ด้านกายภาวนา/ภายภาพ ในขั้นที่ 1 ยุทธศาสตร์การพัฒนาสิ่งแวดล้อมภายในหมู่บ้านให้มีความสะอาด ขั้นที่ 2 ยุทธศาสตร์การพัฒนาสัมมาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนให้การดำเนินชีวิตมีความสุข ขั้นที่ 3 ยุทธศาสตร์การวางแผนทางด้านการเงินตามหลักโภค วิภาค 2. ด้านศีลภาวนา/พฤติภาพ ในขั้นที่ 1 ยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชนให้เป็นชุมชนศีล 5 ในขั้นที่ 2 ยุทธศาสตร์การพัฒนาศีล 5 เพื่อสังคมมุ่งแสดงตนเป็นจิตอาสาเป็นการยกระดับการพัฒนาชุมชน ให้รู้จักเสียสละแบ่งปัน ในขั้นที่ 3 ยุทธศาสตร์ยกระดับการพัฒนาเป็นบุคคลต้นแบบชุมชนต้นแบบ 3. ด้านจิตภาวนา/จิตภาพ ในขั้นที่ 1 ยุทธศาสตร์การใช้กิจกรรมทางศาสนาเป็นสื่อในการพัฒนาชุมชน ในขั้นที่ 2 ยุทธศาสตร์การยกระดับการพัฒนาจิตใจจากระดับศรัทธาสู่ระดับปัญญา ในขั้นที่ 3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพชุมชนให้เกิดการตื่นรู้ มีจิตที่ได้รับการอบรมบ่มเพาะดีแล้ว พร้อมทำหน้าที่ตามวิถีแห่งธรรม 4. ด้านปัญญาภาวนา/ปัญญาภาพ ในขั้นที่ 1 ยุทธศาสตร์การสร้างฐานชุมชนให้เข้มแข็งโดยเริ่มที่สถาบันหลักของชุมชนคือวัด ขั้นที่ 2 ยุทธศาสตร์ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ขั้นที่ 3 ยุทธศาสตร์เปลี่ยนบทบาทของวัดเชิงพิธีกรรมที่มาเป็นวัดเชิงปัญญาของชุมชน