ผลของการตัดข้อสอบที่มีอำนาจจำแนกติดลบออกต่อคะแนนการสอบ และความเชื่อมั่นของข้อสอบทั้งฉบับ: รายวิชาการพยาบาลมารดา ทารก และการผดุงครรภ์ 2

Default Image
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
Usage analytics
Journal Title
ผลของการตัดข้อสอบที่มีอำนาจจำแนกติดลบออกต่อคะแนนการสอบ และความเชื่อมั่นของข้อสอบทั้งฉบับ: รายวิชาการพยาบาลมารดา ทารก และการผดุงครรภ์ 2
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) คุณภาพของข้อสอบรายวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 2. 2) การเปลี่ยนแปลงของค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบก่อนและหลังการตัด ข้อสอบที่มีอำนาจจำแนกติดลบออก 3) การเปลี่ยนแปลงของคะแนนการสอบของนักศึกษา ก่อนและหลังการตัดข้อสอบที่มีอำนาจจำแนกติดลบออก และ 4) การเปลี่ยนแปลงของลำดับคะแนนจากการสอบของนักศึกษาในวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 2 หลังการตัดข้อสอบที่มีอำนาจ จำแนกติดลบออก ประชากรและกลุ่มตัวอย่างคือ ข้อสอบและคะแนนการสอบกลางภาคครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และปลายภาครายวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 2 ของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 จำนวน 92 คน ที่ลงทะเบียนเรียน รายวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 2 ในภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2555 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบบันทึกข้อมูลรายวิชา และโปรแกรมการวิเคราะห์ข้อสอบรายข้อ สถิติที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ ร้อยละ Paired t-test (one-tailed) และ Sign Ranked test ผลการวิจัยมีดังนี้ 1) คุณภาพของข้อสอบ พบว่า ข้อสอบกลางภาคครั้งที่ 1 มีค่าความยากง่ายในเกณฑ์ที่เหมาะสม (P อยู่ระหว่าง .20-.80) จำนวน 55 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 57.88 มีค่าอำนาจจำแนกในเกณฑ์ที่เหมาะสม (r ≥ .20) จำนวน 49 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 51.57 และข้อสอบที่มีค่าอำนาจจำแนกติดลบ จำนวน 7 ข้อคิดเป็นร้อยละ 7.36 ส่วนคุณภาพของข้อสอบทั้งฉบับมีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่น .74 ข้อสอบกลางภาคครั้งที่ 2 มีค่าความยากง่ายในเกณฑ์ที่เหมาะสม (P อยู่ระหว่าง .20-.80) จำนวน 60 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 66.78 มีค่าอำนาจจำแนกในเกณฑ์ที่เหมาะสม (r ≥ .20) จำนวน 62 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 70.52 และข้อสอบที่มีค่าอำนาจจำแนกติดลบจำนวน 3 ข้อคิดเป็นร้อยละ 3.33 ส่วน คุณภาพของข้อสอบทั้งฉบับมีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่น .81 และข้อสอบปลายภาค มีค่าความยากง่ายในเกณฑ์ที่เหมาะสม (P อยู่ระหว่าง .20-.80) จำนวน 53 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 62.36 มีค่าอำนาจ จำแนกในเกณฑ์ที่เหมาะสม (r ≥ .20) จำนวน 49 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 57.64 และข้อสอบที่มีค่าอำนาจ จำแนกติดลบจำนวน 3 ข้อคิดเป็นร้อยละ 3.53 ส่วนคุณภาพของข้อสอบทั้งฉบับมีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่น .74 2) การเปลี่ยนแปลงของค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 2 หลังการตัดข้อสอบที่มีอำนาจจำแนกติดลบออก พบว่าเพิ่มขึ้นทั้ง 3 ชุดของการสอบโดยในการสอบกลางภาคครั้งที่ 1 ค่าความเชื่อมั่นหลังการตัดข้อที่มีอำนาจจำแนกติดลบออกเพิ่มจาก 0.743 เป็น 0.778 การสอบกลางภาคครั้งที่ 2 ค่าความเชื่อมั่นหลังการตัดข้อที่มีอำนาจจำแนกติดลบ ออกเพิ่มจาก 0.810 เป็น 0.819 และการสอบปลายภาคค่าความเชื่อมั่นหลังการตัดข้อที่มีอำนาจ จำแนกติดลบออกเพิ่มจาก 0.744 เป็น 0.754 3) การเปลี่ยนแปลงของคะแนนการสอบที่นักศึกษาได้รับในการสอบกลางภาคครั้งที่ 1 รายวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 2 ก่อนและหลังการตัดข้อสอบที่มีค่าอำนาจ จำแนกติดลบออก โดยสถิติ Paired t-test พบว่า นักศึกษามีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ส่วนการสอบกลางภาคครั้งที่ 2 และการสอบปลายภาคคะแนนเฉลี่ยของนักศึกษา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 4) การเปลี่ยนแปลงของลำดับคะแนนจากการสอบของนักศึกษาในวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ์ 2 หลังการตัดข้อสอบที่มีอำนาจจำแนกติดลบออก พบว่า ในการสอบกลาง ภาคครั้งที่ 1 ลำดับคะแนนที่นักศึกษาได้รับมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ส่วนการสอบกลางภาคครั้งที่ 2 และการสอบปลายภาค พบว่าลำดับคะแนนที่นักศึกษาได้รับไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
Description
Citation
View online resources
Collections