การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัยของประเทศไทยเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

Default Image
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
Views
Views16
Usage analytics
Journal Title
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัยของประเทศไทยเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Method Research) มุ่งศึกษาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัยของประเทศไทยเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาการดำเนินงานของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย 4 ด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการ การพัฒนาหลักสูตร การจัดประสบการณ์ภาษาอังกฤษ และการจัดสภาพแวดล้อมทางภาษา 2) เพื่อเปรียบเทียบสภาพและปัญหาการดำเนินงานของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัยจำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การปฏิบัติงานและความรู้ด้านภาษาอังกฤษ 3) เพื่อหาแนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัยของประเทศไทยเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณ ได้แก่ ครูผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของ Yamane ที่ระดับความคลาดเคลื่อน .05 ได้จำนวน 397 คน และใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) โดยใช้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในแต่ละภาค จังหวัด อำเภอเป็นหน่วยในการแบ่งชั้น ส่วนกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญเชิงคุณภาพที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ตัวแทนครูผู้ดูแลเด็ก หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความรู้ความสามารถและเกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย จำนวนทั้งสิ้น 30 คน เครื่องมือในการวิจัยเชิงปริมาณ คือ แบบสอบถามเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัยของประเทศไทยเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และนำข้อมูลเบื้องต้นของข้อเสนอแนะมาเป็นแนวทางในการสร้างเครื่องมือเชิงคุณภาพ ซึ่งเป็นข้อคำถามเพื่อประกอบการสัมภาษณ์เชิงลึก การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปคำนวณสถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมุติฐาน ใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (one-way ANOVA) และเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีของ LSD สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพวิเคราะห์ข้อมูลโดยการสังเคราะห์เนื้อหาด้วยการจัดลำดับและจัดหมวดหมู่ แล้วนำมาเขียนแจกแจงเป็นความถี่ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. สภาพและปัญหาการดำเนินงานของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย พบว่า ครูผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นหญิง มีอายุ 31-40 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาปฐมวัย มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมากกว่า 15 ปีขึ้นไป สภาพการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการ พบว่า ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการแจ้งข้อมูลการเข้าร่วมอบรม/สัมมนา/ดูงานเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์เป็นภาษาอังกฤษ สื่อและวัสดุอุปกรณ์สนับสนุนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่เพียงพอ มีวิธีการพัฒนาตนเองโดยเข้ารับการอบรม สัมมนาเชิงปฏิบัติการ ด้านการพัฒนาหลักสูตร พบว่า มีการใช้หลักสูตรที่จัดส่งมาจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้จากเรื่องที่กำหนดไว้ในคู่มือของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้เอกสารประกอบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ประเภทหนังสือนิทาน หนังสือการ์ตูน หนังสือหัดอ่านเขียน ABC ฯลฯ ด้านการจัดประสบการณ์ภาษาอังกฤษ พบว่าการเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้สื่อและเทคโนโลยี แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษระหว่างเพื่อนผู้ดูแลเด็กเล็กแบบไม่เป็นทางการ เป้าหมายในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อให้เด็กมีความสนุกสนานและสร้างความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ ด้านการจัดสภาพแวดล้อมทางภาษา พบว่า การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการจัดประสบการณ์เรียนรู้เป็นภาษาอังกฤษ โดยรวมอยู่ในระดับน้อย ส่วนปัญหาการดำเนินงานในโครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย พบว่า ส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรในการใช้ภาษาอังกฤษยังไม่เพียงพอกับความต้องการ ปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ICT พบว่า มีปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้านปัญหาในการจัดการเรียนการสอน ขาดความรู้ ความชำนาญในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เป็นภาษาอังกฤษ 2. เปรียบเทียบสภาพและปัญหาการดำเนินงานของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การปฏิบัติงานและความรู้ด้านภาษาอังกฤษ พบว่า ครูผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีอายุ ประสบการณ์การปฏิบัติงานและมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษต่างกัน มีผลการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษ ไม่แตกต่างกัน ส่วนระดับการศึกษามีผลต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 3. แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัยของประเทศไทยเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ด้านการเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พบว่า ส่วนใหญ่มีการเตรียมความพร้อมโดยครูผู้ดูแลเด็กให้ความรู้ด้านภาษาพื้นฐาน สอนท่องคำศัพท์ง่ายๆ หรือจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดกระบวนการเรียนรู้และจดจำ ด้านบทบาทในการส่งเสริมให้เกิดการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย พบว่า ควรมีความสามารถในการจัดประสบการณ์ด้านภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ด้านการเผยแพร่ความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ ครู และบุคลากรทางการศึกษา พบว่า ควรมีการจัดอบรมหรือศึกษาหลักสูตรระยะสั้นเพื่อใช้ในการสื่อสาร ฟัง พูด อ่าน เขียน ด้านการใช้สื่อเทคโนโลยีในการพัฒนาศักยภาพ พบว่า ส่วนใหญ่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษที่เหมาะสม โดยมีการใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลคำศัพท์ ตัวอย่างประโยคเกี่ยวกับภาษาอังกฤษในการสนทนา ด้านการเตรียมจัดทำแผนการดำเนินงาน พบว่า ครูผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กส่วนใหญ่มีการเตรียมความพร้อมในด้านการจัดการเรียนการสอน การส่งเสริมการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กเข้าร่วมตามความสนใจและความพร้อมของเด็กแต่ละคน
Description
Citation
View online resources
Collections