การศึกษาความรู้ ทัศนคติและการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติเหตุของคนงานในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว จังหวัดสมุทรปราการ

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
Views
Views6
Usage analytics
Journal Title
การศึกษาความรู้ ทัศนคติและการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติเหตุของคนงานในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว จังหวัดสมุทรปราการ
Authors
Recommended by
Abstract
การศึกษานี้เป็นการศึกษาภาคตัดขวาง (Cross - sectional Study) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ ทัศนคติและการปฏิบัติตนของคนงานในการป้องกันอุบัติจากการทำงานในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานก่อสร้าง จำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน อุปนิสัยในการทำงาน (การสูบบุหรี่หรือการดื่มสุรา) กลุ่มตัวอย่างคนงานที่ศึกษาจำนวน 350 คน การเก็บข้อมูลโดยการสังเกตและใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น และนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้ในเชิงพรรณนา (Descriptive Analysis) คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) คือ t - test, one way ANOVA, chi - square test และวัดความสัมพันธ์โดยใช้ contingency coefficient ผลการศึกษาพบว่า คนงานส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 84.6 มีอายุระหว่าง 41 - 50 ปีร้อยละ 31.43 การศึกษาสูงสุดที่ระดับประถมศึกษาร้อยละ 54.29 มีรายได้เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 10,000 - 20,000 บาทต่อเดือนร้อยละ 73.72 พบว่า ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน 1 - 5 ปี มากที่สุดร้อยละ 54.86 และส่วนใหญ่ปฏิบัติงานในตำแหน่งช่างปูนร้อยละ 25.71 สำหรับประสบการณ์การเกิดอุบัติเหตุไม่เคยได้รับอุบัติเหตุในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเป็นส่วนใหญ่ร้อยละ 73.43 การเกิดอุบัติเหตุร้อยละ 26.57 ถูกตะปูหรือเศษเหล็กทิ่มแทงมากที่สุดร้อยละ 52.69 นอกจากนี้ยังพบว่าคนงานปฏิบัติงานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันมากถึงร้อยละ 81.14 สำหรับพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราพบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 45.71 เคยสูบบุหรี่ ส่วนการดื่มสุราพบร้อยละ 47.43 จะดื่มหลังเวลาเลิกงานแล้วเป็นส่วนใหญ่ จากผลการศึกษาความรู้ในการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติเหตุของคนงานก่อสร้างพบว่า ส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุจากการก่อสร้างอยู่ในระดับสูงร้อยละ 77.43 ในด้านความรู้รายข้อพบว่า การทำงานที่ถูกวิธีเป็นลักษณะของการกระทำที่ปลอดภัย มีผู้ตอบถูกมากที่สุด 348 ราย คิดเป็นร้อยละ 99.43 ด้านทัศนคติในการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติเหตุของคนงานก่อสร้างโดยภาพรวมพบว่า มีระดับทัศนคติในการป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุจากการก่อสร้างอยู่ในระดับปานกลางร้อยละ 81.71 ในด้านการปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติเหตุของคนงานก่อสร้างโดยภาพรวมพบว่า ส่วนใหญ่มีระดับพฤติกรรมเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุจากการก่อสร้างอยู่ในระดับปานกลางร้อยละ75.51 ผลการศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับพฤติกรรมในการป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุพบว่า สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน และลักษณะงานที่ปฏิบัติ มีผลต่อพฤติกรรมในการป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุของคนงานก่อสร้างแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05