กลยุทธ์การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน กรณีศึกษาตำบลโคกโคเฒ่า อําเภอเมือง จังหวดสุพรรณบุรี

dc.contributor.authorเรณุมาศ กุละศิริมา | นุจิรา รัศมีไพบูลย์ | เอกชัย พุมดวง | เปรมฤทัย แย้มบรรจง
dc.date.accessioned2025-08-19T02:05:28Z
dc.date.accessioned2025-09-03T03:46:55Z
dc.date.available2025-08-19T02:05:28Z
dc.date.available2025-09-03T03:46:55Z
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบรบทของชุมชนโคกโคเฒ่าในการจัดการความรู้ สร้างกระบวนการจัดการความรู้ของครอบครัว เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของประชาชนในชุมชนโคกโคเฒ่า หาแนวทางในการจัดการความรู้โดยใช้เครือข่ายแหล่งการเรียนรู้ชุมชน สร้างกระบวนการเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมตามแนวเศรษฐกิจชุมชนของกลุ่มอาชีพในตำบลโคกโคเฒ่า และหาแนวทางในการสร้างกลยุทธ์การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วมของชุมชนในตำบลโคกโคเฒ่า อําเภอเมือง จังหวดสพรรณบุรี เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตประชากรประกอบด้วยประชาชนในตำบลโคกโคเฒ่า ผู้บริหารทองถิ่นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาชุมชน กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มจากประชากรที่กําหนดโดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จํานวน 10 คน เป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญในการสัมภาษณ์เชิงลึก ดําเนินการวิจัยแบบผสมผสานด้วยวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสมภาษณ์ และแบบประเมินวิเคราะห์เนื้อหาและวิเคราะห์ SWOT สถิติที่ใช้ในการประเมินผลความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของกลยุทธ์เป็นค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยมีดังนี้ 1. การจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของประชาชนในชุมชนโคกโคเฒ่า พบว่า ในการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตใน 3 ด้าน ชุมชนมีจุดอ่อนและต้องการให้มีการจัดการความรู้และพัฒนามากที่สุดของแต่ละทักษะดังนี้ 1) ทักษะการดารงชีวิตประจาวัน คือ ด้านความสามารถในการบริหารจัดการระบบการเงิน 2) ทักษะเฉพาะบุคคลและทักษะทางสังคม คือ ด้านการสร้างความมั่นใจในตนเอง 3) ทักษะการประกอบอาชีพ คือ ด้านความสามารถในการประกอบอาชีพในการแก้ไขปัญหาในกระบวนการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตในแตละด้านควรใช้แนวทางในการจัดการความรู้ให้เป็นระบบการเข้าถึงความรู้ควรมีการติดต่อผ่านผู้นําหรือบุคคลที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ หรือใช้วิธีติดต่อผ่านเครือข่ายกลุ่มผู้ร่วมอาชีพ และในการถ่ายทอดและแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ควรมีการสร้างกลุ่มเรียนรู้เฉพาะขึ้นมา เพื่อให้มีการถ่ายทอดและแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ที่ตรงกับความต้องการของสมาชิกในกลุ่ม 2. การจัดการความรู้โดยใช้เครือข่ายแหล่งการเรียนรู้ชุมชน ตําบลโคกโคเฒ่า พบว่า องค์ประกอบของการจัดการความรู้ชุมชน 3 ประการ คือ คน เทคโนโลยี และกระบวนการ สําหรับชุมชนโคกโคเฒ่าส่วนใหญ่ประชาชนมีการศึกษาระดับพื้นฐาน มีผู้บริหารท้องถิ่นและกลุ่มผู้นําชุมชนมีประสบการณ์ มีศักยภาพในการบริหารจัดการภายในกลุ่มของชุมชน มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีการสืบทอดความรู้จากครูภูมิปัญญาท้องถิ่น/ปราชญ์ชาวบ้าน ชุมชนมทรัพยากรบุคคลจากโรงเรียน/มหาวิทยาลัย และองค์กรท้องถิ่นที่มีความรู้ความสามารถเป็นผู้อํานวยให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ชุมชน วัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนในชุมชนส่วนใหญ่มีการเรียนรู้เพื่อการประกอบอาชีพ ไม่มีการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกจัดเก็บและสืบค้นข้อมูลองค์ความรู้ที่ชุมชนต้องการเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และในกระบวนการจัดการความรู้ของชุมชน มีการแบ่งปัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถ่ายทอดความรู้ให้แก่สมาชิกในกลุ่มโดยผู้นําชุมชน ไม่มีการจัดตั้งเครือข่ายแหล่งการเรียนรู้ กระบวนการจัดการความรู้ชุมชนยังไมเป็นระบบ การดำเนินงานให้เกิดผลอย่างจริงจังเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เนื่องจากไม่มีหน่วยงาน/กลุ่มทีมงานที่จะจัดการความรู้ของชุมชน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ของชุมชนมีน้อย 3. การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมตามแนวเศรษฐกิจชุมชนของกลุ่มอาชีพ ในตำบลโคกโคเฒ่า พบว่ามี 3 กลุ่มดังนี้ 1) กลุ่มจักสานกระเป๋า โดยกลุ่มสูตรแม่บ้าน บ้านสามหน่อ หมู่ที่รวมกลุ่มกันเพื่อสร้างอาชีพเสริมด้านการจักสานจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้รับการถ่ายทอดจากครูภูมิปัญญาท้องถิ่น 2) กลุ่มขนมไทย โดยกลุ่มสูตรแม่บ้านตำบลโคกโคเฒ่า และผู้นําหมู่บ้านเป็นแกนนำในการจัดตั้งกลุ่มทํางานในรูปกระบวนการกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความเชี่ยวชาญในการทำขนมไทย มีการรวมกลุ่มกันทำขนมไทยเป็นอาชีพเสริมในช่วงเวลาว่างงาน และกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านสามหน่อ ได้รวมกลุ่มกันทำขนมกระยาสารท เพื่อจำหน่ายในเทศการทำบุญ 3) กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ โดยมีคณะกรรมการเข้าร่วม 15 คน มีความเชี่ยวชาญในการทำปุ๋ยอินทรีย์ จดทะเบียนเป็นกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขึ้นในปี 2551 ได้ผลิตสำหรับใช้ในชุมชนและชุมชนใกล้เคียงเพื่อลดต้นทุนการผลิต และมีการพัฒนาเป็นการผลิตปุ๋ยเม็ด มีตราผลิตภัณฑ์ “เพชร พานทอง” บรรจุถุงจัดจำหน่ายทั้งภายในและภายนอกชุมชน 4. กลยุทธ์การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชนโคกโคเฒ่ามี 3 กลยุทธ์ ดังนี้ 1) กลยุทธ์ในการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของประชาชนในตําบลโคกโคเฒ่า ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ คือ การพัฒนาทักษะการดำรงชีวิตประจำวัน การพัฒนาทักษะเฉพาะบุคคลและทักษะทางสังคม และการพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพ 2) กลยุทธ์การจัดการความรู้โดยใช้เครือข่ายแหล่งการเรียนรู้ชุมชนโคกโคเฒ่า ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ คือ การพัฒนาทีมงานเครือข่ายการจัดการความรู้ชุมชน การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ในชุมชนให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาระบบการจัดการความรู้ และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 3) กลยุทธ์การจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมตามแนวเศรษฐกิจชุมชนของกลุ่มอาชีพในตำบลโคกโคเฒ่า ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ คือ การพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้ของกลุ่มอาชีพ การสร้างและการพัฒนาองค์ความรู้ การพัฒนาระบบการจัดเก็บและการสืบค้นความรู้ และการสร้างและพัฒนาภาคเครือข่ายการจัดการความรู้
dc.identifier.urihttps://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1179
dc.identifier.urihttps://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12481
dc.subjectชุมชนโคกโคเฒ่า -- การจัดการความรู้
dc.titleกลยุทธ์การจัดการความรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน กรณีศึกษาตำบลโคกโคเฒ่า อําเภอเมือง จังหวดสุพรรณบุรี
Files
Collections