การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s ส่งเสริมความสามารถทางการคิด วิเคราะห์ของนักเรียนระดับประถมศึกษา
| dc.contributor.author | นิฤมล สุวรรณศรี | |
| dc.contributor.author | สืบศักดิ์ น้อยดัด | |
| dc.contributor.author | ชนินทร์ ฐิติเพชรกุล | |
| dc.date.accessioned | 2025-08-15T04:06:18Z | |
| dc.date.accessioned | 2025-09-03T03:46:41Z | |
| dc.date.available | 2025-08-15T04:06:18Z | |
| dc.date.available | 2025-09-03T03:46:41Z | |
| dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s ส่งเสริมความสามารถทางการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนระดับประถมศึกษา 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s ที่มีต่อความสามารถทางการคิดวิเคราะห์ มีวิธีดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s โดยศึกษาและวิเคราะห์เนื้อหาเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ด้านความสามารถทางการคิดวิเคราะห์ สร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s จากนั้นประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s ด้วยแบบประเมินค่าความเหมาะสม 5 ระดับ เป็นเครื่องมือการวิจัยกับผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M โดยทำการทดลองกับประชากรและกลุ่มตัวอย่าง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ประชากรใช้ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา แสดงความคิดเห็นในแบบประเมินค่าความเหมาะสมของรูปแบบ และประชากรที่ใช้ทดลองรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s ได้แก่ นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 เป็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 60 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทดลอง จำนวน 30 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้วิธีการจับฉลากจากจำนวนประชากรทั้งสิ้น 90 คน ทดสอบโดยใช้สถิติ t - test for dependent samples และ t - test for independent samples วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยมี ดังนี้ 1. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s พบว่า สามารถนำไปส่งเสริมความสามารถทางการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาได้ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญโดยค่าดัชนีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากและมากที่สุด ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.20-4.80 2. การศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษากลุ่มทดลองมีความสามารถทางการคิดวิเคราะห์ หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และกลุ่มทดลองมีความสามารถทางการคิดวิเคราะห์สูงกว่ากลุ่มควบคุมหลังการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 | |
| dc.identifier.uri | https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1332 | |
| dc.identifier.uri | https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/11964 | |
| dc.subject | เด็กปฐมวัย | |
| dc.subject | เด็กปฐมวัย -- การเรียนรู้ | |
| dc.subject | เด็กปฐมวัย -- การคิด | |
| dc.subject | เด็กปฐมวัย -- การจัดการเรียนการสอน | |
| dc.subject | การสอนแบบ 4 แมท -- วิจัย | |
| dc.subject | การคิดวิเคราะห์ | |
| dc.title | การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4M’s ส่งเสริมความสามารถทางการคิด วิเคราะห์ของนักเรียนระดับประถมศึกษา |