การพัฒนานวัตกรรมชุดกระดานวาดภาพนูนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็น

dc.contributor.authorกรรวิภาร์ หงษ์งาม
dc.contributor.authorดนยา อินจำปา
dc.contributor.authorครรชิต สมจิตต์
dc.contributor.authorคณะ
dc.date.accessioned2025-08-15T04:06:18Z
dc.date.accessioned2025-09-03T03:46:47Z
dc.date.available2025-08-15T04:06:18Z
dc.date.available2025-09-03T03:46:47Z
dc.description.abstractการศึกษาเรื่องการพัฒนานวัตกรรมชุดกระดานวาดภาพนูนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็น มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมชุดกระดานวาดภาพนูนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็นเพื่อศึกษาประสิทธิภาพการใช้งานชุดกระดานวาดภาพนูนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็น และ เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็นที่ใช้ชุดกระดานวาดภาพนูนใช้วิธีการศึกษาแบบกึ่งการทดลอง (Quasi-Experiment Design)แบบ หนึ่งกลุ่มสอบหลังการทดลอง (One group Post-test Design) กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็น ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ จำนวน 10 คน และครูผู้สอน จำนวน 1 คน เลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) รวมทั้งหมด 11 คน นวัตกรรมชุดกระดานวาดภาพนูนประกอบด้วย 4 ชิ้น คือ 1) แผ่นยาง 2) แผ่นกระดานรองแผ่นยาง 3) แผ่นพลาสติกใส และ 4) ปากกาวาดภาพ ผู้วิจัยผลิตแผ่นยางที่ทำจากยางพารา พบว่าแผ่นยางพารามีกลิ่นเหม็นและเกิดเชื้อรา จากนั้นผู้วิจัยจึงปรับปรุงการผลิตจากแผ่นยางพารามาเป็นแผ่นยางโพลิเมอร์และได้นำไปทดลองใช้กับกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างทดลอง พบว่า แผ่นยางทั้งสองแบบมีค่าใกล้เคียงกัน แผ่นยางที่ทำจากยางพาราและโพลิเมอร์มีค่าประสิทธิภาพจากห้องทดลองใกล้เคียงกันด้วยส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ เช่น แผ่นกระดานรองแผ่นยาง แผ่นพลาสติกใส ปากกาที่ไม่มีหมึกขนาดหัว .05 ซึ่งหาได้ทั่วไป จากนั้นได้นำมาทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง โดยกำหนดแผนการสอนเกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ 11 เรื่อง สอนเรื่องละ 2 ครั้ง ครั้งละ 60 นาที และ สอบหลังจากเรียนครบแผนการสอนแล้ว การหาประสิทธิภาพใช้สูตร E1/E2 กำหนดค่าประสิทธิภาพที่ 70/70 ความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 25% ผลการวิจัยพบว่าประสิทธิภาพของชุดกระดานวาดภาพนูนที่ผลิตจากแผ่นยางทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (70/70) และผลการประเมินความพึงพอใจต่อการใช้ชุดกระดานวาดภาพนูนอยู่ในระดับมากทั้งสองแบบโดยแผ่นยางพารา มีค่าเฉลี่ย 3.73 และแผ่นยางโพลิเมอร์ มีค่าเฉลี่ย 3.99 โดยแผ่นยางโพลิเมอร์มีสีสันสดใส มองเห็นได้ง่ายสำหรับนักเรียนที่มองเห็นเลือนราง และสามารถเขียนเส้นนูนได้อย่างต่อเนื่องราบรื่นไม่สะดุด ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะให้ทำการวิจัยเพื่อปรับปรุงแผ่นยางพาราในลำดับต่อไป และให้กำหนดเป็นนโยบายผลิตชุดกระดานวาดภาพนูนเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็นให้มีคุณภาพต่อไป
dc.identifier.urihttps://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1313
dc.identifier.urihttps://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12239
dc.subjectความบกพร่องทางการเห็น -- สื่อการเรียนการสอน
dc.titleการพัฒนานวัตกรรมชุดกระดานวาดภาพนูนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็น
Files
Collections