การเตรียมผงเคราตินมูลค่าสูงจากขนหมูเหลือทิ้ง

dc.contributor.authorวีรชน ภูหินกอง
dc.contributor.authorฐิตินาถ สุคนเขตร์
dc.contributor.authorอุดมศักดิ์ กิจทวี
dc.date.accessioned2025-08-15T04:06:19Z
dc.date.accessioned2025-09-03T03:46:39Z
dc.date.available2025-08-15T04:06:19Z
dc.date.available2025-09-03T03:46:39Z
dc.description.abstractงานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเตรียมเคราตินจากขนหมูด้วยเทคนิคทางเคมี และ ศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบในการเตรียมผงเคราตินจากขนหมู มีขั้นตอนเริ่มจากเก็บตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์จากชุมชนพร้อมสำรวจขั้นตอนการเอาขนหมูออกและวิธีการกำจัดขนหมูตามปกติ นาขน หมูมาแยกลักษณะที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน ทำความสะอาดขนหมู เปรียบเทียบการย่อยเคราติน 3 กระบวนการ คือ 1. ด้วยกรดซัลฟิวริค กรดไฮโดรคลอริค และกรดอะซีติค ที่ความเข้มข้น 2 โมลาร์ และความเข้มข้น 4 โมลาร์ 200 มิลลิลิตร เป็นเวลา 24 ชั่วโมง 2. การย่อยเคราตินขนหมูด้วยเบสโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่ความเข้มข้น 0.1, 0.5, และ 1.0 โมลาร์ 200 มิลลิลิตร เป็นเวลา 24 ชั่วโมง 3. การย่อยเคราตินขนหมูด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ที่อุณหภูมิ 90, 100, 110, 120, 130, 140, 150 องศาเซลเซียส และตรวจสอบผลของการเคลือบด้วยเคราตินสังเคราะห์ได้ด้วยเทคนิค scanning electron microscope (SEM), และเทคนิค Raman spectrophotometer และตรวจลักษณะทางกายภาพ ลักษณะรูปร่างและขนาดของอนุภาคด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดชนิดฟิลด์อีมิชชัน Field Emission Scanning Electron Microscope (FE-SEM) ผลการทดลองพบว่าสามารถใช้ เทคนิคที่สามารถขยายการผลิตได้ง่ายด้วยการสลายพันธะไดออกไซด์ โดยกระบวนการ alkaline hydrolysis ซึ่งผลที่ได้สภาวะที่เหมาะสมคือที่ความเข้มข้นของสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ 0.5 โมลาร์ และกระบวนการที่พัฒนาใหม่คือการสลายพันธะไดออกไซด์ด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่ง ทำการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการย่อยด้วยเทคนิคนี้คืออุณหภูมิและแรงดันบรรยากาศพบว่าที่อุณหภูมิ และแรงดันบรรยากาศที่เหมาะสมจะทำให้สามารถควบคุมให้เกิดการสลายเฉพาะพันธะไดซัลไฟด์ได้ โดยที่ไม่เกิดปฏิกิริยาข้างเคียงที่ไม่ต้องการหรือการทำลายพันธะเปปไทด์ โดยสภาวะที่เหมาะสมที่ สามารถทำการย่อยเคราตินได้คือที่สภาวะตั้งแต่ อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ที่ความดันบรรยากาศ 1,125 PSI จนถึง 120 องศาเซลเซียส ที่ความดันบรรยากาศ 1,600 PSI ซึ่งเทคนิคการใช้แก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่นี้เป็นเทคนิคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากเป็นการใช้แก๊ส ของเสียจากอุตสาหกรรมให้เกิดประโยชน์และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นผลิตภัณฑ์ที่เหลือจากปฏิกิริยาไม่มีผลิตภัณฑ์พลอยได้สารตกค้างดังเช่นปฏิกิริยา alkaline hydrolysis โดยแก๊สที่เหลือจากปฏิกิริยาจะระเหยออกจากสารละลายเคราตินได้เองเมื่อระบบเข้าสู่แรงดันบรรยากาศห้อง
dc.identifier.urihttps://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1411
dc.identifier.urihttps://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/11853
dc.subjectผงเคราติน
dc.titleการเตรียมผงเคราตินมูลค่าสูงจากขนหมูเหลือทิ้ง
Files
Collections