การพัฒนาความสามารถทางการขับร้องและการประพันธ์เพลงสำหรับเด็กปฐมวัยของนักศึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 2 โดยการประยุกต์ใช้แนวคิดทางดนตรีของโคดาย

Default Image
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Views
Views15
Usage analytics
Journal Title
การพัฒนาความสามารถทางการขับร้องและการประพันธ์เพลงสำหรับเด็กปฐมวัยของนักศึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 2 โดยการประยุกต์ใช้แนวคิดทางดนตรีของโคดาย
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางการขับร้องและการประพันธ์เพลงสำหรับเด็กปฐมวัยของนักศึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 2 โดยการประยุกต์ใช้แนวคิดทางดนตรีของโคดาย ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาชาย-หญิง อายุระหว่าง 19-22 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ศึกษาศาสตรบัณทิต หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ตอนเรียน A1 จำนวน 31 คน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดยใช้เครื่องมือในการทดลอง คือ 1) แผนการจัดกิจกรรมพัฒนาความสามารถทางการขับร้องและการประพันธ์เพลงสำหรับเด็กปฐมวัยของนักศึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 2 โดยการประยุกต์ใช้แนวคิดทางดนตรีของโคดาย 2) แบบทดสอบความสามารถทางขับร้องของนักศึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 2 โดยการประยุกต์ใช้แนวคิดทางดนตรีของโคดาย 3) แบบทดสอบความสามารถทางการประพันธ์เพลงสำหรับเด็กปฐมวัยของนักศึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 2 โดยการประยุกต์ใช้แนวคิดทางดนตรีของโคดาย โดยการทดสอบปฏิบัติการขับร้องและการประพันธ์เพลง วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 2 หลังจากการทดลองมีความสามารถทางการขับร้อง 1) ด้านคุณภาพของเสียง 2) ด้านการใช้ระดับเสียงตามทำนองและจังหวะ และ 3) ด้านการถ่ายทอดอารมณ์ตามบทเพลง เพิ่มสูงขึ้นกว่าก่อนการทดลอง โดยคะแนนเฉลี่ยรวมทั้ง 3 ด้าน ก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ย 1.99 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.70 อยู่ในระดับปานกลาง และหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ย 2.96 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.78 อยู่ในระดับดีมาก และมีความสามารถทางการประพันธ์เพลงสำหรับเด็กปฐมวัย 1) ด้านการใช้ภาษาและอักขระ 2) ด้านการใช้ระดับเสียงตามทำนองและจังหวะ และ 3) ด้านการถ่ายทอดเนื้อหาสาระ ความรู้ตามหน่วยจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เพิ่มสูงขึ้นกว่าก่อนการทดลอง โดยคะแนนเฉลี่ยรวมทั้ง 3 ด้าน ก่อนการทดลองมีค่าเฉลี่ย 1.96 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.52 อยู่ในระดับปานกลางและหลังการทดลอง มีค่าเฉลี่ย 2.85 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.61 อยู่ในระดับดีมาก
Description
Citation
View online resources
Collections