การวิจัยตลาดเชิงลึกและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่ม Active Beach (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด) เพื่อเจาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ

Default Image
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Views
Views8
Usage analytics
Journal Title
การวิจัยตลาดเชิงลึกและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่ม Active Beach (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด) เพื่อเจาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ
Recommended by
Abstract
มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อวิจัยการตลาดเชิงลึกและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่ม Active beach และ (2) เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดสำหรับเจาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่ม Active beach โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสม โดยการวิจัยเชิงปริมาณมีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ กลุ่มละ 1,600 คน และนักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 400 คน ในส่วนของการเชิงวิจัยคุณภาพ มีการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จำนวน 20 คน ซึ่งสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ 1. เพื่อวิจัยการตลาดเชิงลึกและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่ม Active beach (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด) พบว่า (1) นักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 25 -34 ปี มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี เป็นพนักงานบริษัท/รัฐวิสาหกิจ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,001-20,000 บาท เคยใช้บริการโปรแกรม/กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 1 ครั้ง เดินทางด้วยตนเอง มีวัตถุประสงค์เพื่อพักผ่อน/ผ่อนคลาย ทราบข่าวสารจากสื่อออนไลน์ (Facebook) และสื่อออฟไลน์ (โทรทัศน์) กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสนใจ คือ การทานอาหารเพื่อสุขภาพ ในส่วนของปัจจัยทางด้านการตลาดที่ส่งผลต่อการใช้บริการโปรแกรม/กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พบว่า นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญในด้านด้านลักษณะทางกายภาพมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านบุคลากร และด้านกระบวนการให้บริการ ตามลำดับ ทั้งนี้ในส่วนของ (2) นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 25-34 ปี การศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี มีอาชีพพนักงานบริษัท/รัฐวิสาหกิจมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-35,000 บาท นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชาวต่างชาติส่วนใหญ่เคยใช้บริการโปรแกรม/กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่เดินทางกับเพื่อน เพื่อพักผ่อน/ผ่อนคลาย รับทราบข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผ่านสื่อออนไลน์ (Facebook) กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสนใจ คือ การนวดแผนไทยในส่วนของปัจจัยทางด้านการตลาดที่ส่งผลต่อการใช้บริการโปรแกรม/กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พบว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสำคัญในด้านราคามากที่สุด รองลงมา คือ ด้านบุคลากรและด้านผลิตภัณฑ์ ตามลำดับ และ (3) นักท่องเที่ยวชาวจีน ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุ 25-34 ปี การศึกษาอยู่ในระดับต่ำกว่าปริญญาตรี เท่ากับปริญญาตรีมีอาชีพ มีอาชีพอื่น ๆ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 8,001-10,000 หยวน นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชาวจีนส่วนใหญ่เดินทางประเทศไทยเป็นครั้งแรก และใช้บริการด้านสุขภาพ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่เดินทางกับครอบครัว เพื่อพักผ่อน/ผ่อนคลาย ได้รับข้อมูลการบริการด้านสุขภาพและความงามของไทยจากสื่อโฆษณา การบริการด้านสุขภาพที่นักท่องเที่ยสนใจใช้บริการ คือ การนวดแผนไทย การนวดเท้า และการอบ/ประคบสมุนไพร ไทย ในส่วนของปัจจัยทางด้านการตลาดที่ส่งผลต่อการใช้บริการโปรแกรม/กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนให้ความสำคัญกับด้านลักษณะทางกายภาพ รองลงมา คือ ด้านบุคลากร และด้านกระบวนการให้บริการ ตามลำดับ 2. เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดสำหรับเจาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่ม Active beach (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด) 2.1 กลยุทธ์เจาะตลาดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง กลยุทธ์เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุด อีกทั้งในปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางมาเที่ยวสวนผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก ในช่วงระหว่างการเดินทางมีความชื่นชอบกิจกรรมนวดแผนไทยและให้ความสนใจผลิตภัณฑ์สินค้าของฝากที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เชิงสุขภาพและสมุนไพรไทย มีกลยุทธ์ย่อย ดังนี้ ลยุทธ์ที่ 1 วิเคราะห์ธุรกิจและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าชาวจีนทั้งในระดับภาพรวมและเมืองย่อย เพื่อนำผลการวิเคราะห์ที่ได้จะนำมาเป็นแนวทางในการวางแผนการตลาดให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลยุทธ์ที่ 2 การทำการตลาดโดยการใช้เครือข่ายร่วมกับบริษัทนำเที่ยว เมื่อเราได้ทำการกำหนดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเป้าหมาย ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาทิ รูปแบบโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รูปแบบกิจกรรมเชิงส่งเสริมสุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์สินค้าที่ระลึก กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เชิงสุขภาพเพื่อเป็นสินค้าที่ระลึก นักท่องเที่ยวชาวจีนมีความนิยมซื้อสินค้าเพื่อเป็นของฝาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีส่วนผสมของพืช สมุนไพรไทย กลยุทธ์ที่ 4 การทำการตลาดต่างประเทศโดยการใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงการทำการตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วยการใช้ดารา นักแสดงที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน หรือดาราไทยที่เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนจีน ผ่านสื่อต่าง ๆ กลยุทธ์ที่ 5 จัดอบรมให้ความรู้ด้านภาษาจีนแก่บุคลากรภาคการท่องเที่ยว อาทิ การกล่าวทักทายการอธิบายผลิตภัณฑ์ หรือโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ กลยุทธ์เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญที่เดินทางมายังประเทศไทย นักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปจะใช้เวลาในการท่องเที่ยวเป็นระยะเวลานนาน และไม่เลือกฤดูกาล นิยมเดินทางมาเที่ยวในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมีกลยุทธ์ย่อย ดังนี้ กลยุทธ์ที่ 1 วิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลยุทธ์ที่ 2 การผนวกโปรแกรม/กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้ากับที่พักหรือแพคเก็จทัวร์ นักท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เช่น โปรแกรมที่พักและกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 3 วัน 2 คืน ผนวกกับกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ โปรแกรมการดูแลสุขภาพด้วยสปาหินภูเขาไฟ จะช่วยให้ผ่อนคลาย คอร์สตรวจสุขภาพ เป็นต้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลยุทธ์ที่ 3 การส่งเสริมการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่ม Active beach (ชลบุรี ระยอง จันทบุรีตราด) ในต่างประเทศ เช่น งานมหกรรมท่องเที่ยวนานาชาติ ITB ที่จัดขึ้นทุกปี เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก กลยุทธ์เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา-เวียดนาม ตามเส้นทางสาย R10 เป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มรักษาสุขภาพ ที่เดินทางเข้ามาเป็นลักษณะทัวร์สุขภาพ มีกลยุทธ์ย่อย ดังนี้ กลยุทธ์ที่ 1 วิเคราะห์ธุรกิจและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า โดยการวิเคราะห์พฤติกรรมหรือกิจกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มกัมพูชา-เวียดนาม ซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มที่เดินทางมาเพื่อเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลในพื้นที่กลุ่ม Active beach และกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เมื่อทราบความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวแล้วจึงนำไปสู่การพัฒนารูปแบบ และกิจกรรมทางการท่องเที่ยวต่อไป กลยุทธ์ที่ 2 การสร้างเครือข่ายความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนบนเส้นทาง R10 โดยการจัดประชุมระหว่างผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระหว่างประเทศกัมพูชา-เวียดนาม เพื่อการพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพร่วมกัน โดยเน้นให้ทุกภาคส่วนได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน กลยุทธ์ที่ 3 การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพระดับพรีเมียม ด้วยการพัฒนารูปแบบโปรแกรม ที่มีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างครบวงจร และหลากหลาย กลยุทธ์ที่ 4 การส่งเสริมการตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์ทั้งตลาดในระดับประเทศและภูมิภาค เน้นกิจกรรมส่งเสริมการตลาด การออกบูธงานนานาชาติ เพื่อการเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง 2.2 กลยุทธ์การเจาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มผู้สูงอายุ (Senior tourist) เนื่องจากเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ สามารถท่องเที่ยวได้เป็นระยะเวลานาน โดยมีรูปแบบท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว (Long Stay Travel) เป็นกลุ่มของนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจกับการรักษาสุขภาพ เช่น การตรวจสุขภาพ การนวด ทำสปาเพื่อผ่อนคลาย โดยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ ได้แก่ 1) ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ 2) ธุรกิจเกี่ยวกับความงาม 3) ธุรกิจบริการสุขภาพ 4) ธุรกิจนำเที่ยวผู้สูงวัย 2.3 กลยุทธ์การใช้โซเชียลมีเดียส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในกลุ่ม Active beach แบบเจาะตลาดกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพ เนื่องจากปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวมีการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social media) เพื่อค้นหาข้อมูลรวมถึงมีการวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ควรมีกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ดังนี้กลยุทธ์ที่ 1 วิเคราะห์ธุรกิจและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อรองรับการนำใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าที่ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในการท่องเที่ยว กลยุทธ์ที่ 2 จัดอบรมให้ความรู้ และพัฒนาทักษะการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ให้กับพนักงานและธุรกิจ โดยเป็นการให้ความรู้และพัฒนาทักษะของพนักงานในการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์กับการดำเนินงานของธุรกิจท่องเที่ยว กลยุทธ์ที่ 3 สร้างการตลาดออนไลน์เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยการบูรณาการประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ด้านการตลาดจังหวัดผ่านสื่อระดับ Global กลยุทธ์ที่ 4 วิเคราะห์ธุรกิจและเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพเพื่อการเติบโตทางการตลาด โดยการส่งเสริมการลงทุนเพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร กลยุทธ์ที่ 5 กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดการท่องเที่ยว โดยการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ กลยุทธ์ที่ 6 ส่งเสริมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือในการสร้างการมีส่วนร่วม เช่น การประกวดภาพถ่าย การประกวดทำคลิปวีดีโอ เป็นต้น กลยุทธ์ที่ 7 สร้างกระแสความนิยมที่เกี่ยวข้องกับความผิดรับชอบต่อสังคม (Cooperate Social Responsibility: CSR) ทางด้านท่องเที่ยวโดยใช้การมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น การสร้างเครือข่าย CSR Facebook ซึ่งเป็นการวมตัวกันของนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
Description
Citation
View online resources
Collections