การจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏ
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
Views
Views2
Usage analytics
Journal Title
การจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏ
Recommended by
Abstract
งานวิจัยเรื่องการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อศึกษาสภาพการจัดทำบัญชีครัวเรือนในกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏ เพื่อศึกษาปัจจัยมูลเหตุผลจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏและทัศนคติที่มีต่อการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยมูลเหตุผลจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏและเปรียบเทียบทัศนคติที่มีต่อการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจำแนกตามภูมิภาค และเพื่อกำหนดแนวทางในการส่งเสริมการจัดทำบัญชีครัวเรือนในกลุ่มนักศึกษา ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักศึกษาปัจจุบันของมหาวิทยาลัยราชภัฏ จำนวนทั้งสิ้น 354,158 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาปัจจุบันของมหาวิทยาลัยราชภัฏ เนื่องจากทราบจำนวนประชากรจึงใช้การคำนวณหาขนาดตัวอย่างจากสูตรกรณีทราบจำนวนประชากร กำหนดให้ความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 5% ด้วยความเชื่อมั่น 95% คำนวณหาขนาดของกลุ่มตัวอย่าง จากการคำนวณได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน การสุ่มกลุ่มตัวอย่าง มีขั้นตอนการเลือกสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งหลายขั้นตอน (Multi-Stage Random Sampling) ดังต่อไปนี้ ขั้นที่ 1 การสุ่มตัวอย่าง โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักศึกษาปัจจุบันของมหาวิทยาลัยราชภัฏในแต่ละภาค ๆ ละ 100 คน เท่าๆ กัน จำนวน 4 ภาค เพื่อให้ได้ข้อมูลกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน ขั้นที่ 2 การสุ่มกลุ่มตัวอย่างอย่างง่าย โดยวิธีการจับสลากเพื่อหากลุ่มตัวอย่างโดยการใส่รายชื่อ ภูมิภาคต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย จำนวน 6 ภูมิภาค ผลของการสุ่มกลุ่มตัวอย่างอย่างง่าย โดยวิธีการจับสลาก ได้ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 4 ภูมิภาค ประกอบไปด้วย 1. ภาคเหนือ 2. ภาคกลาง 3. ภาคใต้ และ 4. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขั้นที่ 3 การสุ่มกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการจับสลากเพื่อหากลุ่มตัวอย่างที่จะเป็นตัวแทนการตอบแบบสอบถามของแต่ละภูมิภาค ผลของการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง โดยวิธีการจับสลาก มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือได้ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคกลางได้ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคใต้ได้ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ขั้นที่ 4 ดำเนินการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบอาศัยความน่าจะเป็นด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย โดยเก็บข้อมูลกับนักศึกษาที่กำลังศึกษากลุ่มตัวอย่างจากมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ถูกคัดเลือกไว้ โดยไม่เจาะจง เพศ ชั้นปีที่ศึกษา และคณะที่ศึกษาเพื่อให้ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวนทั้งสิ้น 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการบันทึกข้อมูลบัญชีครัวเรือน บันทึกในสมุดจดทั่วไป ระยะเวลาในการจัดทำบัญชีครัวเรือนเพื่อบันทึกรายรับ – รายจ่ายของตนเองน้อยกว่า 1 ปี จดบันทึกข้อมูลรายรับ/รายจ่ายบ่อยเพียงใด แล้วแต่ความสะดวก ลักษณะการบันทึกบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ คำนวณหายอดเงินคงเหลือในรอบเวลาปัจจุบัน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลรายรับรายจ่ายในรอบเวลาปัจจุบัน ทำการเปรียบเทียบข้อมูลปัจจุบันกับข้อมูลในรอบเวลาที่ผ่านมา นำผลการวิเคราะห์ไปใช้วางแผนการใช้จ่ายเงินในอนาคต ลักษณะการบันทึกบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเกี่ยวกับการบันทึกรายรับ บันทึกวันที่ที่ได้รับเงิน บันทึกตัวเลขรายรับด้วยยอดรวม บันทึกรายละเอียดการได้มา เช่น รับจากการทำงานพิเศษ รับจากผู้ปกครอง ลักษณะการบันทึกบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเกี่ยวกับการบันทึกรายจ่าย บันทึกวันที่ที่จ่ายเงิน บันทึกรายละเอียดการจ่าย เช่น ค่ารถ ค่าอาหาร บันทึกตัวเลขรายจ่ายด้วยยอดรวม ไม่ได้จัดทำบัญชีครัวเรือน นักศึกษามีการทำการคำนวณเพื่อสรุปยอดเงินคงเหลือ แล้วแต่ความสะดวก ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการทำบัญชีมีผลต่อการจัดทำบัญชีครัวเรือนมีผล การจัดทำบัญชีครัวเรือนส่งผลให้มีเงินเหลือสำหรับการเก็บออมมีผลต่อการออม ปัจจัยมูลเหตุผลจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสาเหตุในการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษา ต้องการทราบข้อมูลด้านการเงินของตนเอง สำหรับ ปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษา ไม่มีเวลาในการจัดทำบัญชีครัวเรือน และ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนเป็นผู้ปกครองชักชวนให้ทำ ปัจจัยมูลเหตุผลจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัย ราชภัฏในภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับเห็นด้วยมากทุกด้าน เรียงตามลำดับดังต่อไปนี้ ด้านการเงิน มาเป็นอันดับ 1 สำหรับ ด้านครอบครัว มาเป็นอันดับที่ 2 และ ด้านการปลูกฝังจิตสำนึกในการทำบัญชีครัวเรือน เป็นอันดับสุดท้าย ทัศนคติที่มีต่อการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ ในภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า เศรษฐกิจพอเพียงมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต มาเป็นอันดับ 1 ความรู้ที่ได้จากหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนำมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของตนเองได้ มาเป็นอันดับที่ 2 และ การจัดทำบัญชีครัวเรือน มีความยุ่งยากมาก เป็นอันดับสุดท้าย การเปรียบเทียบปัจจัยมูลเหตุผลจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจำแนกตามภูมิภาค ในภาพรวม นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏที่เป็นตัวแทน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแรงจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนมาเป็นอันดับ 1 เมื่อพิจารณาเป็น รายด้านพบว่า ปัจจัยมูลเหตุผลจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ ด้านการเงิน นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏที่เป็นตัวแทนภาคเหนือ มีแรงจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนมาเป็นอันดับ 1 สำหรับ ด้านครอบครัว นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏที่เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแรงจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนมาเป็นอันดับ 1 และด้านการปลูกฝังจิตสำนึกในการทำบัญชีครัวเรือนนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏที่เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแรงจูงใจในการจัดทำบัญชีครัวเรือนมาเป็นอันดับ 1 การเปรียบเทียบทัศนคติที่มีต่อการจัดทำบัญชีครัวเรือนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจำแนกตามภูมิภาค นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏที่เป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีทัศนคติในการจัดทำบัญชีครัวเรือนมาเป็นอันดับ 1 แนวทางในการส่งเสริมการจัดทำบัญชีครัวเรือน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการจัดอบรมและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีครัวเรือนเพื่อให้นักศึกษาเห็นความสำคัญของการออม โดยมีการจดบันทึกข้อมูลรายรับและรายจ่ายลงในสมุดบัญชีครัวเรือนทุกวัน เพื่อให้ได้ข้อมูลด้านการเงินของครอบครัวที่เป็นจริง และสามารถสรุปได้ว่าในแต่ละเดือนครอบครัวมีรายรับเท่าไร รายจ่ายเท่าไร ซึ่งจะช่วยให้สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวดีขึ้น ทำให้นักศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นไป อีกทั้งควรมีการจัดกิจกรรมเพื่อการกระตุ้นความสนใจและเสริมสร้างองค์ความรู้ในเรื่องของการจัดทำบัญชีครัวเรือนให้กับนักศึกษา