การแยกก๊าซไฮโดรเจนจากก๊าซผสมและทำให้บริสุทธิ์ด้วยแพลเลเดียมเมมเบรนรีแอกเตอร์

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
Views
Views2
Usage analytics
Journal Title
การแยกก๊าซไฮโดรเจนจากก๊าซผสมและทำให้บริสุทธิ์ด้วยแพลเลเดียมเมมเบรนรีแอกเตอร์
Recommended by
Abstract
งานวิจัยนี้ได้ศึกษาการเตรียมแพลเลเดียมเมมเบรนที่มีชั้นกั้นการแพร่โครเมียมออกไซด์ เพื่อป้องกันการแพร่ของโลหะองค์ประกอบของตัวรองรับเหล็กกล้าไร้สนิมพรุน ได้แก่ เหล็ก โครเมียม และนิกเกิลเข้าสู่ชั้นแพลเลเดียม ฟิล์มโครเมียมออกไซด์เตรียมได้จากการออกซิไดซ์เหล็กกล้าไร้สนิม พรุน ด้วยอากาศที่อุณหภูมิ 500-800 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง และการชุบเคลือบชั้น โลหะโครเมียมด้วยกระบวนการอิเล็คโทรเพลทติงแล้วทําการออกซิไดซ์เป็นโครเมียมออกไซด์ฟิล์ม ความหนาของชั้นโครเมียมขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ในการชุบเคลือบ และสามารถตรวจวัดได้จากเทคนิคการชั่งน้ำหนักและกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด พบว่าเวลาในการชุบเคลือบ 15 วินาที จะให้ฟิล์มที่หนาพอจะปกคลุมรูพรุนของตัวรองและให้ฟิล์มที่เรียบสม่ำเสมอ และภาวะที่เหมาะสมในการ ออกซิไดซ์ชั้นโครเมียมให้กลายเป็นโครเมียมออกไซด์ คือที่อุณหภูมิ 600 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 6 ชั่วโมง จากนั้นเตรียมแพลเลเดียมเมมเบรนบนชั้นกั้นที่เตรียมได้ด้วยเทคนิคอิเล็คโทรเลสเพลทติง ทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันการแพร่โดยวิเคราะห์ธาตุองค์ประกอบที่พบในชั้นแพลเลเดียม หลังจากที่ให้ความร้อนในบรรยากาศไฮโดรเจนที่อุณหภูมิ 500 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 20 ชั่วโมง ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดที่เชื่อมต่อกับเทคนิควิเคราะห์ธาตุเชิงพลังงาน พบว่า ชั้นกั้นการแพร่โครเมียมออกไซด์จากการออกซิไดซ์เหล็กกล้าไร้สนิม จะช่วยลดการแพร่ของโลหะในเหล็กกล้าไร้สนิมเข้าสู่ชั้นแพลเลเดียม ในขณะที่ชั้นกั้นการแพร่โครเมียมออกไซด์จากการชุบเคลือบ ด้วยกระแสไฟฟ้าสามารถป้องกันการแพร่ของโลหะได้ จากการทดสอบประสิทธิภาพการแพร่ผ่านของ แก๊สไฮโดรเจนผสมที่อุณหภูมิ 300-500 องศาเซลเซียสที่ความดัน1-3 บรรยากาศ พบว่าแพลเลเดียม เมมเบรนที่เตรียมขึ้นสามารถแยกกาซไฮโดรเจนออกจากก๊าซผสมได้ และเมมเบรนที่มีชั้นโครเมียม ออกไซด์จากการออกซิไดซ์ซึ่งมีความหนาน้อยมากจะมีการแพร่ของก๊าซไฮโดรเจนได้มากกว่าเมมเบรน ชั้นกั้นการแพร่โครเมียมออกไซด์จากการชุบเคลือบด้วยกระแสไฟฟ้า