การศึกษาพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Views
Views1
Usage analytics
Journal Title
การศึกษาพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Authors
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสํารวจ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต 2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยจําแนกตามสถานภาพ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษา ระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษา ภาคปกติภายในมหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2551 จํานวน 1,732 คน เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถามพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเพื่อการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูปคํานวณค่าสถิติ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบ สมมติฐานใช้การวิเคราะห์ t-test (Independent Samples) และวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One Way Analysis of Variance –ANOVA) และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ตาม วิธีของ Scheffe’
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเพศหญิง เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี นักศึกษาส่วนใหญ่สังกัดคณะวิทยาการจัดการ โดยส่วนใหญ่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตนเองทั้งคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ้คส์และแบบตั้งโต๊ะ และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ที่บ้าน
2. นักศึกษามีพื้นฐานการใช้งานคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะเข้ารับการศึกษา สถานที่ในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ใช้งานที่บ้านตนเอง กรณีที่นักศึกษาไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ส่วนตัว พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์ที่ร้านอินเทอร์เน็ตทั่วไป นักศึกษาส่วนใหญ่มีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาเฉลี่ย 3 - 5 ครั้ง/สัปดาห์
3. พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พบว่านักศึกษาส่วนใหญ่ใช้โปรแกรมสําเร็จรูปคอมพิวเตอร์เพื่อสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูล เครือข่ายอินเทอร์เน็ต และใช้สื่อมัลติมีเดียต่าง ๆ ที่บ้าน/ที่พักอาศัยของตนเอง ปริมาณการใช้โดยรวมของนักศึกษาพบว่าอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีปริมาณการใช้โปรแกรมสําเร็จรูปโดยรวมอยู่ในระดับมาก โปรแกรมที่มีการใช้มากที่สุด คือโปรแกรมประมวลผลคํานักศึกษามีการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง นักศึกษามีวัตถุประสงค์ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารประเภทต่าง ๆ โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยใช้เพื่อทํารายงาน/การบ้านมากที่สุด รองลงมาคือ ใช้ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ต
4. นักศึกษาส่วนใหญ่มีปัญหาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยรวมอยู่ในระดับมาก คือ ปลั๊กให้บริการต่อกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คส์มีจํานวนไม่เพียงพอ เครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัสคอมพิวเตอร์ จํานวนเครื่องที่ให้บริการไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คส์มีจํานวนไม่เพียงพอ ใช้สัญญาณ wireless ได้เป็นบางครั้ง และเอกสารให้คําแนะนําการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศมีจํานวนไม่เพียงพอและข้อมูลไม่ละเอียด
5. เปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทางการศึกษาของนักศึกษา พบว่า 1) นักศึกษาเพศชายและเพศหญิงมีพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารในสถานที่ต่าง ๆ แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักศึกษาที่เรียนคณะต่างกันมีพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแตกต่างกันอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักศึกษาระดับปริญญาตรีและนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามีพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในสถานที่ต่าง ๆ ไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่านักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามีปริมาณการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสูงกว่านักศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นักศึกษาระดับปริญญาตรี และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามีการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไม่แตกต่างกันในทุกด้าน และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามีวัตถุประสงค์การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมากกว่านักศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05