กระบวนการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต : กรณีศึกษาตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
dc.contributor.author | นุจิรา รัศมีไพบูลย์ | เรณุมาศ กุละศิริมา | เปรมฤทัย แย้มบรรจง | |
dc.date.accessioned | 2025-08-19T02:05:28Z | |
dc.date.accessioned | 2025-09-03T03:46:48Z | |
dc.date.available | 2025-08-19T02:05:28Z | |
dc.date.available | 2025-09-03T03:46:48Z | |
dc.description.abstract | การวิจัยเรื่องกระบวนการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต : กรณีศึกษา ตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) ศึกษาปัญหาและแนวทางการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ทักษะการดำรงชีวิตประจำวัน ทักษะเฉพาะบุคคลและทักษะทางสังคมและทักษะการประกอบอาชีพ และ 2) หาแนวทางการจัดการความรู้ของครอบครัวในการพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้วิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมประชากรเป็นประชาชนที่มีครัวเรือนอยู่ในตำบลโคกโคเฒ่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญมุ่งเน้นไปที่ครอบครัว ได้แก่ ผู้นำชุมชน และตัวแทนของครัวเรือนในหมู่บ้านต่าง ๆ ทั้งหมด ใช้วิธีสุ่มแบบไม่ใช้ความน่าจะเป็นโดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง จำนวน 12 คน ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาองค์ความรู้ด้านทักษะชีวิตที่ครอบครัวในชุมชนโคกโคเฒ่ายังมีจุดอ่อนและมีความต้องการให้มีการจัดการความรู้และได้รับการพัฒนามากที่สุดสำหรับทักษะในแต่ละด้าน มีดังนี้ 1) ทักษะการดำรงชีวิตประจำวัน คือ ความสามารถในการบริหารจัดการระบบการเงิน ทักษะเฉพาะบุคคลและทักษะทางสังคม คือ การสร้างความมั่นใจในตนเอง และทักษะการประกอบอาชีพ คือ ความสามารถในการประกอบอาชีพ ส่วนปัญหาหลักในการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ การจัดความรู้ให้เป็นระบบการเข้าถึงความรู้ และการถ่ายทอดและแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ ส่วนแนวทางการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตในตำบลโคกโคเฒ่า พบว่า ควรเน้นให้มีการจัดความรู้ให้เป็นระบบวิธีการเข้าถึงความรู้ และกระบวนการถ่ายทอดและแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ภายในครอบครัว ส่วนแนวทางการเสริมสร้างการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อการพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมีเครื่องมือการจัดการความรู้ คือ การพาไปศึกษาดูงานชุมชนต้นแบบ แม่น้ำท่าจีน-ดอนหวาย พบว่า มีผลสะท้อนกลับทางบวกต่อกระบวนการคิดและวิเคราะห์ รวมทั้งความคิดเห็นของกลุ่มผู้เรียนรู้ที่มีต่อการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตด้านต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โดยกลุ่มผู้เรียนรู้ได้มองเห็นความสำคัญและความจำเป็นของทักษะชีวิตในแต่ละด้านพร้อมทั้งมีความเข้าใจว่า ทักษะชีวิตในแต่ละด้านมีผลอย่างไรในการดำรงชีวิตประจำวันและการอยู่ร่วมกันในสังคม รวมทั้งกลุ่มผู้เรียนรู้ได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ มีการคิดวิเคราะห์ และสังเคราะห์ถึงปัญหาการพัฒนาทักษะชีวิตในแต่ละด้านที่เกิดขึ้นจากกระบวนการจัดการความรู้ที่ไม่ดีของครอบครัวซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทั้งในปัจจุบันและอนาคตในแง่ของการบริหารจัดการภายในครอบครัว การอยู่ร่วมกันในสังคมและชุมชน และการประกอบอาชีพ จากการประเมินผลการทำวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม พบว่า ผู้ร่วมกิจกรรมมีความคิดเห็นต่อกิจกรรมการอบรมในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีความพึงพอใจเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ เรียนรู้ในการเข้าร่วมกิจกรรมวิจัยและคาดว่าจะถ่ายทอดเรื่องราวที่เข้ากิจกรรมการจัดการความรู้ให้สมาชิกครอบครัวและเพื่อนบ้านได้รับรู้มากเป็นอันดับแรก ส่วนผลการประเมินการจัดกิจกรรม การศึกษาดูงาน พบว่า ผู้ร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจต่อการศึกษาดูงานโดยรวมอยู่ในระดับดี โดยมีความพึงพอใจต่อสิ่งที่ได้เรียนรู้ในการเข้าร่วมกิจกรรมศึกษาดูงานและคาดว่าจะเกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และชุมชนมากเป็นอันดับแรก | |
dc.identifier.uri | https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1147 | |
dc.identifier.uri | https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12281 | |
dc.subject | ครอบครัว -- การจัดการความรู้ -- สุพรรณบุรี | |
dc.title | กระบวนการจัดการความรู้ของครอบครัวเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต : กรณีศึกษาตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี |