การพัฒนาศักยภาพชุมชนท้องถิ่นเพื่อผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Default Image
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Views
Views6
Usage analytics
Journal Title
การพัฒนาศักยภาพชุมชนท้องถิ่นเพื่อผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพใช้ระเบียบวิธีการกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการดูแล ปัญหา ความต้องการการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นต่อผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง 2) เพื่อดำเนินการกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงโดยชุมชนท้องถิ่น และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนาศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชนท้องถิ่น พื้นที่ศึกษา 2 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ ตำบลบงเหนือ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนครและชุมชนท้องถิ่นตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด เก็บรวบรวมข้อมูลโดยเครื่องมือ เทคนิคกระบวนการวางแผนแบบมีส่วนร่วม การจัดการความรู้โดยการถอดบทเรียน ก่อนระหว่างหลังการดำเนินกิจกรรม การสะท้อนคิดของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น การสังเกตแบบมีส่วนร่วม สัมภาษณ์เชิงลึก ผลการศึกษา มีดังนี้ ประเด็นแรก กระบวนการมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงในชุมชน พบว่า การดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงในชุมชนมาจากความเชื่อด้านบวก ขนบของสังคมไทยได้รับการขัดเกลาในเรื่องความกตัญญูกตเวที ลูกต้องดูแลพ่อแม่เมื่อสูงอายุ เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณ เป็นความเอื้ออาทร โดยมีรูปแบบส่วนร่วมของชุมชนมาจากหลายภาคส่วน จำแนกได้ 3 รูปแบบ คือ รูปแบบแรกแบบธรรมชาติ ที่มาจากกลุ่มคนดูแลในครัวเรือนเดียวกัน และกลุ่มคนนอกครัวเรือน คือ กลุ่มเครือญาติ กลุ่มคุ้มข่วงครัวเรือนแนบชิด กลุ่มผู้นำทางจิตวิญญาณ ผู้นำทางธรรมชาติกลุ่มพระสงฆ์ รูปแบบที่สอง แบบทางการ ที่มาจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รูปแบบที่สามแบบกึ่งทางการกึ่งธรรมชาติ มาจากอาสาสมัคร ที่ผ่านการอบรมพัฒนาศักยภาพ มีบทบาทตามหน้าที่ ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (อผส.) อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) อาสาสมัครสร้างเสริมและดูแลผู้สูงอายุในชุมชน (Care Giver) รวมถึง ผู้นำชุมชน กรรมการหมู่บ้านกลุ่มสถาบันในชุมชนต่างๆ ปัญหาและความต้องการต่อการมีส่วนร่วมในดูแลผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิงในชุมชน พบว่ากลุ่มรูปแบบธรรมชาติ และรูปแบบกึ่งทางการและกึ่งธรรมชาติ คือ เรื่องทัศนคติ การไว้วางใจการรักษาความลับ การเคารพสิทธิ ด้านความรู้เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิง ขณะที่กลุ่มรูปแบบทางการ มีปัญหาและความต้องการ ด้านนโยบายและการแปลงแผนงานสู่การปฏิบัติขององค์กรต่อการดำเนินงาน ด้านจำนวนเจ้าหน้าที่บุคลากร ด้านความรู้และทักษะที่จำเป็น และด้านการบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นที่สอง การดำเนินกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย กลไกในการช่วยเหลือส่งเสริมในชุมชนท้องถิ่นต่อผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงในชุมชน การศึกษานี้ พบว่า บริบทของชุมชน กระบวนการ และกิจกรรมพัฒนาส่งผลต่อการดำเนินกิจกรรมพัฒนามีความสำคัญ และแตกต่างกัน การดำเนินการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายกลไกแบบธรรมชาติ จะมีกิจกรรมพัฒนาที่เหมาะสมกับบริบทของหมู่บ้านแบบชุมชนชนบท การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิงค่อนข้างลำบากเพราะอยู่ห่างไกลจุดให้บริการด้านสุขภาพจากโรงพยาบาลอำเภอ และโรงพยาบาลจังหวัด คนในชุมชนมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมในชุมชนที่เข้มแข็ง โดยให้ความช่วยเหลือ เอื้ออาทรกัน แบบเครือญาติ มีวิถีการดำรงชีวิตส่วนใหญ่อยู่ภายในหมู่บ้านชุมชน มีการใช้ทรัพยากรดิน น้ำ ป่าและมีการยึดถือและปฏิบัติกิจกรรมประเพณีและความเชื่อ ฮีต คอง แบบคนอีสานที่เข้มข้น การดำเนินการพัฒนาเครือข่ายกลไกกึ่งทางการกึ่งแบบธรรมชาติ จะมีกิจกรรมพัฒนาที่เหมาะสมกับบริบทของหมู่บ้านเป็นชุมชนกึ่งชนบทกึ่งเมือง การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิงในชุมชนค่อนข้างง่าย เพราะอยู่ใกล้ ขณะที่คนในชุมชนมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมในชุมชนแบบหลวม ๆ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่มีวิถีการดำรงชีวิตของการประกอบอาชีพส่วนใหญ่รับจ้าง และต้องเดินทางออกนอกชุมชนแบบเช้าไปเย็นกลับ จึงมุ่งเน้นกิจกรรมพัฒนาของอาสาสมัครของชุมชน ขณะที่การใช้กิจกรรมที่เป็นทุนทางสังคมของชุมชนที่มีวิถีการปฏิบัติร่วมกัน ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านจิตใจ อารมณ์ ด้านสุขภาพ ด้านวัฒนธรรมและประเพณี และด้านกายภาพ สภาพแวดล้อมที่เข้มข้น จะทำให้เกิดบทเรียนและประสบการณ์ของเครือข่ายการทำงานร่วมกันได้ รวมถึง การเกิดผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านทัศนคติหรือเจตคติ ด้านความรู้ และด้านทักษะของผู้ปฏิบัติการ ประเด็นที่สาม แนวทางที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงของกลไกชุมชนท้องถิ่น การศึกษานี้ พบว่า กิจกรรมพัฒนาศักยภาพที่คนในชุมชนและหน่วยงานภายนอกทำร่วมกัน โดยการบูรณาการการมีส่วนร่วมตามศักยภาพของแต่ละกลไกจะส่งผลต่อความสำเร็จในการมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิงมากสุด โดยใช้แนวทางกิจกรรมพัฒนาที่หลากหลาย ได้แก่ แนวทางกิจกรรมพัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจ แนวทางกิจกรรมพัฒนาด้านสังคม แนวทางกิจกรรมพัฒนาด้านจิตใจ/อารมณ์ แนวทางกิจกรรมพัฒนาด้านสุขภาพ แนวทางพัฒนาด้านวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อ และแนวทางกิจกรรมพัฒนาด้านกายภาพ/สภาพแวดล้อม และแนวทางกิจกรรมพัฒนาด้านการจัดสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิงในชุมชน
Description
Citation
View online resources
Collections