การตั้งตำรับสูตรเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวจากสารสกัดมะหาด

dc.contributor.authorกัลยาภรณ์ จันตรี
dc.date.accessioned2025-08-19T02:05:28Z
dc.date.accessioned2025-09-03T03:46:46Z
dc.date.available2025-08-19T02:05:28Z
dc.date.available2025-09-03T03:46:46Z
dc.description.abstractการวิจัยนี้ได้ศึกษาการสกัดฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและปริมาณของสารประกอบฟีนอลรวมของสารสกัดสารสกัดจากแก่นมะหาด ทำการวิเคราะห์ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี 1,1-Diphenyl-2 picrylhydrazyl (DPPH) antioxidant assay และวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลรวมด้วยวิธี Folin Ciocalteu เทียบกับกรดแกลลิก จากการสกัดแก่นมะหาดด้วยตัวทำละลาย 2 ชนิด ได้แก่ โพรพิลีน ไกลคอล และเอทานอล ได้ร้อยละของผลผลิต เท่ากับ 12.50 และ 11.15 ตามลำดับ จากวิธี DPPH antioxidant assay พบว่า ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดแก่นมะหาด พบว่า สารสกัดจากแก่นมะหาดชั้นโพรพิลีน ไกลคอล มีประสิทธิภาพในการกำจัดอนุมูลอิสระ DPPH สูงกว่าสารสกัดหยาบแก่นมะหาดชั้นเอทานอล โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.87 ± 0.05 และ 2.04 ± 0.43 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับการวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลรวมเทียบกับสารมาตรฐานกรดแกลลิก ผลการวิจัยพบว่า สารสกัดแก่นมะหาดชั้นโพรพิลีน ไกลคอลและสารสกัดหยาบอก่นมะหาดชั้นเอทานอลมีปริมาณสารประกอบฟีนอลเทียบเท่ากับกรดแกลลิคเท่ากับ 836.044 ± 0.21 และ 590.083 ± 0.5010.84 มิลลิกรัม แกลลิก/กรัม ตัวอย่าง ตามลำดับ จากการพัฒนาตำรับสูตรเครื่องสำอางทั้ง 3 สูตร ชนิด ได้แก่ สครับขัดผิว ครีมอาบน้ำ และโลชัน พบว่า ได้สูตรตำรับที่มีความคงตัวทางกายภาพดี เนื้อครีมไม่เปลี่ยนแปลง กระจายตัวได้ง่ายบนผิว การทดสอบที่สภาวะต่างๆ พบว่า ค่าความหนืดมีการเปลี่ยนแปลงโดยส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากอิมัลชันเป็นระบบที่ไม่คงตัวทางเทอร์โมไดนามิกส์ (Thermodynamically unstable system) ซึ่งพบว่าความหนืดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาภายหลังการเตรียมการเก็บอิมัลชันไว้นานจะทำให้ขนาดของอนุภาคใหญ่ขึ้น ผลการเปลี่ยนแปลงของพีเอช ไม่ส่งผลต่อลักษณะทางกายภาพของสูตรตำรับ
dc.identifier.urihttps://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1129
dc.identifier.urihttps://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12198
dc.subjectเครื่องสำอาง
dc.titleการตั้งตำรับสูตรเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวจากสารสกัดมะหาด
Files
Collections