การศึกษาผลการดำเนินงานในการจัดการศึกษาของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของประเทศไทย

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Usage analytics
Journal Title
การศึกษาผลการดำเนินงานในการจัดการศึกษาของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของประเทศไทย
Authors
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Research) มุ่งศึกษาผลการดำเนินงานในการจัดการศึกษาของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของประเทศไทย เพื่อศึกษาระดับความรู้ในการดูแลเด็กปฐมวัย ความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน การสนับสนุนจากหน่วยงานและชุมชนและการปฏิบัติงานของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเพื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติงานของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำแนกตามข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา และระยะเวลาการปฏิบัติงานในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณเป็นผู้ดูแลเด็กที่ประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยประจำปีการศึกษา 2554 จำนวนทั้งสิ้น 400 คน ส่วนกลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพเป็นการคัดเลือกผู้ให้สัมภาษณ์เชิงลึก (deep interview) จำนวนทั้งสิ้น 12 คน โดยใช้เกณฑ์การเลือกจากผู้ดูแลเด็กเล็กสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารของเทศบาลเมือง/เทศบาลตำบล/องค์การบริหารส่วนตำบลทุกภูมิภาคของประเทศไทย เครื่องมือในการวิจัยเชิงปริมาณ คือ แบบสอบถามการศึกษาผลการดำเนินงานในการจัดการศึกษาของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของประเทศไทย ซึ่งได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปคำนวณค่าสถิติ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว (One Way Analysis of Variance-ANOVA) ทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ตามวิธีของ Scheffe’ และวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นของข้อเสนอแนะนำมาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพ คือ การสร้างข้อคำถามเพื่อประกอบการสัมภาษณ์ เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนา ปรับปรุง และส่งเสริมการดำเนินงานในการจัดการศึกษาของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของประเทศไทย ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกและสังเคราะห์เนื้อหาด้วยการจัดหมวดหมู่และจัดลำดับ แล้วนำมาเขียนแจกแจงเป็นความถี่
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ผู้ดูแลเด็กที่เป็นกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 36-40 ปี คิดเป็นร้อยละ 25.25 มีการศึกษาระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 89.95 และมีระยะเวลาที่ปฏิบัติงานใน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นเวลา 5-10 ปี คิดเป็นร้อยละ 36.25
2. ผู้ดูแลเด็กส่วนใหญ่มีระดับความรู้ในการดูแลเด็กปฐมวัยอยู่ในระดับมาก มีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานในภาพรวมอยู่ในระดับมาก การปฏิบัติงานของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและชุมชนในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง
3.เปรียบเทียบความแตกต่างของความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน การได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและชุมชน และการปฏิบัติงานของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำแนกตามอายุ ระดับการศึกษา และระยะเวลาในการปฏิบัติงาน พบว่า 1) ผู้ดูแลเด็กที่มีอายุต่างกันมีความพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในภาพรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนผู้ดูแลเด็กที่มีระดับการศึกษาและระยะเวลาในการปฏิบัติงานต่างกันมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ผู้ดูแลเด็กที่มีอายุต่างกัน ระดับการศึกษาต่างกัน และระยะเวลาในการปฏิบัติงานต่างกันได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและชุมชนไม่แตกต่างกัน 3) ผู้ดูแลเด็กที่มีอายุและระดับการศึกษาต่างกันมีการปฏิบัติงานในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนผู้ดูแลเด็กที่มีระยะเวลาในการปฏิบัติงานต่างกันมีการปฏิบัติงานในภาพรวมไม่แตกต่างกัน
4. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรได้แก่ ความรู้ในการดูแลเด็กปฐมวัย ความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน และการสนับสนุนจากหน่วยงานและชุมชน เป็นตัวแปรในการทำนายการปฏิบัติงานของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของประเทศไทย พบว่าตัวแปรที่มีประสิทธิภาพในการทำนายการปฏิบัติงานของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ได้แก่ ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานได้รับคัดเลือกเข้าสู่สมการเป็นเป็นลำดับที่ 1 ส่วนการสนับสนุนจากหน่วยงานและชุมชนได้รับคัดเลือกเข้าสู่สมการเป็นเป็นลำดับที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05
5. แนวทางการศึกษาผลการดำเนินงานในการจัดการศึกษาของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของประเทศไทย คือ ด้านความมั่นคงในหน้าที่การงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดทำและเผยแพร่หลักเกณฑ์ด้านความมั่นคงในหน้าที่การงานให้ผู้ดูแลเด็กทราบอย่างทั่วถึง และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ พร้อมกับมีระบบกลั่นกรองและตรวจสอบเพื่อความยุติธรรม ได้แก่ ด้านเงินเดือนและสวัสดิการที่เหมาะสม เกณฑ์การบรรจุแต่งตั้ง ตลอดจนการเลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นธรรมโดยไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง ควรจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอและทั่วถึงในการจัดอบรมสัมมนา สร้างคู่มือการสอน สื่อการสอน และมีผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาปฐมวัยมาให้ความรู้แก่ผู้ดูแลเด็กอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ และงบประมาณด้านการบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ได้แก่ การซ่อมแซมสถานที่และครุภัณฑ์ โดยมีระบบตรวจสอบความถูกต้องของการใช้งบประมาณให้เป็นไปตามจริง ควรจัดตั้งองค์กร หรือหน่วยงานในระดับประเทศหรือหน่วยงานภาครัฐ ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่มีบทบาททางด้านวิชาการและให้คำปรึกษา พร้อมกับส่งรูปแบบการจัดทำหลักสูตรที่มีการบูรณาการโดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาอยู่ในหลักสูตร เอกสารเกี่ยวกับนักเรียน รูปแบบการประเมินให้มีมาตรฐานเดียวกัน และจัดอบรมให้ความรู้และทักษะด้านต่างๆ แก่ผู้ดูแลเด็กเล็กเป็นแบบเดียวกันทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดทำเป็นแผ่นซีดีส่งให้แก่ทุกศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยเข้าไปเยี่ยมเยียนหรือนิเทศผู้ดูแลเด็กอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อรับทราบปัญหาและเป็นการประเมินตามสภาพจริง จัดอบรมสัมมนาให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีความรู้ความเข้าใจด้านการบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและลงพื้นที่ประเมินสภาพความเป็นอยู่ การจัดการเรียนการสอน เพื่อตั้งงบประมาณในการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง โดยสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาควรมีหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยในระดับปริญญาโท เพื่อให้บุคลากรด้านการศึกษาปฐมวัยมีโอกาสพัฒนาตนเองมากขึ้นบรรณารักษ์และบุคลากรด้านการศึกษาปฐมวัยควรรวบรวมเอกสารสารสนเทศใหม่ๆ ด้านการศึกษาปฐมวัยแจกจ่ายให้แก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ข่าวสาร และสารสนเทศที่ทันสมัยให้แก่ผู้ดูแลเด็กทั่วไประเทศ และควรมีตำแหน่งนักวิชาการทางการศึกษาทุกแห่ง เพื่อช่วยเหลือให้คำแนะนำด้านการบริหารจัดการการศึกษาให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน