การศึกษาการกระจายตัวของการต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากส่วนต่างๆ ของส้มโอ 7 สายพันธุ์ [Citrus maxima Merr.]

Default Image
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Views
Views7
Usage analytics
Journal Title
การศึกษาการกระจายตัวของการต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากส่วนต่างๆ ของส้มโอ 7 สายพันธุ์ [Citrus maxima Merr.]
Recommended by
Abstract
ส้มโอเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศไทยซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในพืชตระกูลส้มและมีปริมาณสารประกอบโพลีฟีนนอลที่มีสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาถึงปริมาณของสารประกอบโพลีฟีนนอลทั้งหมด และความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระในเนื้อเยื่อผลส้มโอ ได้แก่ เปลือกชั้นนอก เปลือกชั้นใน เนื้อเยื่อ และเมล็ดของส้มโอทั้ง 7 พันธุ์ ที่ปลูกเป็นการค่าใน 5 จังหวัด ได้แก่ พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง ทองดี ขาวแป้น ขาวใหญ่ ท่าข่อย ปัตตาวี และขาวแตงกวานำมาวิเคราะห$สารประกอบโพลีฟีนนอลทั้งหมด และความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ โดยตรวจวัดความสามารถในการจับอนุมูลอิสระ (DPPH assay) และความสามารถในการรีดิวซ์ (FRAPassay) พบว่า ส่วนต่างๆ ทั้ง 4 ส่วน เมล็ดมีปริมาณสารประกอบโพลีฟีนนอลทั้งหมดเฉลี่ยมากที่สุดคือ 3992.21 μg/g, Dw รองลงมาคือ เปลือกชั้นใน 1896.15 μg/g, Dw เปลือกชั้นนอก 1808.76 μg/g, Dw และเนื้อเยื่อ 1321.56 μg/g, Dw ปริมาณโพลีฟีนนอลในส้มโอไทยทั้ง 7 สายพันธุ์ พบว่า พันธุ์ท่าข่อย และส้มโอพันธุ์ทองดี ซึ่งมีเปลือกชั้นใน และเนื้อเยื่อ มีสีชมพูอ่อน มีปริมาณโพลีฟีนนอลมากกว่าพันธุ์ส้มโอที่มีเปลือกชั้นใน และเนื้อเยื่อ ที่มีสีขาว ได้แก่ พันธุ์ปัตตาวี พันธุ์ขาวใหญ่ พันธุ์ขาวแตงกวา พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง และพันธุ์ขาวแป้น เนื่องจากรงควัตถุสีชมพูที่มีสารแคโรตินอยด์เป็นส่วนประกอบอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างสารประกอบโพลีฟีนนอลและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH พบว่าค่าที่ได้มีความสัมพันธ์ในเชิงบวก โดยมีค่า r2=0.702 ความสัมพันธ์ระหว่างสารประกอบโพลีฟีนนอลและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี FRAP พบว่า ค่าที่ได้มีความสัมพันธ์ในเชิงบวก โดยมีค่า r2 = 0.659 จากข้อมูลดังกล่าวส้มโอมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเหมาะสมต่อการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ด้านอาหารต่อไป
Description
Citation
View online resources
Collections