การพัฒนารูปแบบการสื่อสารการตลาดออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Usage analytics
Journal Title
การพัฒนารูปแบบการสื่อสารการตลาดออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน
Recommended by
Abstract
เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ มีจํานวนน้อยที่ใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางการสื่อสารการตลาด ซึ่งมีทั้งที่ประสบความสำเร็จและยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากยังขาดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในการทําตลาดออนไลน์ เนื้อหาไม่ดึงดูดใจ การปรับปรุงเนื้อหาไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นจงต้องพัฒนารูปแบบการสื่อสารการตลาดออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชนที่เหมาะสมกับบริบทของวิสาหกิจชุมชนเพื่อเป็นต้นแบบการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา โดยมีวัตถประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสื่อสารการตลาดออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน (2) พัฒนารูปแบบการสอสารการตลาดออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน และ (3) ทดลองและปรับปรุงรูปแบบการสื่อสารการตลาดออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก 20 คน โดยวิธีการเลือกตามเกณฑ์ที่กําหนด และสำรวจความไว้วางใจของผู้บริโภค จํานวน 343 คน และวิเคราะห์โดยการทดสอบแบบที่การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาการสื่อสารการตลาดออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน ได้แก่ เกษตรของวิสาหกิจชุมชนขาดความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ขาดความรู้เกี่ยวกับช่องทางการสื่อสารออนไลน์ ขาดความรู้ด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ และขาดเนื้อหาที่สร้างสรรค์ส่วนผู้บริโภคมีความไว้วางใจต่อการสื่อสารการตลาดออนไลน์อยู่ในระดับมาก รูปแบบการสื่อสารการตลาดออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ของวิสาหกิจชุมชน ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) เกษตรกรหรือผู้จําหน่ายเป็นผู้ส่งสารที่มีความมุ่งหวังทางธุรกิจ โดยต้องรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศช่องทางการสื่อสารออนไลน์ การตลาด การสร้างแบรนด์ การบริหารลูกค้าสมพนธ์ การสร้างสรรค์เนื้อหา และการสร้างเครือข่ายเพื่อให้สามารถใช้ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและให้บริการความซื่อสัตย์และจริงใจ (2) เนื้อหามีความเกี่ยวข้องกับเกษตรอินทรีย์ มีความเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค แสดงความมุ่งห่วงทางธุรกิจ มีประเด็นหลักชัดเจน เป็นความจริง ดึงดูดใจ ปรับปรุงเนื้อหาสม่ำเสมอ รูปแบบเหมาะกับผู้บริโภค (3) ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ต้องเข้าถึงได้ง่าย ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว เสียค่าใช้จ่ายน้อย มีพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ โดยอาจจะมีสิ่งรบกวนที่เข้ามาแทรก (4) กระบวนการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย การค้นหาข้อมูล การสั่งซื้อ การชำระเงิน และการจัดส่งสินค้า กระบวนการต้องใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งนี้ เกษตรกรควรรวมกลุ่มเพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ (5) ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะมีความคาดหวัง ซึ่งผู้บริโภคควรตระหนักถึงการบริโภคอาหารปลอดภัย และมีความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ และ (6) ปฏิกิริยาตอบกลับที่ผู้บริโภคหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแสดงออกภายหลังจากรับข้อมลข่าวสาร ซึ่งแสดงออกถึงความพึงพอใจที่เกิดจากความคาดหวัง รูปแบบมีเป้าหมายในการสร้างความสัมพนธ์ที่ดี ระหว่างเกษตรกรหรือผู้จําหน่ายกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้ รูปแบบผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ มีความเหมาะสมในทางปฏิบัติและการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการทดลองใช้รูปแบบกับกลุ่มทดลอง พบว่า กลุ่มทดลองมีความพึงพอใจต่อรูปแบบ อย่างไรก็ตามรูปแบบที่พัฒนาขึ้นนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอกมาช่วยในการพัฒนาช่องทางการสื่อสารออนไลน์สินค้าเกษตรอินทรีย์ เนื่องจากเกษตรกรในวิสาหกิจชุมชนขาดความรู้และเงินทุน