นวัตกรรมครีมต้านสิวจากแอคติโนมัยสีทเอนโดไฟท์โดยใช้ผลผลิตทางการเกษตรเป็นสับสเตรท
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Usage analytics
Journal Title
นวัตกรรมครีมต้านสิวจากแอคติโนมัยสีทเอนโดไฟท์โดยใช้ผลผลิตทางการเกษตรเป็นสับสเตรท
Recommended by
Abstract
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกชนิดและปริมาณวัสดุหมัก ชนิดของสารอาหาร และสภาวะที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงแอคติโนมัยสีทเอนโดไฟท์ไอโซเลท RBCH5 ด้วยการหมักแบบแห้ง ข้าว 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวแม่พญาทองดำ และข้าวกล้องล้นยุ้งจะถูกใช้เพื่อผลิตสารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อก่อสิวสูงที่สุด 3 ชนิด คือ Propionibacterium acnes DMST 14916 Staphylococcus aureus TISTR 1466 และ Staphylococcus epidermidis TISTR 518 ซึ่งชนิด และปริมาณวัสดุหมักที่เหมาะสมต่อการผลิตสารต้านแบคทีเรียก่อสิวโดยใช้การทดลองแบบผสม Mixture design ในระดับฟลาสก์ คือ ใช้ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวแม่พญาทองดำ และข้าวกล้องล้นยุ้ง ในอัตราส่วนเท่ากับ 1.0 : 0.0 : 0. ให้ค่าโซนใสบริเวณยับยั้งเชื้อ P. acnes DMST 14916 Stap. epidermidis TISTR 518 และ Stap. aureus TISTR 1466 สูงสุดเท่ากับ 12.5 11.5 และ 12.4 mm ตามลำดับ สารอาหารและสภาวะที่เหมาะสมต่อการผลิตสารต้านแบคทีเรียก่อสิวโดยใช้การออกแบบการทดลองแบบ One factor at a time พบว่าชนิดสารอาหารที่เป็นแหล่งคาร์บอนที่เหมาะสม และแหล่งสารอินทรีย์ไนโตรเจนที่เหมาะสม คือ Soluble starch และ Sodium nitrate ตามลำดับเวลา และปริมาณความชื้นที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงแอคติโนมัยสีทเอนโดไฟท์ไอโซเลท RBCH5 คือ 12 วัน และ 80% ตามลำดับ สารสกัดข้าวหมักจากการหมักข้าวหอมมะลิด้วยแอคติโนมัยสีทเอนโดไฟท์ ไอโซเลต RBCH5 ให้ปริมาณสารฟีนอลทั้งหมดและสารต้านอนุมูลอิสระน้อย ค่า MIC ดีที่สุด คือ เชื้อ P. acnes DMST 14916 ( 0.7812 mg/mL) ตามด้วย Stap. epidermidis TISTR 518 (1.5625 mg/mL) และ Stap. aureus TISTR 1466 (3.125 mg/mL) ตำรับครีมแต้มสิวที่เหมาะสม คือ สูตรที่ 2 เนื่องจากเป็นสูตรที่มีลักษณะเนื้อหนืดเล็กน้อย กลิ่นหอม ไม่เปลี่ยนแปลง ค่า pH (6.60-6.65) และไม่พบทั้งจุลินทรีย์ทั้งหมดที่เจริญในมีอากาศ และจำนวนยีสต์และราในผลิตภัณฑ์ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐาน เมื่อนำผลิตภัณฑ์แต่ละสูตรให้อาสาสมัครลองใช้ พบว่าให้คะแนนของความสามารถในการซึมผ่านผิวหนัง เนื้อสัมผัสกับผิวหนัง และความพึงพอใจในภาพรวมของผลิตภัณฑ์อยู่ในเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด มากไปกว่านั้นจึงเป็นสูตรที่ให้ความพึงพอใจดีที่สุด