แนวทางการบริหารจัดการทุนชุมชน กรณีพื้นที่ตรัง

Default Image
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
Views
Views3
Usage analytics
Journal Title
แนวทางการบริหารจัดการทุนชุมชน กรณีพื้นที่ตรัง
Recommended by
Abstract
การศึกษาวิจัย เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการทุนชุมชุน กรณีพื้นที่ตรัง มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษา รวบรวม สังเคราะห์องค์ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรที่เป็นทุนของชุมชนพื้นที่จังหวัดตรัง 2) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการทุนชุมชนในพื้นที่ 3) เพื่อศึกษา วิเคราะห์การบริหารจัดการทุนชุมชนถึงจุดเด่นจุดด้อย และ 4) เพื่อเสนอแนวทางพัฒนาการบริหาร จัดการทุนที่นําไปสู่ความยั่งยืนของชุมชน โดยใช้วิธีการศึกษาแบบผสมผสาน (Mixed Method) ทั้งวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรตัวอย่าง ในการศึกษา คือ ประชาชนในชุมชนพื้นที่ตัวอย่างในจังหวัดตรัง ซึ่งเจาะจงใน 4 อําเภอ โดยสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการ ของ Taro Yamane ที่ระดับความเชื่อมั่น 0.05 ได้จํานวน 400 ตัวอย่าง เพื่อใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล และนํามาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์หาค่าสถิติ วิเคราะห์ดูความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-Test และ F-Test ส่วนการวิจัย เชิงคุณภาพทําการศึกษาจากเอกสารและสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทุนชุมชน จํานวน 25 คน นําข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์แบบ Content Analysis เชื่อมโยงประเด็นที่เกี่ยวข้อง เสนอ แบบพรรณนาความ ผลการศึกษาวิจัย พบว่า ตรังเป็นพื้นที่ที่มีทุนชุมชนด้านธรรมชาติโดดเด่นหลายๆ ด้าน มีทั้ง ทะเล หมู่เกาะ และหาดทรายที่สวยงาม เกาะที่โดดเด่น คือ เกาะสุกร เกาะมุก เกาะลิบง เกาะเภตรา เกาะเหลาเหลียง เป็นต้น แต่ละเกาะจะมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติเฉพาะตัว เช่น เกาะสุกร นอกจาก ความสวยงามทางทะเลแล้ว ยังมีเอกลักษณ์การทําไร่แตงโมที่อร่อย เกาะมุก มีถ้ํามรกตที่สวยงามในทะเล เกาะลิบง มีปลาพะยูนและนกทะเลที่หลากหลาย เกาะเภตรา เป็นอุทยาน มีหาดทรายและ ปะการังที่สวยงาม เกาะเหลาเหลียง มีปะการัง มีภูเขาหินปูนเป็นผาสูง น้ําทะเลใสสะอาด จนกล่าว ขานว่าเป็นมนต์เสน่ห์ท้องทะเลตรัง สําหรับหาดทรายที่สวยงามมากมาย เช่น หาดปากเม็ง หาดหัวหิน หาดราชมงคล ทุนชุมชนทางทะเลยังมีแหลมต่างๆ ป่าชายเลน ป่าพรุ ป่าชายหาด ปะการัง สัตว์และ พืชพันธุ์ทางทะเล ทั้งสาหร่าย หญ้าทะเล กุ้ง หอย ปู ปลาที่สมบูรณ์ ส่วนทุนทางสังคมในด้านวัฒนธรรม พบว่า เป็นพื้นที่ที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนในด้านอาหารการกิน มื้อเช้าด้วยกาแฟกับหมูย่าง มีขนมเค้กที่มีลักษณะเฉพาะ การแต่งกายคนส่วนใหญ่นุ่งผ้าปะเต๊ะ เสื้อผ้าลูกไม้ มีวัฒนธรรมการถักทอที่ละเอียดสวยงาม มีสถาปัตยกรรมอาคารหลายแห่งที่สะท้อนความเป็นมาที่รุ่งเรืองในอดีต คนใช้ภาษาถิ่นใต้ทั่วไป มีการดนตรีที่เป็นการละเล้นพื้นบ้านอย่างลิเกป่า มโนราห์ และหนังตะลุง ความสวยงามทางศิลปะ พบได้ จากอาคาร โบสถ์ วัดวาอาราม และสถานที่ราชการสําคัญๆ มีเทศกาลที่สะท้อนวิถีชีวิต เช่น เทศกาล เก็บหอยตะเภา ถือศีลกินเจ เทศกาลหมูย่าง ขนมเค้ก และชักพระน้ํา เป็นต้น ขณะที่การมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทุนชุมชนของประชาชนในพื้นที่ตัวอย่าง ชี้ได้ว่า ทุนชุมชนถูกใช้ในการบริหารจัดการเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวสูงสุด โดยเฉพาะในอําเภอสิเกา รองลงมา คือ การสร้างสินค้าขายของ ฝาก โดยผู้ให้ข้อมูลกลุ่มนี้ มีอายุระหว่าง 41 – 60 ปี การศึกษาต่ากว่าปริญญาตรี มีอาชีพส่วนตัว ค้าขาย มีรายได้น้อยกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มองว่าจุดแข็งของชุมชน คือ การมีทรัพยากรที่ หลากหลาย มีการใช้ประโยชน์จากทุนมนุษย์สูงสุด รองลงมา คือ ทุนธรรมชาติ จุดเด่นของตรัง คือ หมูย่าง ส่วนภาพลักษณ์ที่คนจะนึกถึงตรัง คือ เมนูอาหารเช่ากาแฟ หมูย่าง รองลงมา คือ หาดทรายที่ สวยงาม นอกจากนี้ ระดับการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทุนชุมชนสูงสุด คือ ด้านการใช้ประโยชน์ รองลงมา ด้านการปฏิบัติการ ด้านการวางแผน และประเมินกํากับติดตาม ตามลําดับ การใช้ประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นเรื่องรายได้และประโยชน์อื่นๆ ส่วนการปฏิบัติการจะมีส่วนร่วมในการหามาตรการป้องกันความเสียหายจากการเยี่ยมชมและการดูแลทรัพยากร ด้านการวางแผนมีส่วนร่วม การคิด การประชุมวางแผนกําหนดมาตรการการทําลายทุน ส่วนด้านการประเมินควบคุมมีส่วนร่วมในการหาโอกาสปกป้องทรัพยากรให้กับชุมชน นอกจากนั้น พบว่า ระดับการมีส่วนร่วมในอําเภอที่ แตกต่างกัน ทําให้การมีส่วนร่วมในการจัดการแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญที่ 0.05 เช่นเดียวกับประชาชน ที่มีอาชีพ รายได้ และความเข้มแข็งของชุมชนที่แตกต่างกัน ระดับการมีส่วนร่วมโดยรวมก็แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญที่ 0.05 ทั้งนี้ ปัจจัยสําคัญที่มีผลต่อระดับการมีส่วนร่วมสูงสุด คือ ประชาชนยังขาด ความพร้อมในการมีส่วนร่วม และเมื่อวิเคราะห์ที่จุดอ่อน จุดแข็งในการดําเนินงานเพื่อการบริหาร จัดการทุนชุมชน อาจกล่าวได้ว่า มีจุดแข็งในเรื่องทรัพยากร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คนส่วนใหญ่รักถิ่นฐานและอัธยาศัยที่ดี มีบริบทของพื้นที่ และสังคมที่เข้มแข็ง แต่พบว่า มีจุดอ่อนหลายด้าน เช่น ขาดการมีส่วนร่วมเชิงบูรณการของภาคีเครือข่าย ขาดองค์ความรู้และทําการตลาดที่จริงจัง ขาดความต่อเนื่องเชิงความคิดของผู้นํา นอกจากนี้ แนวทางการพัฒนา การบริหารจัดการทุนชุมชน จึงต้องบริหารจัดการด้วย 5’รู้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน กล่าวคือ “รู้เรา รู้เขา รู้สิ่งที่ให้ รู้การเข้าถึง รู้การมอบหมายติดตาม” โดยรู้เรา คือ ชุมชนต้องรู้ว่าตัวเองมีดีอะไร รู้เขา คือ รู้จักลูกค้าเป้าหมาย รู้สิ่งที่ให้ คือ ใช้ประโยชน์จากทุนที่ตรงตามความต้องการรู้การเข้าถึง คือ วางระบบและวิธีการจัดการที่ไม่ ทําลายทุน รู้การมอบหมายติดตาม คือ การทําความเข้าใจกับคนในชุมชนในสิ่งที่รับผิดชอบและช่วยในการติดตาม และเสริมโดยผู้นําต้องสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งนี้ จังหวัดต้องเป็นเจ้าภาพในการบูรณการเชื่อมโยงแนวคิดการจัดการทุนของชุมชน เพื่อการท่องเที่ยวที่มีความเข้มแข็ง และให้ความสําคัญสร้างเสริมการจัดการทุนชุมชนเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจด้วยการให้ความรู้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งในฐานะผู้ประกอบการ ผู้นําเที่ยว และผู้ปฏิบัติการในชุมชนเข้าใจข้อมูลของชุมชนที่ถูกต้อง แม่นยํา และเข้าถึง
Description
Citation
View online resources
Collections