การพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้ (Aloe vera (L.) Burm.f.) เพื่อเพิ่มมูลค่าอาหาร

Date
2022
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Views
Views7
Usage analytics
Journal Title
การพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้ (Aloe vera (L.) Burm.f.) เพื่อเพิ่มมูลค่าอาหาร
Recommended by
Abstract
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมี และฤทธิ์ทางชีวภาพของว่านหางจระเข้เพื่อนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้ โดยศึกษาองค์ประกอบทางเคมี ปริมาณฟีนอลิกรวม ปริมาณฟลาโวนอยด์รวม และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระทดสอบด้วยวิธี DPPH ABTS+ และ FRAP ผลการทดลองพบว่าเนื้อว่านหางจระเข้มีปริมาณความชื้นมากที่สุด รองลงมาคือคาร์โบไฮเดรต ใยอาหารทั้งหมด เถ้า โปรตีน และไขมัน มีปริมาณวิตามิน Vitamin C มากที่สุด รวมถึงมีปริมาณแร่ธาตุแมกนีเซียมมากที่สุด ไม่พบการปนเปื้อนโลหะหนักในเนื้อว่านหางจระเข้ นอกจากนี้ปริมาณฟีนอลิกรวม ปริมาณฟลาโวนอยด์รวม ค่า IC50 ต่อ DPPH• ค่า IC50 ต่อ ABTS+• และค่า FRAP มีค่าเท่ากับ 4.51±0.09 mg GAE/100 g extract 3.40±0.09 mg QE/100 g extract 1.21±0.02 g/ml 1.32±0.05 g/ml และ 24.82±0.24 mg TE/100 g extract ตามลำดับ พัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้ทดสอบการประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัสพบว่า ผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้สูตร 2 (อัตราส่วนสารให้ความหวานแทนน้ำตาล : น้ำตาล เท่ากับ 25 : 75) มีค่าคะแนนความชอบด้านรสชาติ ความหวาน เนื้อสัมผัส ความง่ายต่อการทา (การสเปรด) ลักษณะปรากฏ และความชอบโดยรวมมากสุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p≤0.05) ทดสอบคุณสมบัติทางเคมี ทางกายภาพของผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้สูตร 2 ศึกษาระยะเวลาการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 30±2°C โดยทำการตรวจสอบคุณภาพวันที่ 0, 30 และวันที่ 60 พบว่ามีปริมาณความชื้น เถ้า ปริมาณคาร์โบไฮเดรต Vitamin C แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม เซเรเนียมค่าความเป็นกรดด่าง ปริมาณกรดทั้งหมด (ในรูปของ Citric acid) และปริมาณน้ำตาลทั้งหมดมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p≤0.05) และไม่พบการปนเปื้อนโลหะหนักในผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้ ส่วนคุณสมบัติทางกายภาพพบว่า ค่าสี L* มีค่าแตกต่างกัน เช่นเดียวกับค่าวอเตอร์-แอกติวิตี ความหนืด และค่าปริมาณของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมดเมื่อระยะเวลาการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์นานขึ้นทำให้ปริมาณวอเตอร์-แอกติวิตีเพิ่มขึ้น ส่วนค่าความหนืด และปริมาณของแข็งที่ละลายได้ทั้งหมดมีค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p≤0.05) การวิเคราะห์จำนวนเชื้อจุลินทรีย์ด้วยการทดสอบ Total Plate Count, Yeast & Mold, Coliform, Salmonella spp. และ Staphylococcus aureus พบว่าผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้มีจำนวนเชื้อจุลินทรีย์น้อยกว่า 10 CFU/g ในการวิเคราะห์ Total Plate Count และ Yeast & Mold พบ Coliform น้อยกว่า 3.0 MPN/g ไม่พบ Salmonella spp.ในอาหาร 25 กรัม และ Staphylococcus aureus น้อยกว่า 10 CFU/g เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน การวิเคราะห์ค่าพลังงาน และค่าพลังงานจากไขมันของผลิตภัณฑ์พลังงานต่ำจากแยมว่านหางจระเข้สูตร 2 เท่ากับ 268.47±0.03 และ 1.35±0.01 kcal/100 g ตามลำดับ ซึ่งปริมาณที่ต่ำกว่าสูตรพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม พลังงานที่ลดลงเกิดขึ้นจากการใช้สารทดแทนความหวานซูคราโลสซึ่งให้พลังงานต่ำ แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสามารถนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารพลังงานต่ำเพื่อเป็นตัวเลือกในการบริโภคและพัฒนาในระดับกึ่งอุตสาหกรรมได้