การศึกษาจิตรกรรมฝาผนังจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวบนฐานเศรษฐกิจชุมชน

Simple item page
dc.contributor.authorบรรพต พิจิตรกำเนิด
dc.contributor.authorเนื้ออ่อน ขรัวทองเขียว
dc.contributor.authorฐิติยา เนตรวงษ์
dc.date.accessioned2025-03-18T06:37:22Z
dc.date.accessioned2025-09-03T03:46:51Z
dc.date.available2025-03-18T06:37:22Z
dc.date.available2025-09-03T03:46:51Z
dc.date.issued2023
dc.description.abstractงานวิจัยเรื่องการศึกษาจิตรกรรมฝาผนังจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวบนฐานเศรษฐกิจชุมชน มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษารูปแบบและความหมายของงานจิตรกรรมฝาผนัง จังหวัดสุพรรณบุรี 2) ออกแบบสื่อสารสนเทศดิจิทัลเผยแพร่ความรู้จิตรกรรมฝาผนัง จังหวัดสุพรรณบุรี และ 3) ออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์บนฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มาจากจิตรกรรมฝาผนัง จังหวัดสุพรรณบุรี และถ่ายทอดความรู้แก่ชุมชน สรุปผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) งานจิตรกรรม จังหวัดสุพรรณบุรี ที่อยู่ในการสำรวจของกรมศิลปากรและตีพิมพ์ พ.ศ. 2533 จำนวน 25 แห่ง หลงเหลือจนถึงปัจจุบัน 19 แห่ง รวมอาคารทั้งสิ้น 22 หลัง สถานที่ตั้งงานจิตรกรรมส่วนใหญ่เป็นพระอุโบสถ 7 แห่ง ศาลาการเปรียญ 7 แห่ง พระวิหาร 4 แห่ง หอสวดมนต์หรือหอฉัน 3 แห่ง มณฑปและศาลาท่าน้ำอย่างละ 1 แห่ง เนื้อหาที่ใช้เขียนงานจิตรกรรมส่วนใหญ่เป็นพุทธประวัติ 18 แห่ง รองลงมาเป็นทศชาติชาดกและเวสสันดรชาดก 7 แห่ง ฎีกาพาหุง 5 แห่ง พระเจดีย์จุฬามณี 5 แห่ง พระมาลัย 5 แห่ง พระอดีตพุทธเจ้า 5 แห่ง พระอุปคุต 4 แห่ง เทพชุมนุม 4 แห่ง ท้าวมหาชมพูบดี 2 แห่ง การอัญเชิญพระเกศธาตุ 2 แห่ง ตำราพรหมชาติ 2 แห่ง หิหิกชาติ 2 แห่ง ภัทรกัลป์ ภัททวัคคีย์ นางประชาบดี สระอโนดาต การบูชารอยพระพุทธบาท และการสืบพระศาสนาลังกาวงศ์ อย่างละ 1 แห่ง จากข้อมูลที่ปรากฏแสดงลักษณะเฉพาะบางประการที่เด่นชัดของจิตรกรรมในจังหวัดสุพรรณบุรีนอกเหนือไปจากการถ่ายทอดเรื่องราวพุทธประวัติและพระอดีตชาติของพระพุทธเจ้า (ทศชาติชาดกและเวสสันดรชาดก) คือ ความนิยมในการเขียนภาพเล่าเรื่องพระเจดีย์จุฬามณี พระมาลัย ฎีกาพาหุง พระอดีตพุทธเจ้า เทพชุมนุม การอัญเชิญพระเกศธาตุ โดยเฉพาะที่อำเภอบางปลาม้า มีความนิยมเรื่องตำราพรหมชาติเป็นพิเศษโดยเขียนบนเพดานขนาดใหญ่ซึ่งพบจำนวน 2 วัด ได้แก่ วัดแก้วตะเคียนทองและวัดชีปะขาว 2) ผลการออกแบบสื่อสารสนเทศดิจิทัลเผยแพร่ความรู้จิตรกรรมฝาผนัง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า ภายหลังผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มตัวอย่างได้ทดลองใช้งานแล้ว มีความพึงพอใจในด้านเนื้อหา ด้านการออกแบบและการจัดรูปแบบสื่อสารสนเทศดิจิทัล และด้านประโยชน์และการนำไปใช้ ในทุกประเด็นในระดับมาก สำหรับข้อเสนอแนะในมิติการพัฒนา เป็นประเด็นของการบูรณาการสื่อในรูปแบบต่าง ๆ เข้ามาใช้เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ อาทิ การใช้แผนที่จาก Google Map เพื่อที่จะสามารถนำทางไปยังวัดได้ทันที สำหรับคนที่สนใจอยากดูสถานที่จริง การใช้สื่อเทคโนโลยีที่ดึงดูดความสนใจ 3) ผลการออกแบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์บนฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มาจากจิตรกรรมฝาผนัง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์งานฉลุกระดาษใส่กรอบจาก วัดประตูสาร และ วัดหน่อพุทธางกูร ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรีภาพรวมอยู่ในระดับมาก สำหรับผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์การนำลาย 12 นักษัตร จากวัดชีปะขาว ไปออกแบบพิมพ์ลายลงบนเสื้อ T-Shirt ความพึงพอใจภาพรวมอยู่ในระดับมาก ในส่วนภาพรวมในการจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อเสนอแนะต่อกิจกรรม คือ อยากให้จัดอบรมลักษณะนี้ในหลายชุมชนเพราะสามารถนำไปต่อยอดและพัฒนาในการจัดการเรียนการสอน ควรจัดโครงการต่อยอดความรู้ผลิตภัณฑ์โดยนำลายจากจิตรกรรมไปประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ และให้จัดในโรงเรียนที่อยู่ใกล้โบราณสถาน จัดกิจกรรมศิลปะให้ความรู้แก่นักเรียนเพื่อความตระหนักในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
dc.identifier.urihttps://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12367
dc.publisherมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
dc.subjectจิตรกรรมฝาผนัง
dc.subjectจังหวัดสุพรรณบุรี
dc.subjectผลิตภัณฑ์สร้างสรรค
dc.subjectเศรษฐกิจชุมชน
dc.subjectสื่อสารสนเทศดิจิทัล
dc.titleการศึกษาจิตรกรรมฝาผนังจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวบนฐานเศรษฐกิจชุมชน
mods.location.urlhttps://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=3672
Files
Collections
Research