การแปรรูปวัสดุเหลือทิ้งจากมะพร้าวเพื่อช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรม
| dc.contributor.author | ฐิตินาถ สุคนเขตร์ | |
| dc.contributor.author | จันทรัสจ์ วุฒิสัตย์วงศ์กุล | |
| dc.contributor.author | วันปิติ ธรรมศรี | |
| dc.contributor.author | วีรชน ภูหินกอง | |
| dc.contributor.author | ทัศนีย์ ทองก้านเหลือง | |
| dc.contributor.author | นครินทร์ ศรีสุวรรณ | |
| dc.contributor.author | กิตติศักดิ์ บัวศรี | |
| dc.date.accessioned | 2025-08-13T02:29:57Z | |
| dc.date.accessioned | 2025-09-03T03:47:00Z | |
| dc.date.available | 2025-08-13T02:29:57Z | |
| dc.date.available | 2025-09-03T03:47:00Z | |
| dc.description.abstract | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการแปรรูปวัสดุเหลือทิ้งจากมะพร้าว ได้แก่ กะลามะพร้าว และเส้นใยมะพร้าว เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรม โดยการนำกะลามะพร้าวมาแปรรูปเป็นถ่านกัมมันต์ เพื่อใช้ในการดูดซับโลหะหนักในน้ำเสียจากอุตสาหกรรม และนำเส้นใยมะพร้าวมาผลิตเป็นแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษี เพื่อใช้เป็นวัสดุทดแทนไม้ ในการสังเคราะห์ถ่านกัมมันต์จะเผากะลามะพร้าวที่อุณหภูมิ อุณหภูมิ 400 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นกระตุ้นทางเคมีด้วยโซเดียมคลอไรด์ ความเข้มข้น 1 โมลาร์ อัตราส่วนถ่านต่อสารละลายโซเดียมคลอไรด์ 1:3 กระตุ้นเป็นเวลา 24 ชั่วโมง และเผากระตุ้นที่อุณหภูมิ 700 องศาเซลเซียส ที่สภาวะนี้ให้ค่าไอโอดีนนัมเบอร์สูงสุดเท่ากับ 503.45 มิลลิกรัมต่อกรัม จากการศึกษาการดูดซับตะกั่วและแคดเมียมในน้ำเสียสังเคราะห์พบว่า ถ่านกัมมันต์มีประสิทธิภาพในการดูดซับตะกั่วและแคดเมียมร้อยละ 98.33 และ 57.88 ตามลำดับ ในการขึ้นรูปแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษี ใช้อัตราส่วนเส้นใยมะพร้าว:ต้นธูปฤาษี เท่ากับ 50:50 โดยน้ำหนักเส้นใยแห้ง ความหนาแน่นของแผ่นใยไม้อัด 600 kg/m3 และความหนาของแผ่นใยไม้อัด 15 mm. การขึ้นรูปแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีนี้ ใช้กาวที่เป็นสารยึดติดแตกต่างกัน 2 ชนิด คือ กาวสังเคราะห์ยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์เรซิน (UF) และกาวสังเคราะห์ไอโซไซยาเนตเรซิน (pMDI) ที่ปริมาณ 10% จากนั้นนำแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีไปทดสอบสมบัติตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแผ่นชิ้นไม้อัดชนิดอัดราบ (มอก. 876-2547) พบว่าแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีที่ใช้กาวสังเคราะห์ยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์เรซิน มีค่าความหนาแน่นเฉลี่ยเท่ากับ 658.25±0.23 kg/m3 ค่าความชื้นเท่ากับ 9.38±0.31 % ค่าการพองตัวตามความหนาเท่ากับ 19.29±0.31 % และมีค่าสมบัติเชิงกล คือ ค่าความต้านทานแรงดัดเท่ากับ 13.76±0.32 MPa ค่ามอดุลัสยืดหยุ่นเท่ากับ 1182±0.33 MPa ค่าความต้านแรงดึงตั้งฉากกับผิวหน้าเท่ากับ 0.38±0.33 MPa และค่าความแข็งแรงการยึดเหนี่ยวของตะปูเกลียวด้านผิวเท่ากับ 363.59±0.32 N ส่วนแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีที่ใช้กาวสังเคราะห์ไอโซไซยาเนตเรซิน มีค่าความหนาแน่นเฉลี่ยเท่ากับ 669.22±0.25 kg/m3 ค่าความชื้นเท่ากับ 8.54±0.33% ค่าการพองตัวทางความหนาเท่ากับ 12.45±0.32 % และมีค่าสมบัติเชิงกล คือ ค่าความต้านทานแรงดัดเท่ากับ 15.41±0.31 MPa ค่ามอดุลัสยืดหยุ่นเท่ากับ 1369±0.32 MPa ค่าความต้านแรงดึงตั้งฉากกับผิวหน้าเท่ากับ 0.74±0.34 MPa และค่าความแข็งแรงการยึดเหนี่ยวของตะปูเกลียวด้านผิวเท่ากับ 368.75±0.33 N ซึ่งแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีที่ใช้กาวทั้งสองชนิดมีสมบัติผ่านมาตรฐาน มอก. 876-2547 ยกเว้นค่ามอดุลัสยืดหยุ่นมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ ไม่น้อยกว่า 1600 MPa และค่าการพองตัวตามความหนาของแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีที่ใช้กาวสังเคราะห์ยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์เรซิน มีค่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ ไม่เกิน 12% นอกจากนี้เมื่อนำแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีไปทดสอบสมบัติเชิงความร้อนตามมาตรฐาน ASTM C 177-2010 พบว่าค่าการนำความร้อนและค่าความต้านทานความร้อนของแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีที่ใช้กาวสังเคราะห์ยูเรียฟอร์มัลดีไฮด์เรซิน เท่ากับ 0.045 w/m.k และ 0.1574 m2.k/w ตามลำดับ ส่วนแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยมะพร้าวผสมต้นธูปฤาษีที่ใช้กาวสังเคราะห์ไอโซไซยาเนตเรซิน ค่าการนำความร้อนและค่าความต้านทานความร้อนเท่ากับ 0.175 w/m.k และ 0.1211 m2.k/w ตามลำดับ | |
| dc.identifier.uri | https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=2733 | |
| dc.identifier.uri | https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12599 | |
| dc.subject | มะพร้าว -- การใช้ประโยชน์ | |
| dc.subject | เส้นใยมะพร้าว | |
| dc.title | การแปรรูปวัสดุเหลือทิ้งจากมะพร้าวเพื่อช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรม |