การเพิ่มศักยภาพพันธ์ข้าวเศรษฐกิจต่อการทนแล้งโดยการปรับปรุงร่วมกับพันธุ์ข้าวท้องถิ่นในพื้นที่ภาคกลาง

dc.contributor.authorยุธยา อยู่เย็น
dc.contributor.authorสุรชาติ สินวรณ์
dc.contributor.authorณัฐบดี วิริยาวัฒน์
dc.contributor.authorธนากร บุญกลํ่า
dc.contributor.authorเฉลิมชัย เเสงอรุณ
dc.date.accessioned2025-04-01T04:20:28Z
dc.date.accessioned2025-09-03T03:46:39Z
dc.date.available2025-04-01T04:20:28Z
dc.date.available2025-09-03T03:46:39Z
dc.date.issued2022
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อปรับปรุงพันธุข้าวเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคกลางให้ต้านทานแล้งในภาวะขาดแคลนนํ้า 2. ผลิตข้าวสายพันธุ์ใหม่ให้มีผลผลิตสูงในช่วงภาวะแห้งแล้งและ 3. เพื่อส่งเสริมข้าวพันธุ์ใหม่ให้เป็นที่รู้จักและต้องการของตลาดทั้งในและนอกประเทศ โดยมีประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย 1. ข้าวแม่พันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ท้องถิ่น 2 สายพันธุ์ ได้แก่ 1) พันธุ์รากแห้ง 2) พันธุ์เหลืองอ่อน และ 2. ข้าวพ่อพันธุ์ ได้แก่ 1) ข้าวสุพรรณบุรี 57 และ 2) ข้าวปทุมธานี 3) ข้าว กข 43 4) ข้าวสุพรรณบุรี 59 และ 5) ข้าวพันธุ์ชัยนาท โดยการปลูกตัวอย่างละ 7 กระถาง และเมื่อได้ข่าวลูกผสม จำนวน 10 คู่ ก็จะแยกปลูกคู่ละ 3 กระถาง รวมทั้งสิ้น 30 ตัวอย่าง เพื่อนำเมล็ดขาวที่ได้มาคัดเลือกและลงปลูกในพื้นที่แปลงทดลองเพื่อขยายพันธุ์ต่อไป โดยใชเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยทั้งอุปกรณ์การเลี้ยงเนื้อเยื่อและอุปกรณ์วิเคราะหการเติบโต ผลผลิต และคุณภาพข้าว และนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ โดยใช้สถิติ วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย และความแปรปรวน ผลการวิจัยมีดังนี้ โดยสายพันธุที่มีความสามารถในการทนแล้งได้ระดับดี ได้แก่ M1F1, M1F2, M1F3, M1F4, M1F5, M2F1 และ M1 และ สายพันธุ์ M1F3 และ M1 มีระดับการฟื้นตัวหลังได้รับน้ำดีที่สุด ส่วนความต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในต้นกล้า พบว่า สายพันธุ์ M1F1, M1F2, M1F3, M1F4, M1F5 มีระดับความต้านทานสูงมาก ส่วนการเติบโตและผลผลิตของข้าวสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งความสูง จำนวนต้นต่อกอ จำนวนรวงต่อกอ จำนวนเมล็ดต่อรวง น้ำหนัก 100 เมล็ด น้ำหนักเมล็ดต่อกอ น้ำหนัก เมล็ดต่อกอ (กรัม) ของทุกสายพันธุ์มีค่าเฉลี่ยแตกต่างกันทุกสายพันธุ์ โดยในด้านส่วนสูง ข้าวสายพันธุ์ M1 มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดเท่ากับ 166.3 เซนติเมตร และผลการทดสอบคุณภาพทางกายภาพและ เคมีของเมล็ดข้าวสายพันธุ์ต่าง ๆ พบว่า อะมิโลส ความคงตัวของแป้งสุก ระยะเวลาในการหุงต้มของทุกสายพันธุ์มีค่าเฉลี่ยแตกต่างกันทุกสายพันธุ์ โดยในส่วนของการวิเคราะห์อะมิโลส พบว่า ขาวสายพันธุ์ F5 มีค่าร้อยละเฉลี่ยสูงที่สุดเท่ากับ 26.79 ความคงตัวของแป้งสุก พบว่า ข้าวสายพันธ์ M1F1 มีค่าเฉลี่ยระยะทางไหลสูงที่สุดเท่ากับ 83.6 มิลลิเมตร และระยะเวลาในการหุงต้ม พบว่า ข้าวสายพันธุ์ M2F5 ให้ค่าเฉลี่ยระยะเวลาหุงต้มสูงสุดเท่ากับ 22.33 นาที
dc.identifier.urihttps://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/11859
dc.publisherมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
dc.subjectข้าว -- เมล็ดพันธุ์
dc.subjectข้าวท้องถิ่น
dc.titleการเพิ่มศักยภาพพันธ์ข้าวเศรษฐกิจต่อการทนแล้งโดยการปรับปรุงร่วมกับพันธุ์ข้าวท้องถิ่นในพื้นที่ภาคกลาง
mods.location.urlhttps://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=3513
Files
Collections