ผลของการตัดข้อสอบที่มีอํานาจจําแนกติดลบออกต่อคะแนนการสอบ และความเชื่อมั่นของข้อสอบทั้งฉบับ: รายวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 1
Journal Title
ผลของการตัดข้อสอบที่มีอํานาจจําแนกติดลบออกต่อคะแนนการสอบ และความเชื่อมั่นของข้อสอบทั้งฉบับ: รายวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 1
Authors
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการศึกษาย้อนหลังจากชุดข้อสอบที่ใช้ในการสอบนักศึกษารายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 1 ชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 1 ในปีการศึกษา 2555 จํานวน 93 คน (กลางภาค) และ 92 คน (ปลายภาค) กลุ่มตัวอย่าง เลือกจากข้อสอบ และคะแนนการสอบของรายวิชาที่มีการวัดและประเมินผลโดยใช้ข้อสอบแบบเลือกตอบ (Multiple choices) 4 ตัวเลือก มี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) คุณภาพของข้อสอบรายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 1 2) การเปลี่ยนแปลงของค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบก่อนและหลังการตัดข้อสอบที่มีค่าอํานาจจําแนกติดลบออกของข้อสอบรายวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 1 3) การเปลี่ยนแปลงของคะแนนการสอบของนักศึกษารายบุคคลก่อนและหลังการตัดข้อสอบที่มีค่าอํานาจจําแนกติดลบออกของข้อสอบรายวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 1 และ 4) การเปลี่ยนแปลงของลําดับคะแนนจากการสอบของนักศึกษาในวิชา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 1 หลังการตัดข้อสอบที่มีค่า r ติดลบออก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ โปรแกรมการวิเคราะหข้อสอบรายข้อ (Items Analysis) สถิติที่ใช้ในงานวิจัย ประกอบด้วย Paired t-test (one-tailed), Wilcoxon Signed- Rank test และ Cronbach’s alpha test ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากข้อสอบรายวิชากายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา 1 กลางภาค จํานวน 70 ข้อ และปลายภาค จํานวน 90 ข้อ พบว่า 1) ในด้านคุณภาพของข้อสอบ เมื่อพิจารณาจากดัชนีความยากง่าย (P) พบว่าข้อสอบ กลางภาค พบว่าค่าดัชนีความยาก (P) ของข้อสอบกลางภาคส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 0.60 - 0.80 (ค่อนข้างง่าย) คิดเป็นร้อยละ 31.42 และอยู่ระหว่าง 0.20 - 0.40 (ค่อนข้างยาก) คิดเป็นร้อยละ 31.42 และในข้อสอบปลายภาค พบว่าค่าดัชนีความยาก (P) ของข้อสอบส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 0.60 - 0.80 (ค่อนข้างง่าย) คิดเป็นร้อยละ 32.22 เมื่อพิจารณาจากค่าอํานาจจําแนก (r) พบว่าค่าอํานาจ จําแนก (r) ของข้อสอบกลางภาคส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 0.20 - 0.39 (จําแนกได้พอใช้) คิดเป็นร้อยละ 38.57 และในข้อสอบปลายภาค พบว่าค่าอํานาจจําแนก (r) ของข้อสอบส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 0.20 0.39 (จําแนกได้พอใช้) คิดเป็นร้อยละ 43.33 2) ในด้านค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบพบว่า มีข้อสอบกลางภาคที่ต้องตัดออก 4 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 5.71 โดยหลังตัดข้อสอบดังกล่าวออกพบว่า ค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบเพิ่มขึ้นจาก 0.825 เป็น 0.838 และมีข้อสอบปลายภาคที่ต้องตัดออก 6 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 6.66 โดยหลังตัดข้อสอบดังกล่าวออกพบว่า ค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบเพิ่มขึ้นจาก 0.804 เป็น 0.826 3) ผลการทดสอบการเปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยที่นักศึกษาได้รับก่อน และหลังการตัดข้อสอบที่มีค่าอํานาจจําแนกติดลบออกโดยสถิติ Pair t-test พบว่า นักศึกษามีการเปลี่ยนแปลง คะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (p value < 0.01) ทั้งในการสอบกลางภาค และปลายภาค 4) ผลการทดสอบการเปลี่ยนแปลงของลําดับคะแนนก่อน และหลังการตัดข้อสอบที่มีค่าอํานาจจําแนกติดลบออก โดยสถิติ Wilcoxon Signed - Rank test พบว่า ลําดับคะแนนที่นักศึกษา ได้รับไม่มีการเปลี่ยนแปลงลําดับที่อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ทั้งในการสอบกลางภาค และปลายภาค
