การจัดกิจกรรมศึกษาองค์ประกอบของขยะในชุมชนของนักศึกษาหลักสูตรสิ่งแวดล้อมเมืองและอุตสาหกรรม

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Usage analytics
Journal Title
การจัดกิจกรรมศึกษาองค์ประกอบของขยะในชุมชนของนักศึกษาหลักสูตรสิ่งแวดล้อมเมืองและอุตสาหกรรม
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อการศึกษาองค์ประกอบทางทางกายภาพและเคมีของมูลฝอย 2) เพื่อการศึกษาประสบการณ์และบทเรียนของนักศึกษาในการทำกิจกรรมกับชุมชน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของชุมชนต่อการดำเนินกิจกรรมการศึกษาองค์ประกอบของมูลฝอย โดยพื้นที่ในการวิจัยและกลุ่มเป้าหมายได้แก่ชุมชนไทยเวียง อ. เมือง จ.นครนายก ซึ่งผลการศึกษา องค์ประกอบทางทางกายภาพและเคมีของมูลฝอยจากแหล่งกำเนิดมูลฝอย 4 แหล่งกำเนิดมูลฝอย ได้แก่ โรงเรียนวัดคีรีวัน วัดคีรีวัน ตลาดสด และแหล่งท่องเที่ยวชุมชนภูไทยเวียง (ภูกระเหรี่ยง) พบว่า มูลฝอยจากแหล่งกำเนิดตลาดสด พบมูลฝอยประเภทเศษอาหารมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 68 มูลฝอยจากแหล่งกำเนิดโรงเรียน พบมูลฝอยประเภทพลาสติกมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 58 มูลฝอย จากแหล่งกำเนิดวัด พบมูลฝอยประเภทไม้/ใบไม้มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 37 และมูลฝอยจาก แหล่งกำเนิดแหล่งท่องเที่ยว พบมูลฝอยประเภทไม้/ใบไม้มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 42 และพบว่า ปริมาณความชื้นของมูลฝอยจากแหล่งกำเนิดตลาดสด คิดเป็นร้อยละ 36.40 เป็นเพียงแหล่งกำเนิด มูลฝอยเดียวที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมพัฒนาที่ดิน เมื่อศึกษาศักยภาพการผลิตปุ๋ยหมักจากมูลฝอย ชุมชน โดยนำมูลฝอยประเภทเศษอาหารมาทำการวิเคราะห์ธาตุอาหารหลัก (N, P, K) ปริมาณ คาร์บอน และอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน พบว่ามูลฝอยประเภทเศษอาหารจากแหล่งกำเนิด 4 แหล่ง ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกรมวิชาการเกษตรทั้ง 5 พารามิเตอร์ จึงเหมาะสมแก่การนำมาผลิตเป็นปุ๋ยหมักได้ และเมื่อศึกษาศักยภาพการผลิตเชื้อเพลิงขยะ โดยนำมูลฝอยที่สามารถเผาไหม้ได้มาทำการวิเคราะห์ พบว่ามูลฝอยที่สามารถเผาไหม้ได้จากแหล่งกำเนิดทั้ง 4 แหล่ง มีความเหมาะสมหรือมีศึกษาศักยภาพในการนำมาผลิตเชื้อเพลิงขยะได้ เนื่องจากมีค่าพลังงานความร้อน DSCV ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมด โดยเชื้อเพลิงขยะจากแหล่งกำเนิด ตลาดสด มีค่าพลังงานความร้อน DSCV เท่ากับ 5,992.60 cal/g สูงสุด ทำให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ดีที่สุด ส่วนการศึกษาศึกษาประสบการณ์และบทเรียนของนักศึกษาในการทำกิจกรรมกับชุมชน นักศึกษาที่ร่วมโครงการทั้ง 8 คน โดยพบว่าร้อยละ 87 มีความเห็นว่า มีความเข้าใจเรื่องการนำกลับมาใช้ใหม่ของมูลฝอยมากขึ้น และได้ฝึกปรับตัวเข้ากับชุมชน และร้อยละ 75 มีความเห็นว่า มีความเข้าใจเรื่องกระบวนการเก็บ การขนส่ง เทคนิคการบำบัด และกำจัดมูลฝอยมากขึ้น นักศึกษาที่ ร้อยละ 62 มีความเห็นว่า มีความเข้าใจเรื่องมาตรการทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับมูลฝอยมากขึ้น และมีความเข้าใจเรื่องการหาค่าความร้อนโดยใช้ Bomb Calorimeter มากขึ้น นอกจากนี้ การวิจัยยังศึกษาความพึงพอใจของชุมชนไทยเวียง อ เมือง จังหวัดนครนายก เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมการศึกษาองค์ประกอบของมูลฝอย จำนวน 50 คน พบว่า ภาพรวมของผู้ตอบแบบสอบถาม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.02 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.67 โดยประเด็นที่ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจในการดำเนินกิจกรรมมากที่สุดเป็นลำดับแรก คือ วิทยากร มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.40 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.56 เป็นความพึงพอใจในระดับมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ความรู้เกี่ยวกับปัญหามลพิษที่เกิดจากขยะมูลฝอย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.30 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเท่ากับ 0.75 เป็นความพึงพอใจในระดับมากที่สุด และสถานที่ในการจัดกิจกรรมค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.20 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.61 เป็นความพึงพอใจในระดับมากที่สุด