ระบบและกลไกการพัฒนาที่สะอาดด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมผลิตข้อต่อเหล็กเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Views
Views1
Usage analytics
Journal Title
ระบบและกลไกการพัฒนาที่สะอาดด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมผลิตข้อต่อเหล็กเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก
Recommended by
Abstract
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาดัชนีชี้วัดด้านทรัพยากรธรรมชาติประกอบด้วย การใช้น้ำและพื้นที่สีเขียวของโครงการ และดัชนีชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย ความสกปรกในน้ำทิ้ง น้ำใต้ดิน ก๊าซเรือกกระจก สารมลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง ของเสีย/ของเสียอันตราย และมลพิษทางดิน ของโรงงานอุตสาหกรรมผลิตข้อต่อเหล็กต้นแบบ คือ บริษัท บีสไพพ์ ฟิตติ้งอินดัสตรี จำกัด
ผลการศึกษาดัชนีชี้วัดด้านทรัพยากรธรรมชาติ พบว่า การใช้น้ำของโครงการ มี 2 ชนิด คือ น้ำบาดาล และน้ำประปา มีปริมาณการใช้น้ำบาดาลมากกว่าปริมาณการใช้น้ำประปาในกระบวนการผลิต เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่า พื้นที่สีเขียวภายใต้โครงการมีจำนวนน้อยมากจึงควรปลูกต้นอโศกอินเดีย (Polyalthia longifolia) เพื่อลดปริมาณฝุ่นและเสียงดังจากกระบวนการผลิต
ผลการศึกษาดัชนีชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม พบว่า การศึกษาความสกปรกของน้ำทิ้งทางกายภาพ โดยใช้ดัชนีปริมาณของแข็งละลายน้ำทั้งหมด (TDS) และทางเคมี โดยใช้ดัชนีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH),ค่าน้ำมันและไขมัน (O&G), ค่าไซยาไนด์ (Cyanide) และค่าโลหะหนัก ได้แก่ เหล็ก (Fe),โครเมียมชนิดเฮ็กซาวาเล้นท์ (Cr 6+), ตะกั่ว (Pb), สังกะสี (Zn), และแมงกานีส (Mn) มีค่าเกินมาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2539) ลงวันที่ 3 มกราคม 2539 เรื่องกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากแหล่งกำเนิดประเภทโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำจึงควรจัดการน้ำเสียอย่างเหมาะสม ก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ การศึกษาน้ำใต้ดิน พบว่า มีค่าเหล็ก (Fe) ที่เกินค่ามาตรฐานตามประกาศกรมทรัพยากรน้ำใต้ดิน ฉบับที่ 20 (พ.ศ.2543) เรื่องกำหนดค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำใต้ดิน การศึกษาปริมาณก๊าซเรือกกระจก คือ ก๊าซซัลเฟอร์-ไดออกไซด์ ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์มีค่าเฉลี่ยไม่เกินมาตรฐานตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องกำหนดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงงาน พ.ศ. 2549 การศึกษาสารมลพิษทางอากาศ พบว่า บริเวณแผนกเคาะเลือก และโม่ทรายเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นรวมและฝุ่นขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ส่วนบริเวณแผนกเจียรนัยเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน การศึกษามลพิษทางเสียง พบบริเวณแผนกเคาะมีเสียงเกินค่ามาตรฐาน การศึกษาของเสีย/ของเสียอันตราย พบว่า มีกากของเสียที่เป็นอันตราย ได้แก่ เศษอะลูมิเนียม เศษเหล็ก เศษน้ำเหล็ก ฝุ่นเหล็ก และขี้เจีย บริษัทมีการกำจัดโดยการนำกลับไปใช้ใหม่ในกระบวนการผลิต และรวบรวมเพื่อให้บุคคลภายนอกมารับซื้อ ส่วนกากของเสียที่ไม่อันตราย ได้แก่ ชิ้นงานที่ไม่ได้คุณภาพ เศษตะกรัน ทรายดำ เศษอิฐทนไฟ ทรายแบบเม็ดทราย (เม็ดเหล็ก) ขี้โลหะสังกะสี ขี้กลึง ถุงพลาสติก แกนในของเทปกาว กระสอบเสีย ผ้าเช็ดชิ้นงาน โรงงานมีการกำจัดโดยนำกลับไปใช้ใหม่ในกระบวนการผลิต และรวบรวมเพื่อให้บุคคลภายนอกมารับซื้อ และการศึกษามลพิษทางดิน พบว่า มีค่าเฉลี่ยไม่เกินมาตรฐานตามประกาศกรมทรัพยากรธรณี ฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2547) เรื่องกำหนดมาตรฐานคุณภาพดิน ดังนั้น จึงควรมีการปรับปรุงกระบวนการชุบโลหะโดยประยุกต์ใช้วิธีการซิกซ์ ซิกม่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตและลดมลพิษทั้งมลพิษทางน้ำ ของเสีย/ของเสียอันตราย มลพิษทางดิน มลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง จากกระบวนการผลิตและกระบวนการชุบโลหะของบริษัท และยังสามารถคืนกำไรต่อองค์กรได้ และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย