การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สุขภาพในสุคนธบำบัดและสปาแบบไทยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย

Default Image
Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
Views
Views15
Usage analytics
Journal Title
การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สุขภาพในสุคนธบำบัดและสปาแบบไทยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทย
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (2) เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการบริหารจัดการ และการตลาด รวมถึงปัญหาและอุปสรรคของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (3) เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสํารวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ (4) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการใช้ผลิตภัณฑ์ของสุคนธบําบัดและสปา ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (5) เพื่อหาแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทยอย่างยั่งยืน ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ (1) ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ และธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพ (2) นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางมาใช้บริการ สถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพและนวดเพื่อสุขภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบสอบถาม พฤติกรรม แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบสอบถามความพึงพอใจ และแบบบันทึกข้อมูลทางคลินิก สถิติที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน รวมทั้ง การวิเคราะห์ เนื้อหาผลการวิจัยมีดังนี้ (1) ผลการประเมินตนเองด้านความพร้อมของผู้ประกอบกิจการสปา เพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อสุขภาพ พบว่า ผู้ประกอบการมีความพร้อมในด้านบุคลากรมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านสถานที่และสิ่งแวดล้อม และด้านบริหารจัดการ ตามลําดับ ผู้ประกอบการไม่มีความพร้อมในด้านการบริการมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านผลิตภัณฑ์ เครื่องมือและอุปกรณ์ (2) ผลการวิเคราะห์วิธีการบริหารจัดการที่ธุรกิจสปาใช้ พบว่า ธุรกิจสปาในจังหวัดชลบุรีมีวิธีการบริหารจัดการ โดยเน้นในเรื่องบุคลากร จะจัดฝึกอบรมให้พนักงาน มีความรู้เกี่ยวกับการทําสปา เพื่อให้ความรู้แก่ลูกค้าได้ฝึกอบรมมารยาทพนักงาน ให้ใส่ใจรายละเอียดของลูกค้า คัดเลือกพนักงานที่มีประสบการณ์และชํานาญมาทํางานในเรื่องวัสดุ จะเลือกและใช้สมุนไพรแท้ที่มีคุณภาพสูงมาใช้ ในเรื่องเงิน จะใช้ลงทุน ในการประชาสัมพันธ์การบริการของร้านในทุกรูปแบบ เพื่อให้เป็นที่รู้จักของลูกค้า ส่วนในเรื่องการจัดการ จะเน้นที่การให้พนักงานให้บริการตามมาตรฐานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดให้มีคอร์สบริการ หลากหลาย และจ่ายค่าตอบแทนให้พนักงานอย่างเป็นธรรม คือได้เงินเดือนและส่วนแบ่งพิเศษ (3) ผลการวิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พบว่า ปัจจัยสําคัญในการเลือกใช้บริการสปาเพื่อสุขภาพและความงามของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คือ ราคาที่เหมาะสม โปรแกรมสุขภาพที่เลือกใช้บริการในปัจจุบัน คือ สปา โปรแกรมสุขภาพที่มีความสนใจที่จะเลือกใช้บริการ คือ โปรแกรมลดนํ้าหนัก ช่องทางค้นหาข้อมูลที่เลือกใช้ คือ อินเตอร์เน็ต ผู้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเข้าใช้บริการสปา คือ ตนเองพฤติกรรมในการเข้าใช้บริการ คือ ไปใช้เป็นกลุ่มเล็ก 2-3 คน ในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยมีความถี่ในการใช้บริการ 1-2 ครั้งต่อเดือน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าใช้บริการ เดย์สปา รูปแบบการนวดในสปาที่เข้าใช้บริการ คือ นวดตัว (นวดไทย นวดนํ้ามันหอมระเหย นวดสมุนไพร และลูกประคบ) ผลิตภัณฑ์สปาเพื่อผิวพรรณที่กลุ่มตัวอย่างชื่นชอบ คือ สมุนไพรสด รูปแบบของการตกแต่งสปาที่มีความต้องการ คือ แบบธรรมชาติ ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกผลิตภัณฑ์สปาของกลุ่มตัวอย่าง คือ ความมีมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการสปาในแต่ละครั้ง จํานวน 500-1,000 บาทต่อครั้ง มีความสนใจในโปรโมชั่นที่ผู้ให้บริการสปา ได้แก่ ลดราคา (4) ผลการศึกษาประสิทธิผลของการใช้ผลิตภัณฑ์ของสุคนธบําบัดและสปา ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลุ่มที่หนึ่ง จํานวน 29 คน ณ สถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพในกรุงเทพมหานคร พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ ได้รับบริการนวดไทย นวดอโรมาด้วยนํ้ามันตะไคร้ และนวดนํ้ามันด้วยนํ้ามันเมล็ดอัลมอนด์ มีค่าร้อยละการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ โดยความดันโลหิตซิสโตลิก มีค่าเฉลี่ย 3.40+14.07, 1.66+13.64, 1.00+7.47 ตามลําดับ ความดันโลหิตไดแอสโตลิกมีค่าเฉลี่ย -40.92+10.93,-40.4 +10.13, -41.21+7.37 ตามลําดับ และชีพจรมีค่าเฉลี่ย 0.07+10.37, -0.47+10.3 ,1.67+13.05 ตามลําดับ กลุ่มที่ 2 จํานวน 40 คน ณ สถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ ในจังหวัดชลบุรี พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับบริการนวดอโรมาด้วยนํ้ามันหอมระเหยสูตรผสม และนวดนํ้ามัน ด้วยนํ้ามันนําพาสูตรผสม มีค่าร้อยละการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ โดยความดันโลหิตซิสโตลิกมีค่าเฉลี่ย - .03+4.51 และ -1.47+5.50 ความดันโลหิตไดแอสโตลิกมีค่าเฉลี่ย -4.3 +10.50 และ 2. 3+16.7 ชีพจรมีค่าเฉลี่ย -9.76+5. และ -3.61+5.55 และอัตราการหายใจ มีค่าเฉลี่ย-15.50+13.27 และ -13.49+11.33 (5) ผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้บริการสปาเพื่อสุขภาพและความงาม สามารถสรุปแนวทางการจัดการธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพและความงาม เพื่อพัฒนาศักยภาพการแข่งขันในเชิงธุรกิจ จําแนกตามส่วน ประสมทางการตลาด Ps ได้แก่ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ด้านราคา ด้านสถานที่ใช้บริการ ด้านช่องทางการจัดจําหน่าย ด้านบุคลากร ด้านส่งเสริมการตลาด ด้านกระบวนการ ด้านการสร้างและนําเสนอลักษณะทางกายภาพ
Description
Citation
View online resources
Collections