ความต้องการพัฒนาตลาดท่องเที่ยวในอนาคตของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน : กรณีศึกษาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
Views
Views3
Usage analytics
Journal Title
ความต้องการพัฒนาตลาดท่องเที่ยวในอนาคตของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน : กรณีศึกษาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี
Authors
Recommended by
Abstract
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นคว้าให้เป็นศูนย์ข้อมูลความรู้ที่ชุมชนจะนํามาจัดการกับการ ท่องเที่ยวในการศึกษาภาคสนามในด้านต่าง ๆ กล่าวคือ การแสวงหาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด ทางการพัฒนาลาดท่องเที่ยวในอนาคต ทั้งเข้าใจถึงเจตคติทางการพัฒนาตาดท่องเที่ยวในอนาคตและต่อการพัฒนาตลาดท่องเที่ยว รวมทั้งทักษะการสืบเสาะ การพัฒนาตลาดท่องเที่ยว ทั้งในรูปตลาดสินค้า และบริการ ตลอดจนทักษาการทํางานร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนในชุมชนนอกจากนี้ ยังศึกษา ถึงความต้องการพัฒนา อนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้คนในชุมชนเป็นฐาน (Community-based Tourism)
ผลการวิจัยพบว่า การจะพัฒนาตลาดท่องเที่ยวในอนาคตให้ประสบความสําเร็จได้นั้นต้อง อาศัยการบูรณาการที่สมบูรณ์แบบด้วยการนําเอาทฤษฎีการพัฒนาธุรกิจ การท่องเที่ยว องค์ความรู้ ใหม่ ๆ เทคนิควิธี นวัตกรรมการท่องเที่ยวใหม่เข้ามาผสมผสานกันไปพร้อมกับความเป็นไปในการ ดําเนินชีวิตของคนในชุมชุน เพื่อกระตุ้นทั้งนักทัศนาจร นักท่องเที่ยว และคนในชุมชนเอง ทั้งปรับปรุง ระบบระเบียบการบริหารสมัยใหม่เข้าร่วมด้วย เพื่อสร้าง “การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน”ปรับปรุง เพื่อความมีศักยภาพ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล รวมทั้งความมีประสิทธิภาพในการจัดการทุกด้านให้ เพียบพร้อม อาศัยแก่นรากทางวัฒนธรรม มรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นอยู่มาเป็นปัจจัยนําในการ “ขายวัฒนธรรมไทย” สู่สังคมโลก อันจะเป็น “ปัจจัยกระตุ้น”ทางการท่องเที่ยวอย่างชาญฉลาด แสน วิเศษ นํารายได้ การสร้างอาชีพใหม่ ๆ เข้าสู่คนในชุมชน การประชาสัมพันธ์ก็เป็นปัจจัยที่สําคัญยิ่ง ดังเช่นที่ ททท.ได้กระทําอยู่ด้วยการจัดกิจกรรมนานาประเภท เพื่อสร้าง “จุดขายเชิงวัฒนธรรมไทย” แก่ชาวโลก ดังนั้น เพื่อการฟื้นฟู กระคุ้น สร้างพลังเชิญชวนการท่องเที่ยวสู่คนในชุมชนได้ดีนั้น คณะผู้วิจัยได้สร้าง”นวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์เอกสารวิจัย” ทั้งนี้เพื่อเพิ่มพลังศักยภาพ แรงจูงใจทางการ ท่องเที่ยว องค์ความรู้ใหม่ แรงดึงดูดใจ การรับรู้สิ่งแปลกใหม่ใน “นวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์” (Creative Innovation for Research Documentation) ให้กระจายออกสู่สังคม ชุมชนโลกเพื่อ “การท่องเที่ยวเชิง วัฒนธรรม” (Culture-based Tourism) จนกลายเป็นพละพลัง ศักยภาพและผลสําเร็จทางการท่องเที่ยวได้สําเร็จในอนาคตไม่ช้านี้แก่ทั้งสองจังหวัด ส่วนการค้นพบจุดด้อย จุดอ่อนความล้าสมัยในสังคมชุน ชนนั้น ๆ ก็ควรค่อยดําเนินการปรับเปลี่ยนไปในวิถีชีวิตผู้คนในชุมชน ควบคู่พร้อมกันไปทั้งสองด้าน:ด้าน จิตใจและวัตถุธรรมแห่งการบูรณาการในที่สุด จนกระทั่งประสบความเจริญ ความรุ่งเรือง ความก้าวหน้า ด้านการท่องเที่ยวโดยมี“ชุมชนเป็นฐาน”(Community-based Tourism) ในที่สุด