รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยใช้โมบายช่วยเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชันยูทูปและติ๊กต๊อกสำหรับผู้เรียนเจเนอเรชันซี

dc.contributor.authorรัตนา กลิ่นจุ้ย
dc.date.accessioned2025-04-01T04:20:28Z
dc.date.available2025-04-01T04:20:28Z
dc.date.issued2022
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความต้องการในรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้โมบายช่วยเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชันยูทูปและติ๊กต๊อกสำหรับผู้เรียนเจเนอเรชันซี 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้โมบายช่วยเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชันยูทูปและติ๊กต๊อกสำหรับผู้เรียนเจเนอเรชันซี 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยใช้โมบายช่วยเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชันยูทูปและติ๊กต๊อกสำหรับผู้เรียนเจเนอเรชันซี กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษในชั้นเรียนปฐมวัย ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 12 คน การวิจัยนี้ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามความเห็นและความต้องการในการพัฒนาทักษะการสื่อสารโดยใช้แอปพลิเคชันยูทูปและติ๊กต๊อกสำหรับผู้เรียนเจเนอเรชันซี 2) แบบประเมินคุณภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้โมบายช่วยเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชันยูทูปและติ๊กต๊อกสำหรับผู้เรียนเจเนอเรชันซี 3) แบบประเมินทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักศึกษาระดับปริญญาตรี และแบบประเมินความคิดเห็นของนักศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยการหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่าสถิติ t-test ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา และบรรยายพรรณนา ผลการวิจัย 1) ผู้เรียนกลุ่มเจเนอเรชันซีมองว่าการเรียนเครื่องมือบนโมบายยังมีส่วนช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกการออกเสียง ในหลากหลายรูปแบบจากการใช้เครื่องมือหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ มีความสะดวกในการใช้งานจากการเรียนผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ทำให้ไม่มีข้อจำกัด ด้านสถานที่และเวลา 2) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีคุณภาพเฉลี่ยโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 3) ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น พบว่า นักศึกษามีระดับทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษด้านการฟังและการพูดที่สูงขึ้น โดยทักษะด้านการฟังก่อนการทดลองใช้รูปแบบฯ ร้อยละ 57.84 อยู่ในระดับต่ำ และหลังการทดลองใช้รูปแบบฯ ร้อยละ 82.66 อยู่ในระดับมาก และมีทักษะการพูดภาษาอังกฤษสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการทดสอบการพูดทั้งสามครั้ง โดยมีเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 โดยครั้งที่ 1 ได้ร้อยละ 73.33 อยู่ในระดับดี ครั้งที่ 2 ได้ร้อยละ 78.33 อยู่ในระดับดี และครั้งที่ 3 ได้ร้อยละ 85.42 อยู่ในระดับดีมาก ระดับความคิดเห็นต่อรูปแบบการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นในระดับที่เห็นด้วยมากที่สุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมและสามารถนำไปใช้พัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ให้สูงขึ้น
dc.identifier.urihttps://repository.dusit.ac.th//handle/123456789/5815
dc.publisherมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
dc.subjectโมบายช่วยเรียนภาษา
dc.subjectแอปพลิเคชันยูทูป
dc.subjectแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก
dc.titleรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยใช้โมบายช่วยเรียนภาษาผ่านแอปพลิเคชันยูทูปและติ๊กต๊อกสำหรับผู้เรียนเจเนอเรชันซี
mods.location.urlhttps://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=4003
Files
Collections