การพัฒนาชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่ม

Date
ISBN
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Resource Type
Publisher
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
Views
Views1
Usage analytics
Journal Title
การพัฒนาชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่ม
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่ม 2) เพื่อหาความเหมาะสมของการพัฒนาชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่ม วิธีดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 สร้างและพัฒนาชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่ม โดยศึกษาและวิเคราะห์เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กพิการทางสมอง สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาพิเศษ ด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพเด็กพิการทางสมอง ด้านการสอนเด็กพิการทางสมอง และด้านการกายภาพบำบัด รวมทั้งสัมภาษณ์ผู้ปกครอง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบบันทึกการให้คำสัมภาษณ์ นำข้อมูลที่ได้มาผลิตชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่ม ขั้นตอนที่ 2 หาความเหมาะสมของชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่มและค่าความเหมาะสมของแผนกิจกรรม ด้วยแบบประเมินค่าความเหมาะสม 5 ระดับ เป็นเครื่องมือการวิจัยกับผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดลองกับประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ปกครองและเด็กปฐมวัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี ที่มีความพิการทางสมอง คณะวิจัยคัดเลือกแบบเจาะจง จากศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา 11 จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 2 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ป่วยอยู่ที่บ้านและได้รับการวินิจฉัยทางการแพทย์ว่ามีสมองพิการเพื่อรับบริการ ผลการวิจัยมี ดังนี้ 1. ผลการสร้างและการพัฒนาชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่มได้ชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่ม ได้แก่ เอกสารคู่มือการใช้ชุดส่งเสริมพัฒนาการ เอกสารให้ความรู้ผู้ปกครอง แผนกิจกรรมฝึกส่งเสริมพัฒนาการสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ ป้ายภาพสาธิตการฝึกกิจกรรมของเล่นเด็ก กระเป๋าใส่เอกสารและอุปกรณ์ โดยมีวิธีดำเนินกระบวนการใช้ ได้แก่ ขั้นเตรียมการ ขั้นสร้างความเข้าใจ ขั้นปฏิบัติจริง และขั้นบันทึกผล 2. ผลการหาความเหมาะสมของชุดส่งเสริมพัฒนาการเด็กพิการทางสมองในระยะแรกเริ่มประกอบด้วย ความเหมาะสมของคู่มือ และชุดส่งเสริมพัฒนาการอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3.80 - 4.80 ความเหมาะสมของแผนกิจกรรมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีคาเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00 - 4.60 และผลความพึงพอใจของผู้ปกครองระดับมากถึงมากที่สุด มีคาเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00 - 5.00