การจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืนในเขตกรุงเทพมหานคร กรณีศึกษาขยะบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัว (Flexible Packaging Waste)
Journal Title
การจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืนในเขตกรุงเทพมหานคร กรณีศึกษาขยะบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัว (Flexible Packaging Waste)
Authors
Recommended by
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาองค์ประกอบและสัดส่วนของขยะมูลฝอยรวมและขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวประเภท HDPE, LDPE และ PP และศึกษาความรู้ ความคิดเห็นและเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่า องค์ประกอบขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว ในเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในวันทำการพบบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวมากที่สุด ในแหล่งกำเนิดบ้านเดี่ยว 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะของใช้ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติก ไม่ว่าจะเป็น ภาชนะบรรจุอาหาร และถุงหูหิ้ว จากการซื้อของต่างๆ วันหยุด พบบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวมากที่สุด ในแหล่งกำเนิดบ้านในชุมชน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะการจับจ่ายซื้อของในวันหยุด ส่วนใหญ่จะพบ ถุงหูหิ้ว องค์ประกอบขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว ในเขตบางพลัด วันทำการพบบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวมากที่สุด ในแหล่งกำเนิดมหาวิทยาลัย 90.62 เปอร์เซ็นต์ เพราะนักศึกษาเน้นความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหาร เช่น การเลือกบริโภคข้าวกล่องเข้าไมโครเวฟ เพื่อประหยัดเวลาในการต่อคิวซื้ออาหาร วันหยุด พบบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวมากที่สุดในแหล่งกำเนิด โรงแรม 93.92 เปอร์เซ็นต์ เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกของห้องพักในโรงแรมเป็นบรรจุภัณฑ์ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง รวมไปถึงสินค้าที่ผู้เข้าพักซื้อมารับประทาน จะพบซองขนมขบเคี้ยว ถุงหูหิ้ว และสัดส่วนของขยะมูลฝอยรวมและขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว ในเขตดุสิต อัตราส่วนขยะพลาสติกต่อขยะมูลฝอยรวม มากที่สุด คือ บ้านเดี่ยว ขยะมูลฝอยรวม 1 ส่วน มีขยะพลาสติก 7 ส่วน อัตราส่วนของขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวต่อขยะมูลฝอยรวม มากที่สุด คือ บ้านเดี่ยว ขยะมูลฝอยรวม 1 ส่วน มีขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกอ่อนตัว 9.40 ส่วน และอัตราส่วนของขยะบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัวต่อขยะพลาสติก มากที่สุด คือ สำนักงาน ขยะพลาสติก 1 ส่วน มีขยะ บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว 1.77 ส่วน สัดส่วนของขยะมูลฝอยรวมและขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว ในเขตบางพลัด อัตราส่วนขยะพลาสติกต่อขยะมูลฝอยรวมมากที่สุด คือ บ้านในชุมชน ขยะมูลฝอยรวม 1 ส่วน มีขยะพลาสติก 3.84 ส่วน อัตราส่วนของขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวต่อขยะมูลฝอยรวม มากที่สุด คือ สำนักงานขยะมูลฝอยรวม 1 ส่วน มีขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว 4.92 ส่วน และอัตราส่วนของขยะบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัวต่อขยะพลาสติก มากที่สุด คือ สำนักงาน ขยะพลาสติก 1 ส่วน มีขยะ บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว 1.97 ส่วน พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 20-30 ปี อยู่ในระดับการศึกษาปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน รายได้อยู่ระหว่าง 10,001-20,000 บาท/เดือน กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวจะบริโภคสินค้าประเภทอาหารเพราะอาหารสินค้าที่กลุ่มตัวอย่างได้บริโภคนั้นส่วนใหญ่เป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว ประเภท HDPE เลือกซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อ มีความถี่ในการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวมากกว่า 5 ครั้ง/สัปดาห์ ในหนึ่งวันมีปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว จำนวน 1-10 ชิ้นมีความรู้ด้านการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวอยู่ในระดับความรู้สูง อย่างมีนัยสำคัญ 0.05 ส่วนใหญ่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อบทบาทของรัฐที่อยากให้ปรับปรุงแก้ไขด้านบรรจุภัณฑ์ เห็นด้วยกับปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคาปัจจัยด้านลักษณะบรรจุภัณฑ์ แต่มีความความคิดเห็นที่ไม่แน่ใจต่อปัจจัยด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะคือ ควรมีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัว เพื่อชี้ให้เห็นถึงประโยชน์และโทษแท้จริง และแนะนำวิธีการจัดการอย่างถูกวิธีและเกิดประโยชน์สูงสุด ควรมีการรณรงค์เกี่ยวกับการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนตัวให้มากขึ้น และควรเลือกใช้ทรัพยากรในการผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัวที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย
