EDU-Research Report
Permanent URI for this collection
Browse
Recent Submissions
Item ความคาดหวังและความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา(วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย, 2021) สุทธิพรรณ ธีรพงศ; นิฤมล สุวรรณศรี; ทิพย์ ขำอยู่; จิราพร รอดพ่วง; นงเยาว์ นุชนารถงานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา และ 2) เพื่อศึกษาความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อสมรรถนะและคุณลักษณะของมหาบัณฑิต หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา กลุ่มเป้าหมายได้แก่ บุคลากรจากหน่วยงานส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ส านักงานการจัดการศึกษากรุงเทพมหานคร สำนักงานการจัดการศึกษา กรมการปกครองท้องถิ่น และองค์กรอิสระที่ท าหน้าที่รับผิดชอบคุณภาพการจัดการศึกษา จ านวน 360 คน และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ทางด้านการบริหารจัดการการศึกษาปฐมวัยและการประถมศึกษา หรือผู้มีประสบการณ์ทางการบริหารจัดการการศึกษาในโรงเรียนที่จัดการศึกษาในระดับการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา หรือผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต ปีการศึกษา 2563 จำนวน 38 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย เป็นแบบสำรวจความต้องการเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการจัดการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา และแบบส ารวจความต้องการของผู้ประกอบการที่มีต่อหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาการจัดการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า 1) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีคาดหวังต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา อันดับแรก คือ การเป็นผู้บริหารที่นำสถานศึกษาให้ผ่านเกณฑ์คุณภาพ รองลงมา คือ การเป็นผู้บริหารที่มีภาวะผู้น าและสามารถชี้นำสังคม และการเป็นผู้บริหารที่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมบนฐานงานวิจัยและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการบริหารทรัพยากร และ 2) ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อสมรรถนะที่จำเป็นของมหาบัณฑิตหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษาอันดับแรก คือ สมรรถนะด้านความมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ รองลงมา คือ สมรรถนะด้านการทำงานเป็นทีมและด้านการเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ และสมรรถนะด้านการพัฒนาตนเอง ส่วนความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อคุณลักษณะของมหาบัณฑิตหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการศึกษาปฐมวัยและประถมศึกษา อันดับแรก คือ มีคุณธรรม และจริยธรรม รองลงมา คือ ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการการศึกษา และมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการItem กิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่สำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น ระดับปฐมวัย(มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2019) จรินทร์ ภู่ระหงษ์การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ความสามารถในการใช้ทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น หลังจากการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวและ 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการใช้ทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น กําลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นเตรียมความพร้อม กลุ่มงานบริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มเด็กพิการและ ครอบครัว ศูนย์การศึกษาพิเศษ โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จํานวน 5 คน เลือกแบบเจาะจงโดยทําการทดลองเป็นรายบุคคล เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ แผนการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหว และแบบประเมินทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ 3 ด้าน จากแบบประเมินทักษะตามแบบประเมินพัฒนาการเด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น 0-6 ปี ของศูนย์การศึกษาพิเศษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (2549) ดําเนินการทดลองตามแบบแผนการทดลองแบบ One Group Pretest-Postest สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบก่อน-หลังการทดลอง The Wilcoxon Matched Paris Signed-Ranks TestItem แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามบริบทไทย(มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2023) พรชุลี ลังกา; นิศารัตน์ อิสระมโนรส; พรรัก อินทามระ; ปุณยวีร์ จิโรภาสวรพงศ์; เอื้ออารี จันทรสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทยสามารถเลือกและปรับใช้แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยได้อย่างอิสระและเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการเลือกแนวทางดังกล่าว โดยคำนึงถึงการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมหรือพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้รับการพัฒนาอย่างรอบด้านตามวัย ทั้งนี้ การจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแต่ละแห่งขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมในหลาย ๆ ด้าน เช่น ความสนใจ และความสามารถของเด็ก ทักษะ สมรรถนะ และแนวคิดทางปรัชญาของครูและผู้บริหารสถานศึกษา หลักสูตรสภาพจริงของการเรียนรู้ของเด็ก รวมถึงบริบทของชุมชน เป็นต้น การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภายใต้อุดมการณ์หรือการยึดมั่นในหลักทฤษฎีสำหรับการเลือกแนวทางของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยของไทยมีความหลากหลาย บางแห่งดำเนินการตามอุดมการณ์และนำแนวทางที่เลือกแล้วมาปรับใช้ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในสถานศึกษาของตนเป็นเวลานานจนสามารถเห็นผลสำเร็จในระยะยาว ตัวอย่างแนวทางการการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ได้ถูกนำมาใช้ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยต่าง ๆ ทั่วไปประเทศ เช่นแนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบไฮสโคป (High/Scope Approach) แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบวอลดอร์ฟ (Waldorf Approach) แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบมอนเตสซอรี่(Montessori Approach) แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบโครงการ (Project Approach)แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ