ดุษฎี ทรัพย์บัว2025-08-132025-09-032025-08-132025-09-03https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=2370https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12102การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของอัตราส่วนระหว่างดอกดาหลาและเวลาในการชงชาที่มีต่อปริมาณโพลีฟีนอลโดยรวม ปริมาณแอนโทไซยานิน ปริมาณวิตามินซี และฤทธิ์การต้านออกซิเดชันและการยอมรับของผู้บริโภค โดยนำกลีบดอกดาหลามาอบแห้งแล้วนำมาบดด้วยเครื่องปั่น จากนั้นนำมาบรรจุในซองชาเยื่อกระดาษสำเร็จรูปขนาด 2 และ 5 กรัม และนำซองชาดังกล่าวชงด้วยน้ำเปล่าที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาในการชงชา 5 และ 10 นาที พบว่า ชาดาหลา 5 กรัม ชง 10 นาที มีปริมาณโพลีฟีนอล ปริมาณวิตามินซี ปริมาณแอนโทไซยานิน และปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เท่ากับ 202.56 mg GAE/100 g dry weight, 59.54 mg/100g dry weight, 0.89 mg/100g dry weight และ 667.26 µM TE/g dry weight ตามลำดับ และการทดสอบทางประสาทสัมผัสด้านสี กลิ่น รสชาติ และความชอบโดยรวม พบว่าชาดาหลา 5 กรัม ใช้เวลาชง 5 และ 10 นาที ได้รับคะแนนความชอบทางประสาทสัมผัสด้านสี กลิ่นสูงที่สุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และชาดาหลา 5 กรัม ใช้เวลาชง 5 และ 10 นาที และชาดาหลา 2 กรัม ใช้เวลาชง 10 นาทีได้รับคะแนนความชอบทางประสาทสัมผัสด้านความชอบโดยรวมที่สุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตามชาดาหลาในทุกสิ่งทดลองได้รับคะแนนความชอบด้านรสชาติที่ไม่แตกต่างกันทางสถิติและมีคะแนนความชอบค่อนข้างน้อยโดยอยู่ในช่วงระดับความชอบเฉย ๆ ดังนั้นผู้วิจัยแนะนำให้ปรุงแต่งรสชาติของชาดาหลาด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้งก่อนบริโภคเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมขึ้นชา -- พฤติกรรมผู้บริโภคดอกดาหลา -- ประโยชน์พฤติกรรมผู้บริโภคการชงชาผลของการชงชาต่อปริมาณสารต้านออกซิเดชันและการยอมรับของผู้บริโภคของน้ำชาจากดอกดาหลา