ศุภศิริ บุญประเวศ2025-08-152025-09-032025-08-152025-09-03https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1382https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/11954การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษารูปแบบการเขียนสื่อความของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน 2) เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสื่อความของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยินโดยใช้แผนผังความคิด ประชากรคือ นักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ม.สวนดุสิต ปีการศึกษา 2557 จำนวน 56 คน กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ม. สวนดุสิต ปีการศึกษา 2557 จำนวน 30 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสื่อความสำหรับนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน จำนวน 15 แผ่น 2) แบบทดสอบปรนัยก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องการเขียนสื่อความ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการเขียนสื่อความของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน สถิติที่ใช้ในงานวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย (test แบบ Dependent ผลการวิจัยมีดังนี้ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ค่า t 1) ผลการศึกษารูปแบบการเขียนสื่อความของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน พบว่า นักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยินที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ การเขียนโดยขาดคำเชื่อม การเขียนกลับคำ การเขียนโดยเรียงคำผิดหลักภาษา การเขียนคำสั้นๆ การเขียนโดยใช้คำผิดความหมาย และการเขียนโดยใช้คำฟุุมเฟือย 2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องการพัฒนาทักษะ การเขียนสื่อความของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน พบว่านักศึกษาที่มีความบกพร่อง ทางการได้ยินมีคะแนนเฉลี่ยของคะแนนการทดสอบผลสัมฤทธิ์ด้านการเขียนสื่อความหลังเรียนสูง กว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 4) ความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการเขียนสื่อความของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน พบว่า ความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการเขียนสื่อความของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยินอยู่ในระดับมากการศึกษาพิเศษเด็กบกพร่องทางการได้ยินหูหนวกการได้ยินการเขียนสื่อความการพัฒนาทักษะการเขียนสื่อความของนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน