ฐิตินาถ สุคนเขตร์ | ศุภวรรณ ตันตยานนท์ | พีรยุทธ เจริญธมะสุข2025-08-192025-09-032025-08-192025-09-03https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1212https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12173การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมตัวเร่งปฏิกิริยานิกเกิลบนตัวรองรับฐานซีเรียมเซอร์โคเนี่ยมออกไซด์ทั้งแบบไบนารีและเทอร์นารี่ ซึ่งถูกเตรียมด้วยวิธีการตกตะกอนร่วมแบบมีสารลดแรงตึงผิว ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ได้จะถูกตรวจสอบสมบัติด้วยเทคนิคการดูดซับทางกายภาพด้วยไนโตรเจน การเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์ และการรีดักชันแบบโปรแกรมอุณหภูมิ จากผลการทดลองพบว่าตัวเร่งปฏิกิริยาแบบไบนารีจะมีพื้นที่ผิวมากกว่าแบบเทอร์นารี่ ทั้งสองแบบมีโครงสร้างผลึกแบบลูกบาศก์ และมีอุณหภูมิรีดักชันประมาณ 700 องศาเซลเซียส ตัวเร่งทั้งสองชนิดนี้ได้ถูกนามาใช้ในการสังเคราะห์คาร์บาเมต ซึ่งในปฏิกิริยาที่ใช้นั้นประกอบไปด้วยสารประกอบเอมีน สารประกอบบิวทิวโบรไมด์ ร่วมกับ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผลิตภัณฑที่ได้จะถูกพิสูจน์เอกลักษณ์ด้วยเทคนิคอินฟาเรดสเปกโทรสโกปี นิวเคลียร์แมกเนติกเรโซแนนซ์สเปกโตรสโกปี และก๊าซโครมาโทกราฟีการทดลองนี้ทําที่อุณหภูมิ 70 80 และ 90 องศาเซลเซียส ความดันคาร์บอนไดออกไซด์ 2 ถึง 5 บาร์ใช้เวลา 2 และ 4 ชั่วโมง ทําการศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเกิดผลิตภัณฑ์ ค่าร้อยละคอนเวอร์ชันของเอมีน ค่าร้อยละของผลิตภัณฑ์คาร์บาเมต เช่น อุณหภูมิ ความดัน ชนิดของสารประกอบเอมีนชนิดและปริมาณของตัวเร่งปฏิกิริยา จากการศึกษาพบว่าภาวะที่เหมาะสมที่สุดในการสังเคราะห์คาร์บาเมตคือ ที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส ความดัน 3 บาร์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง และใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดไบนารี่ ที่ปริมาณ 60 มิลลิกรัม เนื่องจากภาวะนี้ให้ค่าร้อยละคอนเวอร์ชันของเอมีนค่าร้อยละของผลิตภัณฑ์คาร์บาเมตสูงสุดที่ 94.2 และ 78 ตามลําดับคาร์บอนไดออกไซด์การสังเคราะห์คาร์บาเมตจากคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับผลิตพอลิยูรีเทน