ศรีสุดา วงศ์วิเศษกุลมนชยา สมจริตวาสนา จันทร์จ่าย2025-08-152025-09-032025-08-152025-09-03https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=1424https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12706งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณภาพของข้อสอบรายวิชาวิทยาการระบาด การเปลี่ยนแปลงของค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบ การเปลี่ยนแปลงของคะแนนการสอบของนักศึกษารายบุคคลก่อนและหลังการตัดข้อสอบที่มีค่าอำนาจจำแนกติดลบออก และการเปลี่ยนแปลงของลำดับคะแนนจากการสอบของนักศึกษาในวิชาวิทยาการระบาดหลังการตัดข้อสอบที่มีค่าอำนาจจำแนกติดลบออก กลุ่มตัวอย่างคือ ข้อสอบและคะแนนการสอบรายวิชาวิทยาการระบาด ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2555 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ข้อสอบรายข้อตามแนวคิดทฤษฎีการวิเคราะห์แบบทดสอบแบบประเพณีนิยม สถิติ Paired t-test และสถิติ Signed Rank Test ผลการวิจัย พบว่า 1. ข้อสอบกลางภาคร้อยละ 91.70 และข้อสอบปลายภาค ร้อยละ 82.50 มีดัชนีความยากง่าย (P) ระหว่าง .20 - .80 2. ข้อสอบกลางภาคร้อยละ 61.70 และ และข้อสอบปลายภาค ร้อยละ 56.25 มีค่าอำนาจจำแนก (R) ≥ .20 3. ภายหลังจากตัดข้อสอบที่มีค่า r ติดลบออก ค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบกลางภาคและปลายภาค ทั้งฉบับเพิ่มขึ้น (จาก 0.554 เป็น 0.622 และจาก 0.694 เป็น 0.727 ตามลำดับ) ค่าเฉลี่ยคะแนนการสอบกลางภาคและปลายภาคเพิ่มขึ้น (จาก 55.36 เป็น 56.68 และ จาก 49.76 เป็น 51.19 ตามลำดับ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p = .001 นักศึกษาส่วนใหญ่ (ร้อยละ 70.65 และร้อยละ 81.52) มีลำดับคะแนนการสอบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p = .001 เช่นกัน สรุปได้ว่า เมื่อตัดข้อสอบที่มีค่า r ติดลบออกทำให้มีการเปลี่ยนแปลงค่าความเชื่อมั่นของข้อสอบคะแนนสอบและลำดับคะแนนการสอบวิทยาการระบาด -- การสอบผลของการตัดข้อสอบที่มีอำนาจจำแนกติดลบออกต่อคะแนนการสอบและความเชื่อมั่นของข้อสอบทั้งฉบับ: รายวิชาวิทยาการระบาด