พรทิพย์ เดชพิชัยณัฐกฤตา สุวรรณทีปสิรวัลภ์ เรืองช่วย ตู้ประกายจิราภรณ์ พงษ์โสภา2025-08-132025-09-032025-08-132025-09-03https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=2402https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/11927การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กปฐมวัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสำรวจกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแลหลักของกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุตั้งแต่ 0 ปี ถึง 6 ปึ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ปกครอง/ผู้ดูแลหลักของเด็กปฐมวัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 398 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่ำร้อยละ ค่ำเฉลี่ยเลขคณิต ค่ำเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลจากการสำรวจพบว่า ผู้ปกครอง/ผู้ดูแลหลักของเด็กกลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 64.82 มีอายุอยู่ในช่วง 21-40 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัว รายได้ของครอบครัวน้อยกว่า 20000 บาท/เดือน สถานภาพสมรสของผู้ปกครอง/ผู้ดูแลหลักของเด็กกลุ่มตัวอย่าง คือ สมรสอยู่ด้วยกัน ซึ่งคู่สมรสส่วนใหญ่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และ ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัว ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ของเด็กปฐมวัยกลุ่มตัวอย่าง บุตรหรือเด็กในความดูแลของผู้ปกครอง/ผู้ดูแลหลัก มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ ร้อยละ 42.46 และมีพี่น้องสายตรงของบุตรหรือเด็กในความดูแลมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ ร้อยละ 20.10 และมี สมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ ร้อยละ 21.86 เด็กกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มี พี่น้องรวมจำนวน 1 - 2 คน ประวัติการกำเนิดพบว่า เด็กคลอดตามธรรมชาติและคลอดตามกำหนด น้ำหนักแรกคลอดไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติและไม่มีปัญหาแทรกซ้อนหลังคลอด มารดามีอายุมากกว่า 17 ปี เมื่อตั้งครรภ์ ส่วนข้อมูลการเลี้ยงดูของเด็กกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เลี้ยงดูเด็กด้วยนมผสมร่วมกับนมมารดา และได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข การดูแลเด็กก่อนเข้าโรงเรียนนั้น ส่วนใหญ่จะเลี้ยงดูเอง ข้อมูลการเจ็บป่วย พบว่า เด็กกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่มีโรคประจำตัว ร้อยละ 73.12 และมีโรคประจำตัว เช่น ภูมิแพ้ หอมหืด เป็นต้น ลมชัก โลหิตจาง มะเร็ง ร้อยละ 23.62 ซึ่งส่วนใหญ่จะรับการรักษาต่อเนื่อง โดยเข้ารับการรักษาเป็นประจำที่สถานพยาบาลภาครัฐ จากการสอบถามประวัติ การเจ็บป่วยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่เคยป่วยเป็นไข้หวัด โดยภาพรวมผู้ปกครอง/ผู้ดูแลหลักประเมินสุขภาพของเด็กกลุ่มตัวอย่าง ว่า มีสุขภาพแข็งแรงดี สภาพแวดล้อมของเด็กกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวเดี่ยว มีจำนวนสมาชิกในบ้าน 4-6 คน ลักษณะของบ้านพักที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่อยู่ในเขตเทศบาล มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว และ ตั้งอยู่ในซอยในหมู่บ้านห่างจากถนนใหญ่ มีจำนวนห้องนอน 1-2 ห้อง ไม่มีการใช้เครื่องปรับอากาศในห้องนอน ไม่มีการใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้าน ไม่มีการจุดธูปในบ้าน ไม่มีสัตว์เลี้ยงในบ้าน ไม่มีคนสูบบุหรี่ในบ้าน และข้อมูลมลพิษหลักที่มีอยู่รอบบ้านและโรงเรียนของเด็ก คือ ควันรถ ข้อมูลการวินิจฉัยการเป็นโรคภูมิแพ้โดยแพทย์ของเด็กกลุ่มตัวอย่าง พบว่าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้ ร้อยละ 25.88 โดยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภูมิแพ้ หอบหืด แพ้อาหาร เป็นต้น และเด็กส่วนใหญ่ได้รับการวินิจฉัยจะเป็นโรคภูมิแพ้มาแล้วเป็นระยะเวลา 1 ปี และในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เด็กเข้ารักษาในโรงพยาบาลจากโรคภูมิแพ้ จำนวน 1 ครั้ง ในการประเมินระดับความรุนแรงการเป็นโรคภูมิแพ้ของเด็กกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้ พบว่า อาการที่เด็กกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญมีไม่เกิน 2 ครั้ง / สัปดาห์ คือ เหนื่อยง่ายและหอบไอขณะนอน ไอเมื่อสัมผัส ฝุ่นควัน คัดแน่นจมูก น้ำมูกไหล และผู้ปกครอง/ผู้ดูแลหลัก ประเมินว่าเด็กส่วนใหญ่มีอาการระดับรุนแรงมาก และพบว่าสิ่งกระตุ้นสามอันดับแรกที่ทำให้เกิดอาการ คือ ควันบุหรี่ หรือควันพิษต่าง ๆ อุณหภูมิ ความชื้นบริเวณที่อาศัย และฝุ่นจากพรม หมอน ผ้าม่าน ตามลำดับ และพบว่า สิ่งกระตุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำให้เกิดอาการคัดจมูก และไอจาม และพบว่าบริเวณที่มักจะเจอสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เกิดอาการผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ คือ บริเวณนอกบ้านพัก เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ตลาด ฯลฯ พฤติกรรมการป้องกันอาการภูมิแพ้แก่เด็กโดยผู้ปกครอง/ผู้ดูแลหลักของเด็กกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้ พบว่า ผู้ปกครอง/ผู้ดูแลหลักมีพฤติกรรมการป้องกันอาการภูมิแพ้ให้กับเด็กในระดับมากที่สุดในด้านการปฏิบัติตามแผนการรักษา และด้านการดูแลสุขภาพ และมีระดับการปฏิบัติในระดับมากสำหรับด้านการหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการงานวิจัยนี้มีข้อเสนอแนะว่า ควรมีการให้ความรู้อย่างต่อเนื่องกับผู้ดูแลหลักและสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับการใช้ยา การจัดการสิ่งแวดล้อม การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เป็นต้น เพื่อทำให้การดูแลเด็กมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโรคภูมิแพ้ -- เด็กแบบจำลองความเสี่ยงการรเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กปฐมวัย