ชญานันท์ เกิดพิทักษ์2025-08-132025-09-032025-08-132025-09-03https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=2464https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12383การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาภาพรวมของความได้เปรียบในการแข่งขัน ของสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาภาพรวมผลการด าเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ ในประเทศไทย และ 3) เพื่อศึกษาอิทธิพลเชิงสาเหตุของความได้เปรียบในการแข่งขันที่มีต่อผลการ ด าเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย การด าเนินการวิจัยเป็นแบบผสมผสานการวิจัยเชิง ปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรประกอบด้วยสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย การ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีการคัดเลือกแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) โดยแบ่งการ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 400 องค์กร การเก็บรวบรวมข้อมูลเก็บตามกลุ่ม เจ้าหน้าที่ระดับบริหาร 400 องค์กร และเก็บข้อมูลจากกลุ่มของกรรมการด าเนินการ 400 องค์กร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในงานวิจัยประกอบด้วย สถิติ เชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ตัวแบบสมการโครงสร้าง (SEM) ผลจากผลการศึกษาพบว่า ผลการด าเนินงาน (PER) ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากความได้เปรียบ ในการแข่งขัน และได้รับอิทธิพลโดยทางอ้อมจาก ความไว้วางใจ (TRU) การมุ่งเน้นลูกค้า (CUO) ชื่อเสียงองค์กร (COR) และ นวัตกรรมการจัดการ (MAN) โดยผ่านความได้เปรียบในการแข่งขัน (COM) อีกด้วย แสดงว่า นอกจากการมีผลการด าเนินงานที่ดีต้องขึ้นอยู่กับความได้เปรียบในการ แข่งขันที่ดีแล้ว ยังต้องขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ การมุ่งเน้นลูกค้า ชื่อเสียงองค์กร และนวัตกรรมการ จัดการที่ดีอีกด้วย ซึ่งผลการทดสอบ พบว่า PER ได้รับอิทธิพลโดยทางอ้อม โดยที่ TRU มีอิทธิพลโดย ทางอ้อมต่อ PER ที่สัมประสิทธิ์เส้นทางเท่ากับ 0.167 COU มีอิทธิพลโดยทางอ้อมต่อ PER ที่ สัมประสิทธิ์เส้นทางเท่ากับ 0.198 COR มีอิทธิพลโดยทางอ้อมต่อ PER ที่สัมประสิทธิ์เส้นทางเท่ากับ 0.171 และ MAN มีอิทธิพลโดยทางอ้อมต่อ PER ที่สัมประสิทธิ์เส้นทางเท่ากับ 0.237โดยมีการทดสอบอิทธิพลที่ระดับนัยส าคัญ 0.01สหกรณ์ออมทรัพย์ -- การบริการ