แว่นแก้ว ลีพึ่งธรรมกมลวรรณ ตั้งเจริญบำรุงสุขทยุ บุตรประดิษฐ์อรุณชัย ตั้งเจริญบำรุงสุขชูชาติ ธรรมเจริญ2025-08-132025-09-032025-08-132025-09-03https://ebooks.dusit.ac.th/detail.php?recid=2473https://repository.dusit.ac.th/handle/123456789/12569กลุ่มอาการออทิสติกเป็นความผิดปกติทางพัฒนาการทเป็นผลจากความผิดปกติของสมอง ซึ่งในทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดขึ้นในขณะเป็นทารกในครรภ์ของมารดา เนื่องจากช่วงที่เกิดการพัฒนาเป็นระบบประสาทและสมองในทารกเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ลายนิ้วมือเกิดขึ้น จึงอาจเป็นไปได้ ว่าหากสมองผิดปกติแล้ว ลายนิ้วมืออาจผิดปกติด้วย ในโครงการวิจัยนี้ได้ประยุกต์ใช้การวิเคราะห์ ลายนิ้วมือในการตรวจเพื่อระบและจำแนกเด็กที่เป็นออทิสติกกับเด็กปกติ โดยใช้ตัวอย่างเด็กออทิสติก จำนวน 21 คน และเด็กปกติจำนวน 38 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 3 ถึง 7 ขวบ และได้รับความยินยอม จากผู้ปกครองของเด็กแล้ว ตรวจวัดลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วของเด็กทั้งหมดโดยใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ ชนิดอินฟราเรดที่มีความละเอียดจัดภาพเป็น 512 จุดต่อนิ้วและเก็บข้อมูลแบบสเกลสีเทาชนีด 8 บิต ทำการวิเคราะห์ลายนิ้วมือโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ส่วนประกอบมุขสำคัญ เพื่อระบุตำแหน่งของ กลุ่มตัวอย่างของเด็กออทิสติกและเด็กปกติในปริภูมิของ 3 ส่วนประกอบมุขสำคัญแรก พบว่า ลายนิ้วมือของนิ้วก้อยซ้ายของกลุ่มเด็กออทิสติกแตกต่างอย่างชัดเจนจากกลุ่มเด็กปกติ แล้วทำการจำแนกความแตกต่างโดยใช้วิธีแนวเทียบกลุ่มของแบบจำลองอิสระเปลี่ยนได้ พบว่า สามารถจำแนก ความแตกต่างของลายนิ้วมือของนิ้วก้อยซ้ายได้อย่างถูกต้องทั้งหมด จากผลการวิจัยดังกล่าวจึงมีความเป็นไปได้ที่จะใช้การวิเคราะห์ลายนิ้วมือนี้ในการช่วยตรวจคัดกรองเด็กออทิสติกในเบื้องต้นได้ต่อไปเด็กออทิสติก -- พฤติกรรมการวิเคราะห์ความผิดปกติของลายนิ้วมือในเด็กออทิสติก: โอกาสในการใช้เป็นเครื่องมือช่วยเหลือในการตรวจคัดกรอง